3 ร้านอาหาร-ขนมหวานชื่อดัง อาการแย่ เหตุยอดขายสาขาเดิมทรุด

การบริโภคในประเทศที่ซบเซา และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ต่ำกว่าคาด ทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร และขนมหวานชื่อดังในตลาดหุ้นได้รับผลกระทบหนัก ไม่ว่าจะเป็น M, OKJ และ AU ส่งผลต่อยอดขายสาขาเดิมที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง

เช่นเดียวกันกับราคาหุ้นนับจากต้นปี 2568 ถึงวันที่ 28 พ.ค.2568 พบว่า M ราคาหุ้นอยู่ที่ 14.9 บาท ลดลง 39.43% ส่วน OKJ ราคาหุ้นอยู่ที่ 6.6 บาท ลดลง 56.86% และ AU ราคาหุ้นอยู่ที่ 7.15 บาท ลดลง 35% นับจากต้นปีถึงปัจจุบัน

เริ่มที่ M นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) มองว่า ตัวเลขยอดขายต่อสาขาเดิม (same-store-sales: SSS) ยังลดลงในเดือนเม.ย.-พ.ค. 68 ที่ ลดลง 10-15% จากช่วงเดียวกันขงปีก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและการแข่งขัน นอกจากนี้ คาดอัตรากำไรขั้นต้นและค่าใช้จ่ายโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย จะเป็นปัจจัยกดดันกำไรและอัตรากำไรสุทธิในไตรมาส 2/68 ทำให้คาดว่า  M จะรายงานกำไรไตรมาส 2/68  ลดลง 45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง  5% จากไตรมาสก่อน

ขณะที่ เทียบ SSS เดือน เม.ย. ของผู้เล่นในอุตสาหกรรมอย่าง CENTEL  ลดลง 3% , MINT ลดลง 3% , OKJ ลดลง 12% , MAGURO ลดลง 7% และ AU ลดลง 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 

Consensus ปรับประมาณการกำไรปี 2568 ลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 1.26 พันล้านบาท โดย M ตั้งเป้าการเปิดสาขาทั้งหมด 16 สาขา ในปี 2568 คือแบรนด์ MK Suki 5 สาขา, Yayoi 3 สาขา, แหลมเจริญ 5 สาขา, ฮิคินิคุ โตะ โคเมะ 2 สาขา, Multi brands 1 สาขา เพิ่มจากจำนวน 693 สาขา ณ สิ้นไตรมาส 1/68 

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเปิดสาขาเพิ่ม แต่ M มีการปิดสาขาที่ทำกำไรไม่ดี และทราฟฟิกห้างน้อย ทำให้จำนวนสาขาทั้งหมดของ M ลดลงจาก 703 สาขา ณ สิ้นปี 2566 มาเป็น 693 สาขา ณ สิ้นปี 2567  แม้ว่าในปี 2567 จะมีการเปิดสาขาใหม่ 21 สาขา แสดงว่ามีการปิด 31 สาขาในปี 2567 ดังนั้น SSS จึงมีความแปรผันตรงกับการขึ้นลงของรายได้

ส่วนฝั่ง OKJ นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดว่าไตรมาส 2/68 SSS อาจติดลบถึงระดับสองหลักจากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนตัวและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลง 

และคาด SSS ปี 68 อ่อนตัว -8%  แต่ยอดขายรวมยังโตจากการเปิดสาขาใหม่ Joe Wing แบรนด์ไก่ทอดใหม่เริ่มต้นดีแต่เจอปัญหาเสิร์ฟล่าช้า บริษัทเร่งแก้ไข ทางฝ่ายคาดยอดขายปี 68 โต 19.5% และกำไรสุทธิกาไรสุทธิที่ 289 ล้านบาท เติบโต 43.1% ปรับราคาพื้นฐานลงจาก 18.30 บาทเป็น 12.00 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”

 สำหรับสิ้นไตรมาส 1/2568 บริษัทมีสาขา OKJ 41 สาขา, Oh!Juice 18 สาขา (+3 สาขาจากปี 67), OKJ Wrap & Roll 1 สาขาและในเดือนเมษายนได้เปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ “Joe Wing” 1 สาขา คาดเปิดสาขา OKJ เพิ่ม 4-6 สาขา, Oh!Juice เพิ่มอีก 12 สาขา, และ Joe Wing อีก 5 สาขา คาดว่าสิ้นปี 2568 จะมี OKJ 47 สาขา, Oh!Juice 30 สาขา, OKJ Wrap & Roll 1 สาขา, และ Joe Wing 6 สาขา

ขณะที่ AU นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ถือ” ปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 7 บาท แนวโน้มยังคงถูกกดดันจากการบริโภคในประเทศที่ซบเซา และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ต่ำกว่าคาด SSSG มีแนวโน้มที่จะหดตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี 

ขณะที่ผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 อาจอ่อนแอลงจากฐานที่สูงในปีก่อน จึงปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ลงเหลือ 264 ล้านบาท ลดลง 11% จากปีก่อน สะท้อนถึงการเติบโตของรายได้ที่จำกัด และแรงกดดันต่ออัตรากำไรขั้นต้น 

ขณะที่ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า สิ้นไตรมาส 1/2568 AU มีจำนวนสาขาร้านอาฟเตอร์ ยู 61 แห่ง และ ร้านอื่น ๆ 23 แห่ง