Wealth Sharing

เปิดลิสต์ 5 หุ้น SET100 พื้นฐานแน่น-ปีนี้กำไรเติบโต แถมไม่เสี่ยงโดน Force Sell


25 มิถุนายน 2568

กระแส Force Sell กลับมาเป็นประเด็นร้อนในตลาดทุนอีกครั้ง หลัง 3 หุ้นดังอย่าง BEC, KTC และ XPG ร่วงหนัก ดิ่งฟลอร์ นักลงทุนรายย่อยเจ็บกันถ้วนหน้า ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าอาจมีการนำหุ้นไปวางค้ำประกันในบัญชีมาร์จิ้น จนถูกบังคับขายเมื่อราคาหลุดระดับวิกฤต

เปิดลิสต์ 5 หุ้น SET100_WS (เว็บ) copy.jpg

แม้บรรยากาศตลาดจะเต็มไปด้วยความผันผวน แต่นักลงทุนยังมีตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะในดัชนี SET100 ยังมีหุ้นพื้นฐานแน่น ปลอดภัยจากแรงบังคับขาย และไม่หวั่นแม้แรงเหวี่ยงจะกลับมาสะเทือนตลาด

ดังนั้นบทความนี้จะพาไปเปิดลิสต์ หุ้น SET100 ที่พื้นฐานแกร่ง ไม่หวั่น Force Sell เพื่อลดความเสี่ยง สร้างความมั่นใจให้พอร์ตในช่วงตลาดผันผวนแบบนี้

หากอ้างอิงความเห็นนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยฯ ทำการค้นหาหุ้นใน SET100 พบว่า มีถึง 45 บริษัท ที่นักลงทุนมีการวาง MARGIN ซื้อหุ้นในสัดส่วนที่น้อยไม่ถึง 1% ของจำนวนหุ้นจด ทะเบียน

โดยกลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว พร้อมกับนักลงทุนมีการวาง MARGIN ระดับต่ำไม่ถึง 1% ของ จำนวนหุ้นจดทะเบียน อาทิ หุ้นหวังสงครามสงบชั่วคราว CRC, AOT, CENTEL, BH, BDMS, MINT หุ้นรับค่าเงิน บาทแข็งค่า GPSC,  BGRIM หุ้นงบประมาณปี 69 มีโอกาสผ่าน TASCO, WHA  

หากเข้าไปสำรวจข้อมูลบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานที่นักลงทุนถามเข้ามาบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็น  CENTEL, BDMS, MINT, GPSC และ WHA  

โดยพบว่า CENTEL นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น CENTEL ราคาเป้าหมาย 35 บาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตของกำไรที่ต่อเนื่อง กำไรในไตรมาส 2/68

ได้แรงหนุนจากการกลับมาเปิดดำเนินการของโรงแรมใน พัทยา และ ภูเก็ต รวมถึงแรงส่งที่แข็งแกร่งจาก โอซาก้า แม้ว่าอัตราการเติบโตของ RevPAR จะอยู่ในระดับปานกลางที่ 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านธุรกิจอาหารยังได้รับแรงหนุนจากส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากบริษัทร่วมทุน (JV) ดังนั้นคงประมาณการกำไรหลักปี 68 ไว้ที่ 1.8 พันล้านบาท เติบโต 6% จากปีก่อน 

ต่อที่ BDMS นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” สำหรับ BDMS ราคาเป้าหมาย 33 บาท และเลือกเป็นหุ้นเด่นกลุ่มฯ เนื่องจากมีความได้เปรียบในการแข่งขันจาก Synergy ของเครือข่าย รพ.ครอบคลุมทั่วประเทศ และกลุ่มลูกค้ามีความหลากหลาย ทำให้มีโอกาสเติบโตระยะยาว โดยคาดปีนี้มีกำไรสุทธิ 16,892 ล้านบาท เติบโต 6% จากปีก่อน

MINT นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 34 บาท คาดรายได้หลักโตต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังของปี 68 หนุนจากโรงแรมในยุโรป (สัดส่วน 56% ของรายได้รวม) ไทย และมัลดีฟส์

ทั้งนี้ภาพรวมปี 68 คาดกำไรสุทธิ 10,435 ล้านบาท โต 21.32% จากปีก่อน หนุนจากรายได้โรงแรมที่เติบโตขึ้นผ่าน Asset Light Model และการ Renovate ห้องพัก อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังคงมีปัจจัยกังวลจากแนวโน้มการแข่งขันในตลาดท่องเที่ยวรุนแรงขึ้น รวมถึงแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนตลอดจนประเด็นความไม่ปลอดภัยเรื่องการเที่ยวในไทย

ขณะที่ GPSC บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 40.00 บาท โดยประมาณการกำไรปกติปี 2568 ที่ 4.6 พันล้านบาท เติบโต 20% ตากปีก่อนได้รับแรงหนุนจากโครงการ Avaada ซึ่งทยอย COD ต่อเนื่อง (4.7GW ในปี 67 เป็น 6.9GW ในปี 68) และโครงการ CFXD 149MW เดินเครื่องเต็มในปี 68 รวมถึงโครงการไซยะคาดว่าไม่มีหยุดเดินเครื่องอีกจากสภาวะอากาศที่อยู่ในเกณฑ์ปกติ

และ WHA นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 4.06 บาท โดยคาดปี 68 มีกำไร 4.5 พันล้านบาท เติบโต 4% จากปีก่อน จากแนวโน้มยอดขายที่ดินครึ่งแรกของปี 68 เร่งตัวขึ้น หนุน Backlog แข็งแกร่ง และอัตรากำไรขั้นต้นการโอนที่ดินอยู่ในระดับสูง สิ้นไตรมาส 1/68 มี Backlog ราว 1,538 ไร่ 

เปิดลิสต์ 5 หุ้น SET100_WS (เพจ) copy.jpg