ฝ่าวิกฤต! 6 หุ้น SET50 ราคาพุ่ง สวนตลาดดิ่ง 251 จุด ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา
ผ่านไปแล้ว 5 เดือนปี 2568 นักลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่ว่าแบกรับความสาหัสพอสมควร เพราะนับจากต้นปี 2568 ถึงตอนนี้ มีหลายประเด็นเข้ามากระทบดัชนีอย่างมีนัยสำคัญ
เห็นได้จาก SET Index ลดลงอย่างต่อเนื่อง หากอ้างอิงข้อมูลนับจากต้นปี 2568 ถึงเดือนพ.ค.2568 พบว่า SET Index ปรับตัวลดลงสูงถึง 251 จุด ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยในช่วงเวลาเดียวกันไปแล้วกว่า 70,738 ล้านบาท
โดยในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยเผชิญความท้าทายทั้งปัจจัยภายในประเทศ และต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น แรงขายจากกองทุน LTF นโยบายภาษีของสหรัฐฯ รวมทั้ง เหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2568 สร้างความกังวลต่อนักลงทุน และล้วนส่งผลให้ดัชนี SET Index ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2568 หุ้นไทยถูกแรงขายจาก MSCI Rebalance นอกจากนี้นักลงทุนยังขายลดความเสี่ยงก่อนวันหยุดยาวอีกด้วย
แต่ฝั่งหุ้นรายบริษัทในดัชนี SET50 พบว่า ยังมี 7 หุ้นในดัชนี SET50 ที่สามารถปรับตัวขึ้นได้อย่างโดดเด่นตั้งแต่ต้นปีจนถึง 30 พฤษภาคม 2568 ซึ่งทำให้เห็นถึงการ “ว่ายทวนกระแส” ได้ อาทิ TRUE, CPF, KTB, TOP, TTB, และSCB
หากเข้าไปสำรวจปัจจัยพื้นฐาน TRUE พบว่า นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 15.60 บาท โดยราคาหุ้นแม้ปรับตัวเด่นกว่าตลาดต่อเนื่อง แต่หุ้นยังมี Upside เปิดกว้างมากพอให้ลงทุนได้ Catalyst สำคัญ ได้แก่ 1.ผลประกอบการที่ดีกว่าคาดทำให้ตลาดต้องปรับเพิ่มประมาณการรอบใหม่ และ 2.การประมูลคลื่นในเดือนมิ.ย.2568 เป็นโอกาสสำคัญที่จะลดต้นทุนหลัก
ส่วน CPF นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) คาดกำไรไตรมาส 2/68 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และทรงตัวดีหรือปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน เนื่องจากราคาหมูไทย เวียดนามเพิ่มขึ้น ราคาไก่ทรงตัวสูง ต้นทุนอาหารสัตว์ลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์ราคาหมูจีนที่อาจกดดันส่งแบ่งกำไรจาก CTI โดยประมาณการกำไรปี 2568 ที่ 27,025 ล้านบาท เติบโต 38% จากปีก่อน แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 35 บาท
ขณะที่ TOP นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) แนะนำ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 33 บาท/หุ้น คาดครึ่งหลังปี 2568 มีปัจจัยบวกเข้ามาหนุน ทั้ง ความคืบหน้าได้ผู้รับเหมาฯหลัก ช่วยลด overhang โครงการ CFP แนวโน้มกำไรที่ฟื้นตัวหลัง stock loss น้อยลง และค่าการกลั่นฟื้นตัว โดยระยะยาวธุรกิจหลักอย่างโรงกลั่นสร้างกระแสเงินสดได้ต่อเนื่อง และยังมี upside จากต้นทุนส่วนเพิ่ม CFP อาจต่ำกว่าคาด หากบริษัทชนะข้อพิพาทได้เพิ่ม (ปัจจุบันยึดเงินหลักประกันฯได้กว่า 91%)
ด้าน KTB นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดปี 2568 KTB จะมีกำไรสุทธิ 45,991 ล้านบาท เติบโต 4.9% แนะนำ “TRADING” ราคาเป้าหมาย 25 บาท โดยมองว่ายังมีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการหุ้นปันผลสูง เพราะคาดจะให้ Div. Yield สูงถึง 7.6%
ขณะที่ TTB นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 2.12 บาท พร้อมคาดให้ Div. Yield อีก 7% และปัจจุบัน TTB ยังอยู่ระหว่างดำเนินนโยบายซื้อหุ้นคืนตามเป้าหมายของบริษัทอีก 6,300 ล้านบาทจนถึงวันที่ 1 ส.ค. นี้
และ SCB นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) แนะนำ แนะ “ซื้อ รับปันผลสูง” ราคาเป้าหมาย 132 บาท โดยยังเชื่อว่าปีนี้ SCB ยังคงมีกำไรที่ทรงตัวถึงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน แต่เชื่อว่ายังเป็นธนาคารที่จ่ายปันผลสูงสุด คาดปีนี้จ่ายสูงอีก คิดเป็น Dividend Yield ราว 9.5%
ยอดนิยม
%20copy_0.jpg)
“เจ๊แอน จักรพงษ์” โดนก.ล.ต.ลงดาบ ฐานตกแต่งงบการเงินของ JKN หลังพบพิรุธสร้างเรื่องเจ้าหนี้-ลูกหนี้ปลอม
_0.jpg)
BEM แบกหนี้บาน-ดอกเบี้ยพุ่ง! ทริสฯ เชือด! หั่นเรตติ้งหุ้นกู้ โบรกฯ ลดเป้ากำไร หวั่นจ่ายดอกเบี้ยสูง
%20copy_0.jpg)
สหรัฐฯ ครองแชมป์! ทองคำสำรองมากสุดในโลก ตอกย้ำมหาอำนาจเศรษฐกิจ
%20copy_0.jpg)
JKN ลุกเป็นไฟ! แอน-จักรพงษ์ ลาออกแล้ว หลัง ก.ล.ต.กล่าวโทษ ส่ง DSI สอบงบผิดปกติ
_0.jpg)