เรื่องเด่นวันนี้

TEGH เนื้อหอม! ออเดอร์แน่น โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” เคาะเป้าหมาย 5 บาท คอนเฟิร์มปี 68 กำไรนิวไฮ ทะยาน 21.2%


10 มิถุนายน 2568
โบรกเกอร์เชียร์ “ซื้อ” หุ้น TEGH เคาะราคาเป้าหมายสูงสุด 5 บาท/หุ้น รับแรงหนุนคาดการณ์กำไรปกติปี 68 ที่ระดับ 723 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.2% จากปีก่อน และทำ New High  ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันสามารถคาดหวังปันผลได้สูง 9-10% ต่อปี ประเมินยอดคำสั่งซื้อยาง EUDR ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้พุ่งแรง รองรับการผลิต และการส่งออกในปีหน้า

TEGH เนื้อหอม! ออเดอร์แน่น_ข่าวลูกค้า S2T (เว็บ)_0.jpg


บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH โดยระบุว่า แนวโน้มกำไรปกติในไตรมาส 2/2568 ดูดีกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้า แม้ราคายาง SICOM ช่วงเดือนเมษายนจะปรับลดลง แต่บริษัทมีการล็อคราคาขายล่วงหน้าแล้วราว 2-3 เดือน ทำให้ราคาขายเฉลี่ยจะยังทรงตัวระดับสูงจากไตรมาสก่อนหน้า ส่วนปริมาณการขายคาดว่าชะลอลงบ้างจากลูกค้าบางกลุ่มที่อาจรอ Wait and see สถานการณ์เรื่องภาษีของสหรัฐฯ แต่ไม่ได้มีนัยสำคัญ 

ส่วนธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) คาดว่าจะกลับมามีกำไรสุทธิได้ในไตรมาส 2/2568 จากไตรมาสแรกที่รับรู้เป็นขาดทุน 60-70 ล้านบาท หลังจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของปริมาณผลผลิตปาล์ม ทำให้วัตถุดิบทะลายปาล์มสดจะเข้าโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบได้มากขึ้นหนุน Utilization-rate และประสิทธิภาพการผลิต 

ทั้งนี้ โดยภาพรวมประเมินแนวโน้มกำไรปกติในไตรมาส 2/2568 เบื้องต้นในกรอบ 190-240 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า จากธุรกิจยางคาดว่าทรงตัว แต่มีปัจจัยหนุนการเติบโตจากธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบ

ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 3/2568 แม้จะเริ่มรับรู้ราคาขายเฉลี่ยธุรกิจยางที่ปรับลงตาม SICOM แต่บริษัทมีแผนบริหารจัดการต้นทุนทำให้ Spread ของยางและ GPM อาจไม่ต่างจากปัจจุบันมากนัก และจะชดเชยด้วยปริมาณขายยาง EUDR ที่สูงขึ้นจากการที่ลูกค้าต้องกลับมาเตรียมสต็อกวัตถุดิบสำหรับการขายปี 2569 ที่กฎ EUDR จะมีการบังคับใช้ แต่ยังคงมีมุมที่ระมัดระวังต่อแนวโน้ม Spread ยางในไตรมาส 3/2568 เบื้องต้นประเมินกำไรชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้า แต่เติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน หากแนวโน้มออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ คาดว่าจะเป็น Upside ต่อประมาณการในปี 2568 

ด้านธุรกิจพลังงานหมุนเวียน (TEBP) ปัจจุบันมีรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง แม้สัดส่วนรายได้ไม่สูง (ไตรมาส 1/2568 เพียง 1%) แต่มี GPM ที่สูงถึง 45-50% และบริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตต่อเนื่อง ทำให้รายได้ที่เติบโตสูงล้วนแต่จะเป็นปัจจัยหนุนกำไรสุทธิของ TEGH นอกจากนี้ปัจจุบันแผนการ IPO บริษัทได้ยื่นไฟลิ่งให้ ก.ล.ต. แล้ว คาดว่าจะได้รับอนุมัติในไตรมาส 4/2568 และเข้าตลาดฯ ช่วงครึ่งปีแรก 2569 จะเป็น Upside ต่อการปลดล็อคมูลค่าธุรกิจ และหนุนการเติบโตของธุรกิจพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น 

ทั้งนี้ ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2568 ที่ 723 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.2% จากปีก่อน และทำ New High ราคาหุ้นถูก PER เพียง 4.3 เท่า สะท้อนปัจจัยลบและความกังวลด้านปัจจัยมหภาคไปพอสมควรแล้ว และยังไม่สะท้อนแนวโน้มผลประกอบการที่เติบโต และราคาหุ้นปัจจุบันสามารถคาดหวังปันผลได้สูง 9-10% ต่อปี จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสม 5.00 บาท เหมาะสำหรับซื้อลงทุนระยะยาว 

บล.ทรีนีตี้ จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” TEGH ให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 4.90 บาท อิง PER 9 เท่า โดยประเมินแนวโน้มกำไรปีนี้ค่อนข้างสดใส เนื่องจากธุรกิจยางได้รับแรงหนุนจากความต้องการยาง EUDR ที่ยังสูงต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีลูกค้าอีกหลายรายที่ต้องเริ่มสั่งยาง EUDR ในช่วงครึ่งหลังของปี เพื่อรองรับการผลิตและการส่งออกในปีหน้า ขณะที่ธุรกิจปาล์ม นอกจากจะมีปัจจัยบวกภายในจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตด้วยการเพิ่มหม้อนึ่งใหม่ ยังมีผลบวกจากฤดูกาล เนื่องจากคาดว่าปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ เทียบกับภาวะแล้งในปีก่อนหน้า จะทำให้ปริมาณปาล์มโดยรวมเพิ่มขึ้น และอาจทำให้ราคารับซื้อผลปาล์มปรับตัวลงได้

ส่วนธุรกิจพลังงาน คาดว่าจะเห็นรายได้และกำไรเติบโตแบบก้าวกระโดด หลังสามารถรับรู้การขายก๊าซชีวภาพให้กับ GGC สำหรับประเด็นการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เนื่องจากมีการยกเว้นภาษียางดิบที่นำเข้า ส่วนล้อยางที่มีการส่งออกส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตยางล้อของสหรัฐฯ เองที่มาตั้งฐานการผลิตในไทย โดยหากมีการย้ายฐานการผลิต คาดว่าจะยังมีการนำเข้ายางแท่งจากทางบริษัทอยู่ดี ทำให้มองผลกระทบเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวไม่มาก

บล.โกลเบล็ก จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” TEGH โดยระบุว่า ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อภาพการเติบโตของรายได้ในปี 2568 สำหรับประเด็นภาษี Reciprocal Tariffs ของประธานาธิบดีทรัมป์ บริษัทไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากสินค้ายางแท่งของบริษัทซึ่งอยู่ในรายการสินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษี (อ้างอิง Annex II) ขณะที่ธุรกิจปาล์มน้ำมัน คาดว่าจะฟื้นตัวจากปีก่อนที่มีสภาวะเอลนีโญ ทำให้ผลผลิตปาล์มออกมาน้อย ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดการณ์กำไรปี 2568 ราว 650 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน มีราคาเหมาะสมเฉลี่ย 4.25 บาท มี Upside 49% จึงแนะนำ “ซื้อ”