กระดานข่าว

เมย์แบงก์ เพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนไทย เปิดโอกาสลงทุนหุ้นตปท.ผ่าน DR


07 กรกฎาคม 2568

บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) มองหุ้นไทยขาดปัจจัยสนับสนุน และยังถูกปัจจัยกดดันจากการเก็บภาษีของสหรัฐฯและการเมืองในประเทศ  แนะลงทุนในหุ้นต่างประเทศผ่าน DR 4 ตัวเด่น  VISA80, LLY80, XIAOMI80 และ TENCENT80

เมย์แบงก์.jpg

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา Head of Investment Solutions บล.เมย์แบงก์(ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลัง  การซื้อขายยังอยู่ในระดับต่ำ  เนื่องจากขาดปัจจัยที่เข้ามาสนับสนุน และยังมีปัจจัยที่เข้ามากระทบจาก ความไม่ชัดเจนการเก็บภาษีของสหรัฐฯ  ปัญหาการเมืองในประเทศและความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน  

“บล.เมย์แบงก์มองว่าดัชนีหุ้นไทยปีนี้จะอยู่ที่ 1,290  จุด ซึ่งปรับลดลงจากเดิมที่คาดการณ์ที่ 1,400  จุด  และเชื่อว่า กำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ปรับลดลง ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา” นายกิติชาญกล่าว 

ด้าน นายต่อตระกูล  สัตยาประเสริฐ Head of Structuring and Products Development  ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  ธนาคารเป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญของเมย์แบงก์ในการส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศผ่าน ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ หรือ DR (Depositary Receipt)  

ซึ่ง DR นับเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้นักลงทุนไทยสามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ในต่างประเทศหรือเผชิญข้อจำกัดด้านกฎหมายและสกุลเงินต่างประเทศ ด้วยการซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นักลงทุนสามารถลงทุนในบริษัทชั้นนำระดับโลกได้โดยตรง พร้อมทั้งรับเงินปันผลผ่านระบบศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน และเปิดโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทนจากการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

ซึ่งปัจจุบัน กรุงไทยได้ออกDR แล้ว 41  ตัว คิดเป็นมูลค่าตลาดประมาณ 18,000 ล้านบาท  หรือมีสัดส่วนประมาณ 50% ของมูลค่าตลาด DR ที่อยู่ที่ 35,000  ล้านบาท   

สำหรับในช่วงเวลานี้ เมย์แบงก์แนะนำ DR ตัวเด่น 4 ตัวที่น่าจับตามอง ได้แก่

1.VISA80 ผู้นำระดับโลกด้านระบบการชำระเงินที่ได้รับอานิสงส์จากกระแสดิจิทัลและเทรนด์ไร้เงินสดทั่วโลก มีรายได้มั่นคงและขยายบริการอย่างต่อเนื่อง; 

2.LLY80 หรือ Eli Lilly เป็นหุ้นกลุ่ม Healthcare ที่เติบโตโดดเด่นจากยอดขายยารักษาเบาหวานตัวใหม่ (Mounjaro) และการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 

3.XIAOMI80 หุ้นที่ได้แรงขับเคลื่อนจากธุรกิจ Smart EV และการสนับสนุนของภาครัฐจีน ซึ่งช่วยหนุนให้ราคาหุ้นยังมี Upside ที่น่าสนใจ 

4.TENCENT80 ที่กลับมาได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนหลังรัฐบาลจีนผ่อนคลายกฎระเบียบ มีรายได้จากธุรกิจเกมส์ออนไลน์ โฆษณาและฟินเทคที่เติบโตต่อเนื่อง พร้อมจุดเปลี่ยนสำคัญจากการพัฒนา Hunyuan AI 

โดย DR ทั้ง 4 ตัวนี้มี Upside อยู่ระหว่าง 8.2% ถึง 26.5% สะท้อนโอกาสในการเติบโตที่ชัดเจน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายพอร์ตในต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่ปัจจุบันธนาคารกรุงไทยได้ออก DR ครอบคลุมหุ้นชั้นนำจากหลากหลายภูมิภาค อาทิ สหรัฐอเมริกา เช่น Apple (AAPL80), Microsoft (MSFT80), Amazon (AMZN80), Tesla (TSLA80), Nike และ Netflix; ยุโรป เช่น Ferrari (FERRARI80), Hermes (HERMES80), และ L’Oreal; ญี่ปุ่น เช่น Sony และ Toyota; จีนและฮ่องกง เช่น Alibaba (BABA80), Tencent และ Meituan; รวมถึงสิงคโปร์ เช่น Singtel (SINGTEL80) ความหลากหลายของ DR เหล่านี้ช่วยให้นักลงทุนไทยสามารถกระจายการลงทุนได้อย่างยืดหยุ่น ลดข้อจำกัดด้านภาษี สกุลเงิน และกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมเปิดประตูสู่โอกาสในตลาดทุนระดับโลก