รายงานพิเศษ : MENA รับอานิสงส์ก่อสร้าง สาธารณูปโภคพื้นฐานภาครัฐโต หนุนความต้องการใช้ซีเมนต์เพิ่ม

การก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานภาครัฐ ทั้งโครงการใหม่และโครงการต่อเนื่องขยายตัวต่อเนื่อง หนุนความต้องการใช้และราคาซีเมนต์ปรับเพิ่มขึ้น ดันผลงาน บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) เติบโตต่อเนื่อง

กระทรวงพาณิชย์รายงาน ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือน มิ.ย.68 เท่ากับ 113.6 เพิ่มขึ้น 0.3% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 โดยมีสาเหตุมาจากความต้องการใช้ในโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานของภาครัฐ ทั้งโครงการใหม่และโครงการต่อเนื่อง

รวมถึงหลายสินค้ามีต้นทุนการผลิตและราคาวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้น จึงมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น อาทิ ไม้ ซีเมนต์ คอนกรีต อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา ยางมะตอย ดิน ทราย แต่หลายสินค้าก็มีราคาปรับลดลง อาทิ เหล็ก กระเบื้อง สุขภัณฑ์ วัสดุฉาบผิว 

ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือน ก.ค.2568 และไตรมาสที่ 3 ปี 2568 ยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากหลายปัจจัย คือ การขยายตัวของการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ ความกังวลเรื่องคุณภาพเหล็กและการเข้มงวดในการใช้ผลิตภัณฑ์เหล็กที่ได้มาตรฐานทำให้มีความต้องการเหล็กได้มาตรฐานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาคส่งผลให้ราคาน้ำมัน ราคาพลังงาน และราคาโลหะภัณฑ์ (เหล็ก อลูมิเนียม ทองแดง) ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตสินค้าวัสดุก่อสร้าง มีความผันผวนสูง และมีแนวโน้มสูงขึ้น

บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) ส่งสัญญาณธุรกิจครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่อง ตามอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และก่อสร้างที่มีแนวโน้มสดใส ฟากซีอีโอ "สุวรรณา ขจรวุฒิเดช" ระบุเดินหน้าขยายฟลีทขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค หวังสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมตอกย้ำผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 10% สร้างสถิติสูงสุดใหม่

ความต้องการใช้ซีเมนต์ที่เพิ่มขึ้นส่งผลดีต่อธุรกิจ  บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) ผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) รายใหญ่ของประเทศ ซึ่ง “สุวรรณา ขจรวุฒิเดช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MENA มั่นใจธุรกิจในครึ่งหลังปี 2568 ยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจการให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกซ์เซอร์ และธุรกิจการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงและทางหลวงพิเศษ ที่ช่วยกระตุ้นการก่อสร้างและส่งผลดีโดยตรงต่อธุรกิจขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จ

รวมถึงแนวโน้มการย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยจากผลกระทบของนโยบายภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ยังน่าจะช่วยผลักดันการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างโดยเฉพาะคอนกรีตผสมเสร็จ ขณะที่การบริโภคภายในประเทศ คาดว่าจะฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ส่งผลให้ธุรกิจขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคเติบโตต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ ซึ่งจะเป็นผลดีกับ บริษัท ทีดี เอ็มลอจิสติกส์ จำกัด (TDM) อีกทั้ง TDM ยังมีแผนขยาย Fleet รถเป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับการขยายสาขาของบริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป (CJ) ทำให้บริษัทฯ มั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

"บริษัทฯ เชื่อว่าภาพรวมธุรกิจและผลการดำเนินงานของ MENA ในครึ่งปีหลังนี้จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก จากปัจจัยสนับสนุนด้านอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมการก่อสร้างที่มีแนวโน้มฟื้นตัว ส่งผลให้ธุรกิจขนส่งสินค้าทุกประเภทขยายตัวตามไปด้วย ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ที่จะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้ได้อย่างมีนัยสำคัญ และเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสในการขยาย Fleet เพิ่มเติม ผ่านทางการมองหาพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อขยายตลาดร่วมกันโดยเฉพาะงานขนส่งด้วยรถ EV ควบคู่ไปกับการบริหารFleet รถที่มีอยู่แล้วให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด" นางสุวรรณา กล่าว