กระดานข่าว

ธนาคารกลาง คาดว่าการถือครองทองคำของทุกภาคส่วนจะยังคงเพิ่มขึ้น ท่ามกลางความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก


17 มิถุนายน 2568

ในวันนี้ สภาทองคำโลก (World Gold Council: WGC) ได้เผยรายงานจากผลสำรวจล่าสุดประจำปี 2568 ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผู้จัดการฝ่ายบริหารเงินทุนสำรองของธนาคารกลางมากกว่า 9 ใน 10 (หรือกว่า 95%) คาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะเพิ่มการถือครองสำรองทองคำอย่างต่อเนื่องในช่วง 12 เดือนข้างหน้า และเป็นสถิติที่สูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บข้อมูลในปี 2562 โดยเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับผลสำรวจปี 2567

Shaokai _2s.jpg

จากการสำรวจทุนสำรองทองคำของธนาคารกลาง ประจำปี 2568 (Central Banks Gold Reserves: CBGR) ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากธนาคารกลางทั่วโลกจำนวน 73 แห่ง เผยว่าเกือบ 43% ของธนาคารกลางมีแผนที่จะเพิ่มทุนสำรองทองคำภายในปีหน้า ความนิยมในทองคำของผู้จัดการฝ่ายบริหารเงินทุนสำรองยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้ราคาทองคำจะพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์และธนาคารกลางมีการซื้อทองคำต่อเนื่องมาแล้ว 15 ปี

ทองคำยังคงถูกใช้เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อช่วยกระจายความเสี่ยง ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงกดดันผู้จัดการฝ่ายบริหารเงินทุนสำรองอย่างต่อเนื่อง โดยแรงจูงใจหลัก 3 ประการในการถือครองทองคำได้เปลี่ยนมาเป็น วิธีการเก็บรักษามูลค่าในระยะยาว (80%) บทบาทอันสำคัญในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ (81%) และผลการดำเนินงานในช่วงวิกฤต (85%)

ธนาคารกลางในตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา (Emerging Markets and Developing Economies: EMDE) ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อสัดส่วนทองคำในพอร์ตการลงทุนสำรองภายในประเทศ โดยผลสำรวจพบว่า 28 จาก 58 ประเทศ (48%) ในกลุ่ม EMDE คาดการณ์ว่าปริมาณทองคำสำรองของตนจะเพิ่มขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า เมื่อเทียบกับ 3 จาก 14 ประเทศ (21%) ในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้า (Advanced Economy) ซึ่งสูงกว่าปีที่ผ่านมา แม้ว่าระดับอัตราดอกเบี้ยยังคงเป็นปัจจัยสำคัญของทั้งสองกลุ่มในการถือครองทองคำ แต่อัตราเงินเฟ้อ (84%) และสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ (81%) กลับเป็นปัจจัยหลักสำหรับกลุ่ม EMDE ในขณะที่กลุ่มประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้ามีความกังวลในประเด็นเดียวกันที่ 67% และ 60% ตามลำดับ

ข้อมูลที่น่าสนใจคือ ธนาคารกลางจำนวนมากขึ้นหันมาเก็บทองคำไว้ภายในประเทศ โดย 59% ระบุว่ามีการเก็บทองคำในคลังภายในประเทศเพิ่มขึ้นจาก 41% ในปี 2567 นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ (73%) มองว่าการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐในทุนสำรองของประเทศจะลดลงในระดับปานกลางถึงมากในอีก 5 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบแบบสำรวจเชื่อว่าสกุลเงินอื่น ๆ เช่น ยูโรและเงินหยวน รวมถึงทองคำ จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน

คุณเซาไก ฟาน (Shaokai Fan) หัวหน้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมประเทศจีน) และหัวหน้าฝ่ายธนาคารกลางระดับโลก ของสภาทองคำโลก กล่าวว่า “หลังจากได้มีการจัดทำแบบสำรวจนี้มาเป็นเวลา 8 ปี เราได้ค้นพบข้อมูลสำคัญ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าธนาคารกลางเกือบครึ่งที่ตอบแบบสำรวจมีแผนที่จะเพิ่มปริมาณการถือครองทองคำในปีหน้า ข้อมูลนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงราคาทองคำที่ทำสถิติสูงสุดใหม่หลายครั้งในปี 2568 สะท้อนให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมด้านเศรษฐกิจโลกและภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบัน ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ในขณะที่โลกเผชิญกับความไม่แน่นอนและความปั่นป่วน โดยธนาคารกลางต่างเผยถึงความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ และความไม่มั่นคง ซึ่งล้วนเป็นเหตุผลที่ทำให้หันมาใช้ทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยง”

สามารถอ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ Goldhub.com