Key points
- ก.ล.ต. และ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ผนึกพลังเสริมแกร่ง บจ. ไทย ผ่าน 2 โครงการหลักดำเนินการควบคู่ต่อเนื่องกัน ได้แก่
- โครงการ “Corporate Value Up” โดยก.ล.ต. เพื่อส่งเสริมให้ บจ. สามารถเพิ่มมูลค่ากิจการ
ในระยะยาว โดยมุ่งเน้นการมีธรรมาภิบาลดีเลิศ มีแผน Value Up ที่ชัดเจน ตลอดจนสื่อสารกับผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง พร้อมกลไกสนับสนุนผ่านกองทุน Thai ESG และ Thai ESGX - โครงการ “JUMP+” โดย ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชูการส่งเสริม บจ. พัฒนาระยะยาว 3 ปี เปิดช่องทางติดตามความคืบหน้าแผนงาน บจ. ต่อเนื่อง โปร่งใส สร้าง visibility พร้อมการสนับสนุนจากพันธมิตร ตั้งเป้า 100 รายภายในปีนี้
หน่วยงานภาคตลาดทุนจับมือร่วมยกระดับบริษัทจดทะเบียนไทย เสริมแกร่ง สร้างโอกาสการเติบโต ผ่าน 2 โครงการ ได้แก่ “Corporate Value Up” โดย ก.ล.ต. และ “JUMP+” โดย ตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมเดินหน้าแพคเกจสนับสนุนบริษัทจดทะเบียนในหลายมิติ มุ่งเสริมความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย ส่งเสริมการเติบโตยั่งยืน
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า “ตลาดทุนในเอเชียกำลังเผชิญกับความท้าทายทั้งด้านผลตอบแทนและความเชื่อมั่นจากผู้ลงทุน หลายประเทศจึงเริ่มขับเคลื่อนนโยบายการสร้างมูลค่าของกิจการในระยะยาว หรือ “Value Up” เพื่อยกระดับธรรมาภิบาลสร้างคุณค่าในระยะยาวแก่
ผู้ถือหุ้น ขณะที่ประเทศไทยกำลังยืนอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญ หากเราต้องการให้บริษัทจดทะเบียนเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน การเปลี่ยนผ่านสู่แนวทาง Value Up คือโอกาสสำคัญ ก.ล.ต. จึงผลักดันโครงการ “Corporate Value Up” ให้เป็นกลไกหลักในการยกระดับธรรมาภิบาลของภาคธุรกิจไทยทำหน้าที่เป็น ‘กรอบกลยุทธ์’ และ ‘กลไกส่งสัญญาณตลาด’ โดยเชื่อมโยงกับการออกแบบแรงจูงใจเชิงนโยบายผ่านกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) และโครงการ JUMP+ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านเชิงระบบอย่างเป็นรูปธรรม นำไปสู่การสร้างตลาดทุนไทยที่แข็งแกร่ง น่าเชื่อถือ และยั่งยืนในระดับสากล
สำหรับโครงการ “Corporate Value Up” ภายใต้กรอบแนวคิดหลักที่ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ ได้แก่ (1) ธรรมาภิบาลระดับดีเลิศ (2) แผน Value Up ที่ชัดเจนทั้งด้านแผนกลยุทธ์มุ่งเน้นเพิ่มมูลค่ากิจการและแผนการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม ระยะเวลาภายใน 2 ปี และ (3) การสื่อสารกับนักลงทุนอย่างโปร่งใส หากบริษัทจดทะเบียนมีองค์ประกอบครบถ้วนจะมีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์เป็นหลักทรัพย์ที่ Thai ESG หรือ Thai ESGX สามารถลงทุนได้ ซึ่งปัจจุบันมี 2 บริษัทที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติดังกล่าวแล้ว”
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ตลาดหลักทรัพย์ฯ ริเริ่มโครงการ “JUMP+” สนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนพัฒนาการดำเนินงานและการขับเคลื่อนความยั่งยืน เพื่อประโยชน์แก่บริษัทจดทะเบียน ผู้ถือหุ้น และตลาดทุนโดยรวม ซึ่งบริษัทต้องทำแผน JUMP+ ประกอบด้วยแผนด้านธุรกิจ แผนด้านธรรมาภิบาล
และแผนจัดการก๊าซเรือนกระจก โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ และพันธมิตรสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนของ บจ. ที่เข้าร่วมโครงการ อาทิ ค่าใช้จ่ายสำหรับการว่าจ้างที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) การขยาย visibility ทั้งในและต่างประเทศผ่านกิจกรรม roadshow กิจกรรม Opportunity Day การจัดทำบทวิเคราะห์ และโปรโมทผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ และพันธมิตร การที่บริษัทจดทะเบียนดำเนินการตามแผนดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่ง กระตุ้นการเติบโต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ขณะเดียวกัน ยังเพิ่มความน่าสนใจให้ตลาดทุนไทยด้วย เชื่อว่าในปีแรกจะมีบริษัทจดทะเบียนเข้าร่วมโครงการ 100 บริษัท ทั้งนี้ บริษัทที่ร่วม JUMP+ จะได้เข้าสู่โครงการ “Corporate Value Up” หากมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ของ สำนักงาน ก.ล.ต.
โครงการ “JUMP+” เป็นโครงการระยะยาว โดยบริษัทที่ร่วมโครงการจะมีการจัดทำแผนการเติบโต 3 ปี (2569-2571) เปิดเผยเป้าหมายและแผนงานให้ไปสู่เป้า เปิดเผยความคืบหน้า และสื่อสารกับผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ร่วมโครงการ ผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ
“โครงการ Jump+ จะช่วยให้ผู้ลงทุนเข้าถึงข้อมูลแผนการเติบโตของบริษัทจดทะเบียน พร้อมทั้งทราบถึงความคืบหน้าในการดำเนินงานตามแผนงานอย่างต่อเนื่อง อาทิ Opportunity Day ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่มีศักยภาพในการเติบโต นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังมีแผนในการจัดกิจกรรม Jump+ Corporate Day เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนมาพบกับผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่เข้าร่วมโครงการ Jump+ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุน ได้รับข้อมูลเพิ่มเติม ประกอบการตัดสินใจลงทุนอีกด้วย” นายอัสสเดชกล่าวเสริม
ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มเห็นแผนงาน Jump+ ของบริษัทจดทะเบียน ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2568 เป็นต้นไป และจะสามารถติดตามการดำเนินงานตามแผนงานของบริษัท ได้ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2569
การดำเนินทั้ง 2 โครงการคือ “Corporate Value Up” และ “JUMP+” อย่างควบคู่ต่อเนื่องกัน สะท้อนถึงการที่หน่วยงานภาคตลาดทุนคือ ตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงาน ก.ล.ต. มีความมุ่งหมายที่ตรงกัน ในการพัฒนาคุณภาพของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งนอกจากจะเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของตลาดทุนแล้ว การที่บริษัทจดทะเบียนแข็งแกร่ง ยังส่งผลดีต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศด้วย
สำหรับบริษัทจดทะเบียนและผู้ลงทุนที่สนใจ สามารถศึกษารายละเอียดทั้งสองโครงการ ได้ที่
Corporate Value Up https://www.set.or.th/th/market/information/securities-list/thaiesg
JUMP+ https://www.set.or.th/th/market/information/jump-plus/overview
ยอดนิยม
_%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%20S2T.jpg)
ค่าเงินบาทวันนี้ 27 มิ.ย. 2568

ราคาทองวันนี้ 27 มิ.ย. 68 เปิดตลาดปรับลด 200 บาท เช็คราคารูปพรรณล่าสุด
.jpg)
ภาคตลาดทุนเดินหน้าหนุน บจ. ไทย เติบโต ยั่งยืน เพิ่มความเชื่อมั่น
SMEs ไทยปล่อยของ โชว์ไอเดียล้ำ เซเว่นฯ ร่วมผลักดัน 32 สุดยอดนวัตกรรมเปลี่ยนโลกธุรกิจ ผนึก 10 องค์กรพันธมิตร มอบรางวัล “7 Innovation Awards 2025” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
.jpg)