รายงานพิเศษ : EURO กางแผนปรับกลยุทธ์ ขยายช่องทางจัดจำหน่าย รุกธุรกิจ Lifestyle เพิ่มฐานรายได้

บมจ.ยูโร ครีเอชั่นส์ (EURO) ปรับกลยุทธ์รองรับเศรษฐกิจที่ชะลอ เน้นขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย  ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงเปิดโชว์รูมใหม่ในทำเลที่มีศักยภาพ  และขยายธุรกิจไปในกลุ่ม Lifestyle ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูง

แนวโน้มตลาดสินค้า Home & Living และ Lifestyle ในปี 2568 ยังคงมีความสำคัญและมีความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย โดยเฉพาะสินค้าที่ตอบสนองทุกมิติของไลฟ์สไตล์ที่ครบถ้วน ถือเป็นโอกาสสำคัญในการเติบโตของ บมจ.ยูโร ครีเอชั่นส์ (EURO) ซึ่งมีผลิตภัณฑ์หลากหลายที่ครอบคลุมตั้งแต่กลุ่ม Home & Living ไปจนถึงกลุ่ม Lifestyle ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม และมีโอกาสขยายฐานรายได้อย่างมีนัยสำคัญ

ส่องงบ Q1/68 โชว์กำไร 33.5 ลบ.

นายเควิน กัมบีร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ยูโร ครีเอชั่นส์ (EURO) ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ "Luxurious & High Quality Living" เปิดเผยว่า ผลถึงการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการบริการ 311.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.51% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเติบโตของรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการประดับตกแต่งและอุปกรณ์ฟิตเนส ส่งผลทำให้มีกำไรสุทธิสำหรับงวดอยู่ที่ 33.50 ล้านบาท

เพิ่มช่องทางขาย-ขยายโชว์รูม

บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร รวมถึงมีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยการเพิ่มช่องทางการขายสินค้าและขยายโชว์รูม เพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น และมีการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดและส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์และกระตุ้นยอดขาย อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าในกลุ่ม Home & Living และ Lifestyle

สร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์

เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและการเติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทฯ ปรับกลยุทธ์มุ่งเน้นการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงการเปิดโชว์รูมใหม่ในทำเลที่มีศักยภาพ และให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการนำเสนอสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม

นอกจากนี้ ยังคงมุ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในตลาด โดยการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง รวมถึงให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า โดยการให้บริการที่เป็นเลิศ และการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในระยะยาว

รุกธุรกิจ Lifestyle ตอบโจทย์ทุกมิติ

นอกจากธุรกิจหลักในกลุ่ม Home & Living แล้วบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจในกลุ่ม Lifestyle ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ดังนี้ 1. ผลิตภัณฑ์เพื่อการประดับตกแต่ง บริษัทฯ นำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อการประดับตกแต่งที่หลากหลายและมีดีไซน์ที่ทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการสร้างสรรค์พื้นที่อยู่อาศัยให้สวยงามและมีเอกลักษณ์ 2.อุปกรณ์ฟิตเนส บริษัทฯ จำหน่ายอุปกรณ์ฟิตเนสคุณภาพสูงภายใต้แบรนด์ Technogym ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ใส่ใจสุขภาพและต้องการออกกำลังกายที่บ้าน และ 3. เครื่องเสียง บริษัทฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องเสียง Bang & Olufsen (B&O) อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องเสียงหรูหราระดับโลก

ทั้งนี้ การขยายธุรกิจในกลุ่ม Lifestyle ช่วยให้บริษัทฯสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และสร้างโอกาสในการเติบโตของรายได้และกำไรในอนาคต

มองอนาคตไกล – ตลาดเติบโตได้ดี

นอกจากนี้ ยังประเมินว่าการเติบโตของตลาดสินค้า Home & Living และ Lifestyle ยังมีโอกาสในการเติบโตอีกมาก อีกทั้งการขยายตัวของเมืองและจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยและสินค้าที่เกี่ยวข้องมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น และการเปิดเสรีทางการค้า ทำให้มีโอกาสในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ

ยึดหลักเติบโตอย่างยั่งยืน

อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการสร้างผลกำไรให้กับผู้ถือหุ้น บริษัทฯ มีนโยบายและแนวปฏิบัติที่ชัดเจนในการมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมความรับผิดชอบและมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนและสังคม และที่สำคัญมุ่งมั่นกำกับดูแลกิจการที่ดีบริหารงานด้วยความโปร่งใสและตรวจสอบได้

ทั้งนี้ EURO ดำเนินธุรกิจในกลุ่มสินค้า Home & Living และ Lifestyle ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตสูง มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ภายใต้กลยุทธ์ที่ชัดเจนในการขยายธุรกิจและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ทำให้บริษัทฯ มีความพร้อมจะก้าวสู่เป้าหมายรายได้เติบโต 10–15% ในปี 2568 และยังคงนโยบายควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว