กระดานข่าว

BCPG ร่วมกับ NT ผนึกกำลังสร้าง Data Center แห่งอนาคต ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลไทยสู่ความยั่งยืน


25 มิถุนายน 2568

BCPG ผนึก NT.png

บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียนของประเทศไทย ประกาศความร่วมมือกับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ในการเป็นพันธมิตรเพื่อลงทุนและพัฒนา Sustainable Data Center รองรับความต้องการใช้งานด้านคลาวด์ภาครัฐและเอกชน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในอนาคต 

ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการผสานจุดแข็งของทั้งสององค์กรอย่างลงตัว โดย NT มีความพร้อมด้านโครงข่ายโทรคมนาคมระดับประเทศ ศูนย์ข้อมูลพื้นฐาน และความเชี่ยวชาญในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัลภาครัฐ ส่วนบีซีพีจีมีความเชี่ยวชาญในการผลิตพลังงานสะอาดจากหลากหลายเทคโนโลยี ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังน้ำ และพลังงานลม ครอบคลุมทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค และเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนในนวัตกรรมพลังงานสีเขียวเพื่อสร้างโลกให้ยั่งยืนเสมอมา

คุณรวี บญสินสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทฯ มุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมพลังงานสะอาดมาโดยตลอด ทั้งนวัตกรรมการผลิตไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐานและโซลูชั่นสำหรับพลังงานอัจฉริยะ ความร่วมมือกับ NT ในครั้งนี้ถือเป็น New S-Curve ของบริษัทฯ ในการเข้าสู่ธุรกิจการให้บริการ Sustainable Data Center ซึ่งมุ่งเน้นการให้บริการคลาวด์แก่ภาครัฐ (Government Cloud) ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ซึ่งทางบีซีพีจีเองมีความพร้อมในการต่อยอดพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าของเราเพื่อรองรับการเติบโตของ Data Center ในอนาคต”

พันเอก สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ NT เปิดเผยว่า “ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล  ของชาติ NT เชื่อว่า Sustainable Data Center คือก้าวสำคัญในการต่อยอดการให้บริการด้านโทรคมนาคมและดิจิทัล สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลที่ยั่งยืน เรามีความพร้อมทั้งโครงข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศ ศูนย์ข้อมูล ระบบเกตเวย์ และโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ ซึ่งสามารถต่อยอดสู่บริการด้าน AI และ ESG Solutions ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้เต็มรูปแบบ การมีศูนย์ข้อมูลที่ใช้พลังงานสะอาดไม่ใช่เป็นแค่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นในการรองรับข้อมูลภาครัฐและองค์กรที่ต้องการเดินหน้าสู่ Net Zero”

นอกจากนี้ความร่วมมือดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อภาครัฐและประเทศด้านความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลจากการจัดเก็บข้อมูลสำคัญของรัฐภายในประเทศบนระบบที่ได้มาตรฐานระดับสากล ทั้งยังสอดรับนโยบาย ESG ภาครัฐสามารถใช้บริการที่สอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของชาติ และ Digital Economy อย่างเป็นรูปธรรม