ACE เดินหน้าลุยพลังงานสะอาด COD โซลาร์ฟาร์มเพิ่มอีก 2 โครงการ

ACE เร่งเครื่องเพิ่มพอร์ตพลังงานสีเขียว ล่าสุดกดปุ่ม COD โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มเพิ่มอีก 2 โครงการ กำลังผลิตเสนอขาย 7.38 เมกะวัตต์ แย้มไตรมาส 3 จะมีเข้ามาอีกหลายโครงการ

นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานสะอาดของไทย เปิดเผยว่า โครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนสำหรับพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) จำนวน 2 โครงการ ดำเนินการโดยบริษัทย่อยที่ ACE ถือหุ้นโดยอ้อมในสัดส่วนร้อยละ 100 ได้แก่ บริษัท โรงไฟฟ้าชุมชนหนองบัวลำภูพัฒนา จำกัด และบริษัท อัลไลแอนซ์ คลีน เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) รวมเป็นจำนวน 7.38 เมกะวัตต์ ได้เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 และวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ตามลำดับ

สำหรับทั้ง 2 โครงการเป็นส่วนหนึ่งของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ ACE ชนะการประมูลโครงการพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 - 2573 รวม 18 โครงการ กำลังการผลิตเสนอขาย (PPA) รวม 112.73 เมกะวัตต์ โดยที่ผ่านมาได้มีการทยอยเปิด COD ต่อเนื่องเป็นระยะ และคาดว่าจะสามารถเปิด COD โรงไฟฟ้ากลุ่มนี้เพิ่มเติมได้อีกภายในไตรมาส 3 ปีนี้ หากมีความคืบหน้าบริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อนับรวมโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินที่เปิด COD 2 โครงการล่าสุดแล้ว ปัจจุบัน ACE มีโครงการโรงไฟฟ้ารวม 92 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 758.25 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 37 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 366.16 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 55 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 392.09 เมกะวัตต์ อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล VSPP จำนวน 9 โครงการ ที่ได้ PPA คืนมาจาก กฟภ. โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนจำนวน 7 โครงการ

อนึ่ง ACE ยังคงตั้งเป้ามุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ให้ได้ภายในปี พ.ศ.2593 ซึ่งสอดรับตามกลยุทธ์ธุรกิจในการตั้งเป้ามุ่งสู่การเป็น “ต้นแบบผู้นำด้านธุรกิจพลังงานสะอาดของโลก” ที่ยึดมั่นมาตลอด อันจะช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกจากภายในองค์กรไปสู่สังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน