Wealth Sharing

ส่องอนาคต 2 หุ้นศัลยกรรมงาม


19 พฤษภาคม 2568

หากจะพูดถึงหุ้นไอพีโอหรือบริษัทจดทะเบียนน้องใหม่ที่เข้ามาระดมทุนในตลาดทรัพย์ฯ ก็มีจำนวนบริษัทไม่น้อยที่ราคาหุ้นปรับตัวได้อย่างโดดเด่น ซึ่ง 2 บริษัทที่ประกอบธุรกิจโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามอย่าง บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER และ  บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ ก็ด้วยเช่นกัน

ส่องอนาคต 2 หุ้นศัลยกรรมงาม_WS (เว็บ) copy.jpg

แต่ในช่วงที่ภาพรวมตลาดหุ้นไทยได้เผชิญแรงกดดันทั้งปัจจัยภายในประเทศและต่างประเทศ รวมไปถึงปัจจัยเชิงลบเฉพาะตัวก็ได้ส่งผลราคาหุ้นปรับตัวลง ซึ่งจะทำให้ความน่าสนใจของหุ้นดังกล่าวน้อยลงหรือไม่นั้น ในวันนี้ทางสำนักข่าว Share2Trade จะพาไปหาคำตอบกัน 

KLINIQ ไตรมาสแรก ฟอร์มแจ่ม รายได้-กำไรโตสนั่น

เริ่มกันที่ KLINIQ ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/67  มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 813.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.3% ช่วงเดียวกันปีก่อน โดยการเติบโตมาจากการขยายสาขาเพิ่มขึ้น 8 สาขา เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มต่างๆ มากขึ้น และการเติบโตของรายได้จากแผนกศัลยกรรมตกแต่งที่มีการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ซึ่งยังเป็นตัวสนับสนุนในกําไรสุทธิไตรมาส 1/68 มีจํานวน 84.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ได้คาดการณ์ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/68 - 4/68 กําไรจะยังเติบโตได้จากช่วงเดียวกันปีก่อนในทุกไตรมาส ด้วยแรงหนุนจากการรับรู้ยอดขายจากสาขาใหม่ การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม การคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น อีกทั้งผลการดําเนินงานของศูนย์ศัลยกรรมคาดจะปรับตัวดีขึ้น ซึ่งประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2568 จะอยู่ที่ 359 ล้านบาท เติบโต 11.3%

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ยังคงแนะนำ KLINIQ ในฐานะเป็นหนึ่งในผู้นําคลินิกเวชกรรมด้านผิวหนังความงามของไทย โดยคาดกําไรจะยังเติบโตได้ในระยะยาว หลังผู้บริโภคดูแลสุขภาพและภาพลักษณ์มากขึ้นในทุกเพศทุกวัย อีกทั้งบริษัทยังมีแผนเพิ่มบริการใหม่และขยายสาขาภายใต้แบรนด์ที่หลากหลายเพื่อเจาะลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ยังมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งโดยแทบไม่มีหนี้ที่มีดอกเบี้ยจ่ายเลย และมีฐานะเงินสดสุทธิ 940 ล้านบาท จึงเพียงพอรองรับแผนลงทุนราวปีละ 500 ล้านบาทและมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ ดังนั้น แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 33 บาท ยังมีอัพไซกด์และคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกําไรปี 2568 หุ้นละ 1.56 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปีละ 5.8%

MASTER ไตรมาสแรก รายได้โตสวนทางกำไรหด 

MASTER ในไตรมาสที่ 1 /68 ทำรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาลอยู่ที่ 474.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.34% จากช่วงเดียวกันปีก่อน 2567 เติบโตตามรายได้จากการศัลยกรรมและรายได้จากการปลูกผมและดูแลเส้นผมที่เพิ่มขึ้น แต่รายได้จากการดูแลหลังทำศัลกรรมลดลง ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 55.77 ล้านบาท ลดลง 47.51% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายในการขายที่เพิ่มขึ้น

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดกำไรในไตรมาส 2/68 จะกลับมาโตทั้งจากไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันปีก่อน จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ตามปัจจัยฤดูกาลเพราะลูกค้าในประเทศมักนิยมทำหัตถการในช่วงเดือน  เม.ย.  เนื่องจากมีวันหยุดยาว

พร้อมกับได้รับ แรงหนุนจากลูกค้าต่างประเทศโดยเฉพาะอินโดนีเซีย  โดยปัจจุบันบริษัทยังไม่เห็นผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากลูกค้ากลุ่มนี้ แต่อย่างไรก็ดี ค่าใช้จ่าย SG&A ที่เพิ่มขึ้น  เนื่องจากยังมีค่าใช้จ่ายบางส่วนได้รับผลกระทบจากการปรับแผนการตลาด รวมถึงจะมีการตัดจำหน่าย PPA ที่ครบ 12เดือนของ S45เป็นบริษัทสุดท้ายแต่คาดแค่ราว 3 –5 ลบ.เท่านั้น

ทั้งนี้ ในปี 2568 ประมาณการรายได้ปี 2568 –2569 ลง 3% และ 4%  ปรับอัตรากำไรขั้นต้นลงเล็กน้อย และปรับ SG&A ปี 2568 ขึ้น 5% แต่คงของปี 2026ไว้เนื่องจากเหตุการณ์ SG&A ที่เพิ่มขึ้นในครึ่งปีแรกปี 68 เกิดขึ้นครั้งเดียว ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 2568 ลดลง 9% เป็น 524 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.3% 

สำหรับชะลอตัวของกำไรในปี 2568 เป็นปัจจัยที่กระทบชั่วคราวและอยู่นอกเหนือการควบคุม  การทำรายได้ยังเติบโตและอัตรากำไรขั้นต้นยังทรงตัวในระดับสูง  โดยกำไรจะกลับมาเติบโต 21% ได้ในปี 2569 และยังคงมุมมองบวกต่อตลาดความงามในประเทศไทยที่ยังมีโอกาสเติบโต 

ดังนั้น ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย  34.75 บาท เนื่องจากราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยผลประกอบการไตรมาส 1/68 ไปแล้ว แต่เพื่อความระมัดระวังแนะนำ ซื้อ หลังรายงานงบไตรมาส 1/68 วันที่ 13 พ.ค. ส่วนผู้ที่มีสถานะแนะนำสะสมเพื่อถัวเฉลี่ยเมื่อต่ำกว่า 20 บาทหรือหลังงบออกเช่นกัน

ส่องอนาคต 2 หุ้นศัลยกรรมงาม_WS (เพจ) copy.jpg