บี.กริม มั่นใจลงทุนเวียดนาม เติบโตระยะยาว การเปลี่ยนผ่านนโยบายส่งผลกระทบน้อย
บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ยืนยันความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนามอย่างต่อเนื่อง แม้ขณะนี้รัฐบาลเวียดนามจะอยู่ระหว่างการหารือภายในและรับฟังความเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบและประเมินผลกระทบอย่างรอบด้านต่อแนวทางการทบทวนอัตรารับซื้อไฟฟ้าจากโครงการพลังงานหมุนเวียน และยังต้องคำนึงถึงข้อกังวลจากนักลงทุนและสถาบันการเงินระหว่างประเทศ
ปัจจุบัน โครงการพลังงานหมุนเวียนในเวียดนามมีผู้ประกอบการและสถาบันการเงินมากกว่า 200 ราย จากหลายประเทศ เช่น ไทย จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เป็นต้น โดยทั้งหมดอยู่ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว (PPA) ที่มีข้อผูกพันชัดเจน ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างสัญญาต้องได้รับการตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าซึ่งเป็นคู่สัญญา รวมถึงหน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญที่รัฐบาลเวียดนามต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ บี.กริม ยังคงสามารถบันทึกรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าตามสัญญากับการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ได้ตามปกติ
โดยสัดส่วนรายได้จากประเทศเวียดนามคิดเป็นเพียงประมาณ 3% ของรายได้รวมทั้งหมด และ บี.กริม ยังมีการกระจายรายได้ทดแทนจากโครงการในประเทศอื่น ๆ ทั้งในอาเซียนและเอเชียตะวันออกอีกจำนวนมากที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ทำให้ บี.กริม มีความยืดหยุ่นสูงในการบริหารความเสี่ยง และรักษาทิศทางการเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว นายพีรเดช พัฒนจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจพัฒนาพลังงานหมุนเวียน บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
“บี.กริม มีโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่งจากการกระจายพอร์ตการลงทุนในหลายประเทศ ทั้งโครงการที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วเช่นที่ประเทศเกาหลี ซึ่งช่วยเสริมความยืดหยุ่นในการบริหารความเสี่ยง และสร้างความมั่นคงทางรายได้ในทุกสภาวะเศรษฐกิจ เราเชื่อมั่นว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายเกิดขึ้นในเวียดนามจริง ผลกระทบต่อบริษัทจะอยู่ในวงจำกัด และไม่กระทบต่อทิศทางการเติบโตในระยะยาวของเรา”
โดยบริษัทได้มีการบริหารจัดการต้นทุนอย่างรอบคอบในทุกโครงการ พร้อมเดินหน้าเพิ่มรายได้จากโครงการใหม่ และเตรียมแผนรองรับความไม่แน่นอนในเชิงกลยุทธ์ โดยมุ่งเน้นการรักษาความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงิน และความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจในทุกสภาวะ
บี.กริม ยังคงมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอย่างแข็งแกร่งในหลากหลายประเทศ เช่น โครงการ ARECO solar PV กำลังการผลิตติดตั้ง 65 เมกะวัตต์ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งมีความก้าวหน้าไปแล้วกว่า 80% และคาดว่าจะเริ่มสร้างรายได้ในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Nakwol Blueheart ที่มีกำลังผลิตรวม 365 เมกะวัตต์ ที่ประเทศเกาหลีใต้ มีความคืบหน้าโดยรวมแล้วประมาณ 50% โดยในส่วนของโครงสร้างกลางทะเลได้ดำเนินการตอกเสากังหันลม (monopile) ไปแล้วจำนวน 6 ต้น ส่วนงานก่อสร้างบนบกมีความคืบหน้าไปแล้วมากกว่า 80% และอยู่ระหว่างเร่งงานก่อสร้างเพื่อให้สามารถเริ่มเดินเครื่องบางส่วนได้ภายไตรมาส 3 ปีนี้
บี.กริม ยังคงตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตรวมให้ได้ 10,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2573 โดยมีสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 50% ของพอร์ตทั้งหมด และเดินหน้าเป้าหมายสู่การเป็นองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) ภายในปี 2593 ตามพันธกิจ “Empowering the World Compassionately – สร้างพลังให้กับสังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี”
ยอดนิยม
_%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%20S2T.jpg)
ค่าเงินบาทวันนี้ 29 พ.ค. 2568

ราคาทองวันนี้ 29 พ.ค. 68 เปิดตลาดปรับลด 550 บาท รูปพรรณขายออก 51,550 บาท
.jpg)
orbix INVEST เตรียมเปิดตัวกลยุทธ์ OBX-STABLECOINPLUS ทางเลือกใหม่

WICE คาดรายได้ไตรมาส 2/68 โตต่อเนื่อง เดินหน้าขยายเครือข่ายขนส่ง-ดันรายได้ปี 68 โต 15% ตามเป้า
