GULF โกยกำไรเพิ่มปีละ 2 พันลบ. หลังฮุบเขื่อน “ปากลาย” เต็ม 100% โบรกฯชี้หนุนราคาเป้าหมายอีก 2-3 บาท

จากกรณี GULF รายงานว่า บริษัทย่อยของบริษัท ได้เข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 60% ใน Pak Lay Power Company Limited จาก SHK คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 128 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 4.1 พันล้านบาท)  โดยเป็นการเข้าซื้อทั้งส่วนของทุนและเงินกู้ยืมจากผู้ถือหุ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Pak Lay ทั้งทางตรงและทางอ้อมรวมทั้งสิ้น 100%

โดยโครงการ Pak Lay เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบน้ำไหลผ่านตลอดปี (Run-of-the-River) ที่ไม่มีการกักเก็บน้ำในรูปแบบของเขื่อนประเภทอ่างเก็บน้ำ (Reservoir)และไม่มีการเบี่ยงน้ำออกจากแม่น้ำโขงแต่ใช้การไหลของน้ำตามธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้า โดยที่ปริมาณน้ำไหลเข้าเท่ากับปริมาณน้ำไหลออก ดังนั้น จึงไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำในแม่น้ำโขง ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของบริษัทที่มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

สำหรับโครงการดังกล่าว มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 770 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่บนแม่น้ำโขง เมืองปากลาย แขวงไซยะบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ประเมินว่าจะมี upside ต่อประมาณการกําไร ประมาณ 2 พันล้านบาทต่อปี โดยจะ COD ในปี 2576 และ upside to target price ประมาณ 3-4% (2-3 บาท)

ส่วนความเห็นนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองว่า เบื้องต้นคาดประเด็นดังกล่าวจะเป็น Upside ให้กับราคาเหมาะสมของ GULF ได้ราว 2.00-2.50 บาท/หุ้น  และยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 57.00 บาท/หุ้น