เรื่องเด่นวันนี้
SFLEX ทำสถิติโตต่อเนื่อง 10 ไตรมาส โชว์ Q1/68 กำไรแตะ 65.2 ล้านบาท แย้ม Q2/68 เดินแผนศึกษา JV ธุรกิจต้นน้ำ
16 พฤษภาคม 2568
บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) ท็อปฟอร์ม! เปิดผลงานไตรมาส 1/68 ฟันรายได้ 491.8 ล้านบาท กำไร 65.2 ล้านบาท ทำสถิติกำไรเติบโตต่อเนื่อง 10 ไตรมาสติดต่อกัน จากกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าที่มีศักยภาพ เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ ด้านผู้บริหาร "ดร.สมโภชน์ วัลยะเสวี" แย้มแนวโน้ม Q2/68 เติบโตแกร่ง จากคำสั่งซื้อยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เผยอยู่ระหว่างศึกษาโอกาสลงทุนธุรกิจต้นน้ำ-จับมือพันธมิตรเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ดร.สมโภชน์ วัลยะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) (SFLEX) ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนชั้นนำในประเทศ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2568 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 491.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.8 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 485.0 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 24.5% และมีกำไรสุทธิ 65.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 63.6 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิสำหรับไตรมาสอยู่ที่ 13.1% ขณะที่ไตรมาสเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 12.92% หากพิจารณาในส่วนของผลงานรายไตรมาสถือเป็นการสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยการเติบโตของกำไรต่อเนื่อง 10 ไตรมาสติดต่อกัน และยอดขายทำ All Time High ตั้งแต่ตั้งบริษัทมา
“การเติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสนี้ สะท้อนถึงความสำเร็จของแผนการขยายฐานลูกค้าเชิงรุกที่มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพสูง และเพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ มีทั้งการเปลี่ยนรูปแบบ โครงสร้าง และลวดลายสีสรรต่างๆ ให้กับฐานลูกค้าเดิม ประกอบกับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างละเอียดรอบคอบ ทั้งในด้านการใช้พลังงานทดแทนไฟฟ้า การจัดซื้อวัตถุดิบ การลงทุนในการผลิตฟิล์มด้วยเครื่อง Blow film เพื่อทดแทนการนำเข้า การปรับเปลี่ยนครื่องจักรเพื่อให้มีมีประสิทธิภาพสูงขึ้นในกระบวนการผลิต รวมถึงลดจำนวนของเสียจากการผลิต และใช้ประโยชน์จาก Economy of Scale ได้อย่างเต็มที่” ดร.สมโภชน์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มในไตรมาส 2/2568 บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถรักษาการเติบโตได้ตามที่ประมาณการณ์ไว้ แม้จะเป็นช่วงที่มีวันหยุดมากกว่าปกติ แต่คำสั่งซื้อยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ถือเป็นสินค้าจำเป็นและมีอุปสงค์สูงอยู่สม่ำเสมอ ทั้งนี้ SFLEX มีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มลูกค้าดังกล่าวมากกว่า 80% ของรายได้รวม โดยลูกค้าหลักล้วนเป็นผู้ผลิตชั้นนำทั้งในประเทศและระดับสากล อีกทั้งยังมีการทำสัญญาระยะยาวกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อสร้างเสถียรภาพด้านคำสั่งซื้อ พร้อมเตรียมแผนขยายกำลังการผลิต รองรับการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว
ทั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลธุรกิจต้นน้ำ หลายประเภทเพื่อสามารถควบคุมกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งให้ความสำคัญทั้งด้านการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี รวมถึง Strategic Partner ซึ่งอาจนำไปสู่การร่วมทุน (Joint Venture) เพื่อเสริมศักยภาพทางธุรกิจ รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน (Sustainability) และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ สร้างโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
นอกเหนือจากการเติบโตทางธุรกิจบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้กรอบ ESG (Environment, Social, and Governance) โดยมุ่งพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการเติบโตขององค์กรผ่านการสนับสนุนด้านการแพทย์และการศึกษาอย่างยั่งยืน ได้แก่ กิจกรรมการมอบเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลปทุมธานี อาทิ เครื่องไตเทียม เครื่องช่วยหายใจขนาดใหญ่ และเครื่องช่วยหายใจความถี่สูง พร้อมกันนี้ ยังได้มอบอุปกรณ์และครุภัณฑ์ให้กับวิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี เพื่อใช้ใน 3 ศูนย์ฝึกอบรม ได้แก่ ศูนย์ฝึกอบรมช่างซ่อมบำรุงเครื่องจักรกลการเกษตร ศูนย์ฝึกอบรมการซ่อมบำรุงยานยนต์ไฟฟ้า และศูนย์ฝึกอบรมการติดตั้งและซ่อมบำรุงเครื่องปรับอากาศ รวมทั้ง ยังอยู่ระหว่างการจัดหารถยนต์พยาบาลระบบ Advanced Life Support พร้อมเครื่องช่วยหายใจที่สามารถใช้งานบนเฮลิคอปเตอร์ได้ เพื่อสนับสนุนการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนบทบาทของบริษัทเอกชนในการมีส่วนร่วมส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ในส่วนของภายในบริษัทก็มีโครงการต่างๆ เพื่อยกระดับการทำงานและมาตราฐานชีวิตพนักงาน ผ่านโครงการต่างๆ มากมาย ซึ่งได้รับการยอมรับในวงกว้าง เช่น TTB financial well-being awards เป็นต้น

