PYLON ส่งซิก Q2/68 ฟื้นตัว เติบโตแข็งแกร่ง ล่าสุดตุน Backlog แน่นแตะ 1,533 ลบ. รับรู้รายได้ปีนี้ 70%

“บมจ.ไพลอน หรือ PYLON” ส่งซิกแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา ประเมินช่วงที่เหลือของปีนี้ภาคเอกชนจะลงทุนมากขึ้น หนุนดีมานด์งานเพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 1,533.4 ลบ. คาดรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 70% ล่าสุดประกาศผลงานโค้งแรกปี 68 มีกำไรสุทธิ 18.21 ลบ. โตทะยานกว่า 1,430% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โกยรายได้ 300.65 ลบ. ประเมินช่วงที่เหลือของปีนี้ภาคเอกชนจะลงทุนมากขึ้น หนุนดีมานด์งานเพิ่มขึ้น 

ดร.ชเนศวร์  แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานราก (เสาเข็มเจาะ) ระดับแนวหน้าของประเทศ เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/2568 คาดว่าเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา ประเมินว่ากำไรขั้นต้นของบริษัทมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 1/2568 ซึ่งอยู่ที่ 13.4%  รวมถึงรายได้ที่น่าจะเพิ่มขึ้นด้วย โดยปัจจุบันปริมาณงานในมือ (Backlog) อยู่ในระดับค่อนข้างสูงราว 1,533 ล้านบาท คาดรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 70% และยังมีโอกาสในการรับงานเพิ่ม โดยคาดว่าการใช้เครื่องจักรเฉลี่ยในช่วงไตรมาส 2 นี้ จะอยู่ที่ประมาณ 15 ชุด

“ผลประกอบการออกมาเป็นที่น่าพอใจทั้งรายได้และกำไร งานภาคเอกชนมีออกมามากขึ้นในปีนี้หลังจากที่ชะลอตัวไปในปีก่อน การใช้กำลังการผลิตในส่วนของงานกำแพงกันดินถือว่าค่อนข้างเต็มเนื่องจากซัพพลายในตลาดที่มีจำกัด ส่วนกำลังการผลิตของงานเสาเข็มเจาะก็อยู่ในระดับที่ดีขึ้นกว่าปีก่อนซึ่งยังรับงานเพิ่มได้อีก แต่ทั้งนี้ บริษัทก็ต้องเร่งเพิ่มชุดคนงานโดยเฉพาะกลุ่มแรงงานที่มีทักษะเพื่อรองรับงานที่อาจได้เข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี” ดร.ชเนศวร์กล่าว

ปัจจุบันงานโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการของบริษัทในปี 2568 มีอยู่หลายโครงการ อาทิเช่น โครงการเวิ้งนครเกษม โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานบริษัทคาราบาว โครงการ Data Center โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม เป็นต้น 

ล่าสุดผลประกอบการของบริษัทฯและบริษัทย่อยในงวดไตรมาส 1 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 18.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.02 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,430.25% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีรายได้อยู่ที่ 300.65 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 207.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 44.68%