กระดานข่าว
CKPower ประสบความสำเร็จ ออก Green Bond ครั้งแรก 5,000 ล้านบาท ยอดจองท่วมท้น
10 มิถุนายน 2568
นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower (ชื่อย่อหลักทรัพย์: CKP) หนึ่งในผู้นำในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคและมีคาร์บอนฟุตพรินต์ที่ต่ำที่สุดรายหนึ่ง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5, 6 และ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา CKPower ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการเสนอขายหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 4 ชุด มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท โดยมียอดจองเกินวงเงินที่เสนอขายเป็นจำนวนมาก สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ CKPower ในฐานะองค์กรที่มีพื้นฐานทางการเงินที่มั่นคง การบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล และวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสะอาด พร้อมทั้งมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ครอบคลุมทุกมิติของห่วงโซ่อุปทาน

ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ดังกล่าวจะนำไปลงทุนในโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ หลวงพระบาง ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างของบริษัทเป็นหลัก และส่วนที่เหลือจะใช้เพื่อชำระคืนตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี โดยหุ้นกู้มีจำนวน 4 ชุด ประกอบด้วย
สำหรับหุ้นกู้ของ CKPower นี้ ทริสเรทติ้งได้จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ทุกชุดของ CKPower ที่อันดับ “A-“ แนวโน้มคงที่ ซึ่งเท่ากับอันดับเครดิตองค์กร และหุ้นกู้ที่ออกในครั้งนี้ได้รับการจัดประเภทเป็น "หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน Green Bond Principles 2021 Green Loan Principles 2025 และ Thailand Taxonomy 2023 และได้ผ่านการสอบทานโดยองค์กรรับรองมาตรฐานชั้นนำของโลก DNV ในฐานะผู้สอบทานอิสระ (Independent External Reviewer) โดยเป็นการเสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบันที่ไม่รวมบุคคลธรรมดา และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยมีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคาร ทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้
นายธนวัฒน์ กล่าวว่า ในปี 2567 โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในกลุ่ม CKPower สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนส่งให้ประเทศไทยได้กว่า 8.8 ล้านเมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) หรือคิดเป็นร้อยละ 16 ของไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ใช้ในประเทศ และในปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 4.4 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี โดย CKPower มีแผนเพิ่มสัดส่วนการผลิตพลังงานหมุนเวียน ทั้งพลังงานน้ำและพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงการสร้างโอกาสใหม่ด้านการเงินสีเขียว (Green Finance) โดยใช้กลไกการขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (RECs) ควบคู่ไปกับการสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมลดการใช้พลังงานเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าคู่ขนานไปกับการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานตลอดห่วงโซ่คุณค่าขององค์กร มุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ที่สามารถหวังผลในระยะยาวอย่างเป็นรูปธรรมภายในปี 2593

ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ดังกล่าวจะนำไปลงทุนในโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ หลวงพระบาง ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างของบริษัทเป็นหลัก และส่วนที่เหลือจะใช้เพื่อชำระคืนตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี โดยหุ้นกู้มีจำนวน 4 ชุด ประกอบด้วย
- หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี จำนวน 1,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 15 ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 4 ปี จำนวน 1,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 30 ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 5 ปี จำนวน 1,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 45 ต่อปี และ
- หุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 10 ปี จำนวน 2,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 90 ต่อปี โดยผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนด
สำหรับหุ้นกู้ของ CKPower นี้ ทริสเรทติ้งได้จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ทุกชุดของ CKPower ที่อันดับ “A-“ แนวโน้มคงที่ ซึ่งเท่ากับอันดับเครดิตองค์กร และหุ้นกู้ที่ออกในครั้งนี้ได้รับการจัดประเภทเป็น "หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน Green Bond Principles 2021 Green Loan Principles 2025 และ Thailand Taxonomy 2023 และได้ผ่านการสอบทานโดยองค์กรรับรองมาตรฐานชั้นนำของโลก DNV ในฐานะผู้สอบทานอิสระ (Independent External Reviewer) โดยเป็นการเสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบันที่ไม่รวมบุคคลธรรมดา และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยมีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคาร ทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้
นายธนวัฒน์ กล่าวว่า ในปี 2567 โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในกลุ่ม CKPower สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนส่งให้ประเทศไทยได้กว่า 8.8 ล้านเมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) หรือคิดเป็นร้อยละ 16 ของไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ใช้ในประเทศ และในปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 4.4 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี โดย CKPower มีแผนเพิ่มสัดส่วนการผลิตพลังงานหมุนเวียน ทั้งพลังงานน้ำและพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงการสร้างโอกาสใหม่ด้านการเงินสีเขียว (Green Finance) โดยใช้กลไกการขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (RECs) ควบคู่ไปกับการสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมลดการใช้พลังงานเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าคู่ขนานไปกับการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานตลอดห่วงโซ่คุณค่าขององค์กร มุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ที่สามารถหวังผลในระยะยาวอย่างเป็นรูปธรรมภายในปี 2593
ยอดนิยม

กรีน ไททัน รุกตลาดพลังงานสะอาด ติดตั้งโซลาร์เซลล์ – EV Station ครบวงจร พร้อมบริการที่ปรึกษาด้าน ESG

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับปรุงหลักทรัพย์ที่ให้ผู้ลงทุนกลุ่ม High-Frequency Trading (HFT) สามารถซื้อได้ เริ่มใช้ 7 ก.ค. 68 นี้

ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ต้อนรับ บมจ. นูทริชั่น โปรเฟส (NUT) เริ่มซื้อขาย 11 มิ.ย. นี้
_%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%20S2T.jpg)
ค่าเงินบาทวันนี้ 10 มิ.ย. 2568
