กระดานข่าว

ราช กรุ๊ป ประกาศกำไรสุทธิ 1,220 ล้านบาท ไตรมาสแรกปี 2568 เดินหน้าปรับแผนกลยุทธ์ธุรกิจ คาดแล้วเสร็จไตรมาส 2 ปีนี้


15 พฤษภาคม 2568

นนทบุรี- บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2568 (1 มกราคม – 31 มีนาคม 2568) รับรู้กำไรจำนวน 1,220 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2567 เนื่องจากบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีการบันทึกบัญชีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน อีกทั้งรายได้ของโรงไฟฟ้าราชบุรีที่ปรับลดลงตามระยะเวลาของสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ขณะที่รายได้จากส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในกิจการร่วมค้า ปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นจำนวน 1,232.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.2 สำหรับภาพรวมการดำเนินงานในไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 6,987 ล้านบาท โดยรายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจผลิตไฟฟ้า จำนวน 6,547 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 94 ของรายได้รวม ส่วนรายได้จากธุรกิจสาธารณูปโภคและอื่น ๆ (Non-power) เติบโตขึ้นเป็นจำนวน 440 ล้านบาท หรือร้อยละ 6 ของรายได้รวม     

นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (1).jpg

นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ยังสะท้อนถึงความมั่นคงแข็งแกร่ง โดยมีธุรกิจผลิตไฟฟ้าเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ ซึ่ง ในไตรมาสนี้ โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิล และโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน สามารถสร้างรายได้ เป็นจำนวน 5,273 ล้านบาท และจำนวน 1,274 ล้านบาท ตามลำดับ นอกจากนี้ การบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ยังเป็นปัจจัยหนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี  ทั้งนี้ บริษัทฯ รับรู้กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 3,194 ล้านบาท

“การดำเนินงานในช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นที่การบริหารสินทรัพย์ที่ได้ลงทุนแล้ว เพื่อให้สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและผลตอบแทนที่เสริมสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนให้กับบริษัทฯ ซึ่งผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าต่าง ๆ ยังสามารถสร้างรายได้ รักษาความพร้อมจ่ายและประสิทธิภาพการผลิตไว้ได้เป็นที่น่าพอใจ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังกำลังดำเนินการปรับแผนยุทธศาสตร์โดยกำหนดกลยุทธ์ เพื่อวางทิศทาง การดำเนินธุรกิจและการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ ซึ่งแผนดังกล่าวได้รวมถึงการพัฒนาพื้นที่โรงไฟฟ้าราชบุรีที่กำลังจะครบอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้า และกำหนดจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ปีนี้ ขณะเดียวกัน ยังได้จัดทำแผนการบริหารการเงินไว้พร้อมแล้ว โดยมีวงเงินหุ้นกู้ จำนวน 35,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 เมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา” นายนิทัศน์ กล่าว      

สำหรับฐานะการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 มีสินทรัพย์รวมจำนวน 214,142 ล้านบาท หนี้สินรวมจำนวน 107,148 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 106,994 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีศักยภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งสะท้อนจากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน 1.00 เท่า และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นร้อยละ 10.52