ทรูบิสิเนส จับมือ อีซี่บาย คิกออฟเชื่อมต่อ Number Verification API เชิงพาณิชย์ครั้งแรกในไทย ยกระดับความปลอดภัยด้วยระบบตรวจสอบการยืนยันตัวตนด้วยเบอร์มือถือมาตรฐานโลก
นายฮาว ริ เร็น หัวหน้าสายงานการพาณิชย์ พันธมิตรเชิงกลยุทธ์และเทเลคอม-เทค บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ความสำเร็จในพัฒนา Number Verification API จนสามารถเชื่อมต่อด้วย API มาตรฐานเดียวกันกับผู้ให้บริการเครือข่ายอื่นๆทั่วโลก และพร้อมให้บริการเชิงพาณิชย์ได้เป็นรายแรกในประเทศไทย สะท้อนศักยภาพของทรูคอร์ปอเรชั่น ผู้นำเทคคอมปานีไทย ในการยกระดับเครือข่ายเทียบระดับสากล และเรายังคงเดินหน้าพัฒนา Network Open Gateway API ใหม่ๆ อย่างจริงจังต่อเนื่อง รวมถึงเสริมสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่แข็งแกร่ง เพื่อให้องค์กรธุรกิจและนักพัฒนาซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน และแพลตฟอร์ม สามารถเชื่อมต่อและใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของทรูได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตลอดจนเข้าถึงและโต้ตอบกับฟังก์ชันและข้อมูลของเครือข่ายทรูได้แบบเรียลไทม์
ความร่วมมือกับอีซี่บายในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการนำเทคโนโลยี API ใหม่ มาช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า และเพิ่มความปลอดภัย สร้างความมั่นใจในทุกครั้งที่ทำธุรกรรมออนไลน์ผ่านยูเมะพลัส แอปพลิเคชันบนเครือข่ายทรู 5G แต่ยังขับเคลื่อนความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย ให้พร้อมรองรับนวัตกรรมดิจิทัลที่ สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้บริโภค ตลอดจนสนับสนุนการขยายธุรกิจอย่างไร้พรมแดนผ่านการเชื่อมต่อ Networks API กับผู้ให้บริการเครือข่ายอื่นๆ ทั่วโลก”
นายนุชัย เกษแก้ว ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายวางแผนธุรกิจ ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ และฝ่ายศูนย์ปฏิบัติการอนุมัติสินเชื่อ บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส กล่าวว่า “บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอย่างยิ่งในการทำธุรกรรมการเงินต่างๆ บนยูเมะพลัส แอปพลิเคชัน รวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานของลูกค้า ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้แอปฯ มากกว่า 1.5 ล้านราย โดยมีปริมาณการทำธุรกรรมมากกว่า 1.5 ล้านรายการต่อเดือน รวมมูลค่าการทำรายการกว่า 2.5 พันล้านบาท ต่อเดือน จะเห็นได้ว่าจำนวนธุรกรรมที่ต้องผ่านการยืนยันตัวตนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น นั่นหมายถึงความเสี่ยงต่อภัยคุกคามจากการถูกปลอมแปลงตัวตนโดยเหล่ามิจฉาชีพนั้น ก็เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ดังนั้น นอกเหนือจากการสร้างความตระหนักรู้แก่ลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ ของบริษัทฯ เพื่อให้ลูกค้าไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญมาโดยตลอด และยังคงดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่องแล้ว
บริษัทฯ ยังมีการนำเทคโนโลยี API ใหม่มาใช้ เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการใช้บริการแอปพลิเคชัน โดยร่วมมือกับทรูบิสิเนส เชื่อมต่อ Number Verification API ด้วยมาตรฐาน API ระดับโลก ช่วยตรวจสอบการยืนยันตัวตน ด้วยเบอร์มือถือทรู ดีแทค ที่ลูกค้าใช้ทำธุรกรรมออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันบนเครือข่ายทรู 5G ได้เรียลไทม์ แบบอัตโนมัติ ซึ่งลดขั้นตอนการทำธุรกรรม ไม่ว่าจะเปิดใช้งานแอปพลิเคชันบนมือถือ โอนเงิน เปลี่ยนแปลง ข้อมูลส่วนตัว หรือเบิกถอนเงิน ได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น และด้วยเทคโนโลยี API ใหม่นี้ จะช่วยป้องกันความเสี่ยง ที่จะสร้างความเสียหายจากการถูกปลอมแปลงตัวตนในการทำธุรกรรมการเงินบนมือถือ ซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของอีซี่บาย ผู้ให้บริการทางการเงินรายแรกในประเทศไทยที่เชื่อมต่อ Number Verification API ที่จะมาช่วยยกระดับทั้งความปลอดภัย คุณภาพการบริการ และเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น รวมถึง สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในอุตสาหกรรมการเงินอีกด้วย” นายนุชัย กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ ทรูบิสิเนส พร้อมเชื่อมต่อ API เครือข่ายมือถือแบบเปิด (Mobile Network Open APIs) ภายใต้กรอบความร่วมมือ GSMA Open Gateway ให้บริการแก่กลุ่มธนาคาร สถาบันการเงิน และองค์กรธุรกิจต่างๆ ที่ต้องมีการยืนยันตัวตนลูกค้าเพื่อทำธุรกรรมบนมือถือ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้แก่ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น SIM Swap API ตรวจสอบการเปลี่ยนซิมการ์ดครั้งล่าสุด ซึ่งจะช่วยยืนยันความเป็นเจ้าของซิมการ์ดก่อนส่งข้อมูลสำคัญไปยังเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ของลูกค้า และ Device Location API ยืนยันตำแหน่งของอุปกรณ์และซิมการ์ดที่ใช้งานอยู่ รวมถึง Number Verification API ที่มาพร้อมการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญของทรูด้าน Mobile Network Open APIs โดยเฉพาะ
สำหรับองค์กรธุรกิจ สตาร์ทอัพ นักพัฒนาซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน และแพลตฟอร์ม ที่สนใจเชื่อมต่อ Mobile Network Open API บนเครือข่ายทรู 5G ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://truebusiness.truecorp.co.th/th/solution/truesolutions/trueapis
ยอดนิยม
.jpeg)
การเงินธนาคารมอบรางวัลเกียรติยศ MONEY & BANKING AWARDS 2025 ชาติศิริ โสภณพนิช คว้านักการเงินแห่งปี

ราคาทองวันนี้ 17 ก.ค. 68 ปรับลด 50 บาท

ค่าเงินบาทวันนี้ 17 ก.ค. 2568
.jpg)
CPANEL โชว์แบ็คล็อค 1,311.36 ล้านบาท ครึ่งหลัง 68 รับรู้รายได้ต่อเนื่อง ขยายฐานงานรัฐ-เอกชน