ดร.สมโภชน์ วัลยะเสวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) (SFLEX) ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนชั้นนำในประเทศ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2568 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 491.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.8 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 485.0 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 24.5% และมีกำไรสุทธิ 65.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 63.6 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิสำหรับไตรมาสอยู่ที่ 13.1% ขณะที่ไตรมาสเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 12.92% หากพิจารณาในส่วนของผลงานรายไตรมาสถือเป็นการสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยการเติบโตของกำไรต่อเนื่อง 10 ไตรมาสติดต่อกัน และยอดขายทำ All Time High ตั้งแต่ตั้งบริษัทมา
“การเติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสนี้ สะท้อนถึงความสำเร็จของแผนการขยายฐานลูกค้าเชิงรุกที่มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพสูง และเพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ มีทั้งการเปลี่ยนรูปแบบ โครงสร้าง และลวดลายสีสรรต่างๆ ให้กับฐานลูกค้าเดิม ประกอบกับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างละเอียดรอบคอบ ทั้งในด้านการใช้พลังงานทดแทนไฟฟ้า การจัดซื้อวัตถุดิบ การลงทุนในการผลิตฟิล์มด้วยเครื่อง Blow film เพื่อทดแทนการนำเข้า การปรับเปลี่ยนครื่องจักรเพื่อให้มีมีประสิทธิภาพสูงขึ้นในกระบวนการผลิต รวมถึงลดจำนวนของเสียจากการผลิต และใช้ประโยชน์จาก Economy of Scale ได้อย่างเต็มที่” ดร.สมโภชน์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มในไตรมาส 2/2568 บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถรักษาการเติบโตได้ตามที่ประมาณการณ์ไว้ แม้จะเป็นช่วงที่มีวันหยุดมากกว่าปกติ แต่คำสั่งซื้อยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ถือเป็นสินค้าจำเป็นและมีอุปสงค์สูงอยู่สม่ำเสมอ ทั้งนี้ SFLEX มีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มลูกค้าดังกล่าวมากกว่า 80% ของรายได้รวม โดยลูกค้าหลักล้วนเป็นผู้ผลิตชั้นนำทั้งในประเทศและระดับสากล อีกทั้งยังมีการทำสัญญาระยะยาวกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อสร้างเสถียรภาพด้านคำสั่งซื้อ พร้อมเตรียมแผนขยายกำลังการผลิต รองรับการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว
ทั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลธุรกิจต้นน้ำ หลายประเภทเพื่อสามารถควบคุมกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งให้ความสำคัญทั้งด้านการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี รวมถึง Strategic Partner ซึ่งอาจนำไปสู่การร่วมทุน (Joint Venture) เพื่อเสริมศักยภาพทางธุรกิจ รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน (Sustainability) และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ สร้างโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
นอกเหนือจากการเติบโตทางธุรกิจบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้กรอบ ESG (Environment, Social, and Governance) โดยมุ่งพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการเติบโตขององค์กรผ่านการสนับสนุนด้านการแพทย์และการศึกษาอย่างยั่งยืน ได้แก่ กิจกรรมการมอบเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลปทุมธานี อาทิ เครื่องไตเทียม เครื่องช่วยหายใจขนาดใหญ่ และเครื่องช่วยหายใจความถี่สูง พร้อมกันนี้ ยังได้มอบอุปกรณ์และครุภัณฑ์ให้กับวิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี เพื่อใช้ใน 3 ศูนย์ฝึกอบรม ได้แก่ ศูนย์ฝึกอบรมช่างซ่อมบำรุงเครื่องจักรกลการเกษตร ศูนย์ฝึกอบรมการซ่อมบำรุงยานยนต์ไฟฟ้า และศูนย์ฝึกอบรมการติดตั้งและซ่อมบำรุงเครื่องปรับอากาศ รวมทั้ง ยังอยู่ระหว่างการจัดหารถยนต์พยาบาลระบบ Advanced Life Support พร้อมเครื่องช่วยหายใจที่สามารถใช้งานบนเฮลิคอปเตอร์ได้ เพื่อสนับสนุนการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนบทบาทของบริษัทเอกชนในการมีส่วนร่วมส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ในส่วนของภายในบริษัทก็มีโครงการต่างๆ เพื่อยกระดับการทำงานและมาตราฐานชีวิตพนักงาน ผ่านโครงการต่างๆ มากมาย ซึ่งได้รับการยอมรับในวงกว้าง เช่น TTB financial well-being awards เป็นต้น
ยอดนิยม
_0.jpg)
PTG ผนึก “โป๊ยเซียน” แจกยาดม 2 หมื่นหลอด เติมความสดชื่นเต็ม MAX
_0.jpg)
SUPER สุดแกร่ง! Q1 ฟันกำไรสุทธิ 165 ลบ.โต 6.38% ปักหมุดปี 70 กำลังผลิตทะลุ 2,200 MW
_0.jpg)
NKT รุกขยายโครงการ รพ.นครธน 2 - นครธน ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์ ปักหมุดรายได้รวมปี 68 เติบโตระดับ 8-10%
%20copy.jpg)
BKGI เล็งขยายแพลตฟอร์ม NGS เพื่อวินิจฉัยขั้นสูงสู่กลุ่มเป้าหมาย ลุยเปิดห้องปฏิบัติใหม่ หนุนรายได้ปีนี้โต 20-25 %
