กระดานข่าว

CPANEL โชว์แบ็คล็อค 1,311.36 ล้านบาท ครึ่งหลัง 68 รับรู้รายได้ต่อเนื่อง ขยายฐานงานรัฐ-เอกชน


17 กรกฎาคม 2568

CPANEL โชว์แบ็คล็อค 1,311.36 ล้านบาท เผยครึ่งปีหลัง 2568 รุกขยายฐานลูกค้าทั้งภาครัฐ-เอกชน พร้อมรักษาฐานลูกค้าเดิมกลุ่มอสังหาฯ สร้างการรับรู้รายได้สม่ำเสมอ ควบคู่บริหารต้นทุนมีประสิทธิภาพ คงฐานะการเงินแข็งแกร่ง ชูจุดเด่นผลิตภัณฑ์ Precast Earthquake Resistance ผลิตด้วยระบบ Fully Automated สร้างโอกาสคว้างานเพิ่ม 

คุณชาคริต CPANEL-68-2 (1).jpg

นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) (CPANEL) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) ด้วยระบบอัตโนมัติ(Fully Automated Precast) ที่ใช้สำหรับงานก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ทิศทางการรับรู้รายได้ช่วงครึ่งปีหลัง 2568 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการส่งมอบงานโครงการประเภทอาคารที่อยู่อาศัยและสำนักงานของกลุ่มลูกค้าภาครัฐ ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 1,311.36 ล้านบาท แบ่งเป็นงานภาครัฐ 50% และภาคเอกชน 50% 

โดยยังคงมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าภาครัฐและเอกชนให้หลากหลาย โครงการภาครัฐ อาทิ อาคารที่พักอาศัยข้าราชการ สถานศึกษา และโรงพยาบาล ภาคเอกชน อาทิ กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว-บริการ ค้าปลีก และโครงการที่พักอาศัยแนวราบลักชัวรีขนาดกลาง ที่สามารถรับรู้รายได้เร็ว อีกทั้งให้ความสำคัญกับการรักษาฐานลูกค้าเดิมในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง 

ทั้งนี้การขยายฐานลูกค้าดังกล่าว จะส่งผลให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้อย่างสม่ำเสมอ เพิ่มความสามารถทำกำไรให้กลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ และบริษัทยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานทุกด้านอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อคงฐานะการเงินที่แข็งแรงของกิจการ 

“CPANEL ให้ความสำคัญกับการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มภาครัฐ ซึ่งมองเห็นถึงโอกาสในการเติบโตสูง จากความต้องการผลิตภัณฑ์ Precast Concrete ที่มีมาตรฐาน คุณภาพสูง และทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว เป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ CPANEL ที่ผลิตด้วยระบบอัตโนมัติ Fully Automated Precast ช่วยลดข้อผิดพลาดและควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงได้ตามมาตรฐาน ในราคาที่แข่งขันได้ ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถคว้างานโครงการภาครัฐขนาดกลางและขนาดใหญ่เข้ามาเพิ่มได้อีก จะช่วยหนุนให้รายได้ทยอยปรับตัวดีขึ้นในทุกไตรมาส” นายชาคริต กล่าว