กระดานข่าว

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เปิดผลประกอบการ Q1/2568 ยอดโอนกว่า 3,500 ล้านบาท โชว์ Backlog ในมือแกร่ง หนุนทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง 5 ปี มีโครงการคอนโดฯจ่อโอน Q2/2568 จำนวน 3 โครงการ Backlog กว่า 4,000 ล้านบาท


16 พฤษภาคม 2568

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ โชว์ยอดโอน Q1/68 กว่า 3,561 ล้านบาท ยอดขายบ้าน-คอนโดฯ ที่ 8,027 ล้านบาท โชว์ Backlog ในมือทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง 5 ปี กว่า 45,389 ล้านบาท ขณะที่ Q2/68 จ่อโอนใหม่ 3 โครงการ มี Backlog คอนโดแล้วกว่า 4,000 ล้านบาท ครึ่งปีหลังจ่อโอนกรรมสิทธิ์โครงการใหม่เพิ่มอีก 7 โครงการ ตุน Backlog กว่า 6,600 ล้านบาท ด้านธุรกิจคลังสินค้าแกร่ง อัตราเช่าสูง 97.6% เริ่ม operate เพิ่มเติมในทำเล รังสิต และ แหลมฉบัง

 นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร.jpg

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 บริษัทฯ มีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่อยู่อาศัยทุกกลุ่ม (รวมโครงการ JV) ทั้งสิ้นกว่า 3,561 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากงวดเดียวกันของปีก่อนโดยเป็นโครงการร่วมทุน (JV)  2,568 ล้านบาท  ส่วนยอดขาย (Presale) รวม 8,027 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดขายจากคอนโดมิเนียม ภายใต้ ORIGIN VERTICAL อยู่ที่ 6,860 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 85% และเป็นยอดขายจากบ้านแนวราบ ภายใต้ BRITANIA อยู่ที่ 1,167 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 15%

ในจำนวนยอดขาย 8,027 ล้านบาท แยกเป็นยอดขายจากโครงการที่บริษัทฯพัฒนา (Non- JV) ประมาณ 5,045 ล้านบาท และยอดขายจากกลุ่มโครงการร่วมทุน (JV) กับพาร์ทเนอร์ ประมาณ 2,982 ล้านบาท และเป็นรายได้มาจากโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (Ready to move) มีทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านแฝดกระจายทำเลทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองหลักในต่างจังหวัดประมาณ 4,395 ล้านบาท และ มาจากโครงการที่เปิดขายใหม่และอยู่ระหว่างดำเนินการ (Ongoing) ประมาณ 3,633 ล้านบาท

โดยในไตรมาส 1/2568  บริษัทฯเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม ภายใต้ ORIGIN VERTICAL โครงการ So Origin Sukhumvit 105 (โซ ออริจิ้น สุขุมวิท 105) คอนโดฯใหม่ใกล้ BTS สถานีแบริ่งเพียง 200 เมตร*
ตัวโครงการออกแบบภายใต้แนวคิด “Modern Classic Timeless Design” ซึ่งสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ SO ORIGIN ผสานศิลปะการออกแบบและฟังก์ชันที่เหนือระดับเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง “สะท้อนตัวตน” ให้กับผู้อยู่อาศัยได้เปิดประสบการณ์การอยู่อาศัยระดับพรีเมียมในทำเลคุณภาพ และ โครงการบ้านแนวราบ ภายใต้ BRITANIA โครงการ Britania Pracha Uthit 90 (บริทาเนีย ประชาอุทิศ 90) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พัฒนาด้วยแนวคิด Endless Happiness Living with Nature นิยามใหม่แห่งการใช้ชีวิต ท่ามกลางธรรมชาติที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งมาพร้อมกับแบบบ้านสไตล์ Road to Norwich ลงตัวทุกสัดส่วนออกแบบอย่างใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อรองรับชีวิตคนยุคใหม่อย่างแท้จริง

ทั้งนี้ในกลุ่มธุรกิจคลังสินค้า ปัจจุบันได้มีการเปิด operate แล้ว 7 แห่งในทำเลยุทธ์ศาสตร์สำคัญ ได้แก่ ทำเลรังสิต,
บางนา กม.22, บางนา กม.19, แหลมฉบัง, พานทอง และระยอง รวมพื้นที่กว่า 286,956 ตารางเมตร มีอัตราการเช่าสูงถึง 97.6% โดยในไตรมาส 1/2568 ที่ผ่านมาได้มีการเปิดให้บริการพื้นที่เพิ่มเติม 2 แห่ง คือ

  • โครงการแอลฟา รังสิต (ALPHA Rungsit)ตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 54 ไร่ บนถนนพหลโยธิน กม.33 ที่มีความโดดเด่นด้านทำเล ถือได้ว่าเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญด้านการขนส่ง เปิดให้บริการพื้นที่กว่า 14,595 ตารางเมตร (ตร.ม.)
  • โครงการแอลฟา แหลมฉบัง 2 (ALPHA Laem Chabang 2)เพื่อรองรับดีมานด์การจัดเก็บสินค้าทั่วไปจากกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมใกล้เคียง ผู้นำเข้าส่งออก โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เช่น สินค้าอะไหล่และรถยนต์ EV, สินค้าอิเล็กทรอนิกส์, สินค้าเครื่องจักรและอะไหล่ เป็นต้น โดยโครงการตั้งอยู่ใกล้ศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่สำคัญ ทั้งสนามบิน ท่าเรือ และเชื่อมผ่านเส้นทางถนนสายหลัก รวมถึงเป็นคลังสินค้าที่ออกแบบตามหลัก Green Warehouse ใช้หลังคา Sky light และ EV Forklift เปิดให้บริการพื้นที่กว่า 13,380 ตารางเมตร

ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 บริษัทมีแบ็คล็อค (Backlog) รวม 45,389 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง 5 ปี ทั้งนี้บริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมที่จะแล้วเสร็จใหม่ในไตรมาส 2/2568 จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 5,700 ล้านบาท ซึ่งมี Backlog แล้วกว่า 4,000 ล้านบาท  และในครึ่งหลังของปี 2568 มีโครงการคอนโดมิเนียมที่จะทยอยโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มใหม่อีกจำนวน
7 โครงการ ซึ่งมี Backlog แล้วกว่า 6,600 ล้านบาท

ส่วนการเปิดตัวโครงการใหม่ปี 2568 มีแผนเปิดตัวโครงการทั้งพื้นที่ในกรุงเทพและต่างจังหวัดจำนวน 11 โครงการ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท เป็นคอนโดฯจาก ORIGIN VERTICAL จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวม 12,500 ล้านบาท และเป็นบ้านเดี่ยวจาก บริทาเนีย จำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 7,500 ล้านบาท

สำหรับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ภายใต้ 4 กลุ่มธุรกิจ

1.กลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 168 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 1/2568) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) เป็นต้น รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้นกว่า 254,967 ล้านบาท โดยกลุ่มโครงการบ้านจัดสรร หรือที่อยู่อาศัยแนวราบ ดำเนินการภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เน้นกลุ่มบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ส่วนกลุ่มโครงการแนวสูงหรือคอนโดมิเนียม ดำเนินการภายใต้บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL

2.กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก

3.กลุ่มธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์

และ 4.กลุ่มธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) เป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร