TIDLOR ไตรมาส 1/68 กำไรนิวไฮ ทำได้กว่า 1.21 พันลบ. คุม NPL ต่ำ 1.78% ปลดล็อกศักยภาพการโตสู่ Tidlor Holdings
บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 ทำกำไรสุทธินิวไฮที่ 1,218 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 16.6% เทียบกับไตรมาสก่อน และมีรายได้รวม 5,640.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.2% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินธุรกิจทั้งด้านสินเชื่อและนายหน้าประกันที่มีประสิทธิภาพสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2568 บริษัทมีพอร์ตสินเชื่อคงค้างรวมอยู่ที่ 104,719.4 ล้านบาท เติบโต 4.6% จากปีก่อน และ 0.8% จากไตรมาสก่อน โดยมีจำนวนลูกค้าสินเชื่อเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน สะท้อนถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากช่องทางสาขากว่า 1,800 แห่งทั่วประเทศ และการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับการให้บริการลูกค้า โดยเฉพาะการใช้งานบัตรติดล้อ ที่ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2568 บริษัทได้ส่งมอบบัตรไปแล้วกว่า 741,000 ใบ เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อนหน้า และมากกว่า 71% ของการเบิกวงเงินสินเชื่อทั้งหมดดำเนินการผ่านบริการโอนเงินสินเชื่อเข้าบัญชีผ่านแอปพลิเคชันเงินติดล้อ ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพของการนำนวัตกรรมดิจิทัลมาสนับสนุนการเข้าถึงและให้บริการสินเชื่อของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ด้านธุรกิจนายหน้าประกันยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทฯ มีเบี้ยประกันวินาศภัยรวม 2,772.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7% จากปีก่อน เป็นผลจากการมีผลิตภัณฑ์ประกันที่ครอบคลุมความคุ้มครองทั้งรถ คน และบ้าน ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมถึงการมีช่องทางการขายที่หลากหลายและเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งเป็นผลจากเทคโนโลยีด้านนายหน้าประกัน (InsurTech Platform) แบรนด์ประกันติดโล่ (Shield Insurance) ผู้นำธุรกิจนายหน้าประกันในรูปแบบ Face to Face พร้อมคำแนะนำ จากพนักงานที่มีใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิตมากกว่า 5,000 คน ผ่านสาขาเงินติดล้อ พร้อมบริการ Call Center 1501 ที่ยกระดับการให้บริการกับลูกค้าตั้งแต่การซื้อประกันถึงการเคลม ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
แบรนด์อารีเกเตอร์ (Areegator) แพลตฟอร์มเสนอขายประกันออนไลน์ ผ่านสมาชิกตัวแทนนายหน้าประกัน และแบรนด์เฮ้ กู๊ดดี้ (heygoody.com) แพลตฟอร์มนายหน้าประกันดิจิทัล ที่ลูกค้าสามารถเลือกซื้อประกันด้วยตัวเองผ่านช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันได้รับผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยในช่วงไตรมาสแรกยังคงเปราะบาง ขณะที่สัดส่วนหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ประชาชนจึงมีความต้องการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพิ่มขึ้น และภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว บริษัทฯ สามารถขยายฐานลูกค้าสินเชื่อเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน
โดยยังคงดำเนินนโยบายการปล่อยสินเชื่อใหม่ด้วยความระมัดระวัง เพื่อรักษาคุณภาพพอร์ตสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและควบคุมได้ ส่งผลให้อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (NPL Ratio) ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568 อยู่ที่ 1.78% ปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งการที่คุณภาพสินเชื่อมีแนวโน้มดีขึ้นนั้นเป็นผลมาจากทั้งการปรับนโยบายการอนุมัติสินเชื่อ และการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการติดตามหนี้ในช่วงที่ผ่านมา และยังส่งผลให้ในไตรมาสนี้ Credit Cost อยู่ที่ 2.96% ปรับตัวลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าอีกด้วย
ขณะที่ยังคงอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (%NPL Coverage) ในระดับสูงที่ 255.7% นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีวงเงินกู้ยืมคงเหลืออีกมากกว่า 24,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บมจ. เงินติดล้อ ยังคงได้รับอันดับเครดิตที่ “A/Stable” จากทริสเรทติ้ง ซึ่งถือเป็นระดับสูงที่สุดเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการในธุรกิจเดียวกัน ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ และมีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจและสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ภายใต้สถานะทางเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบางเช่นปัจจุบัน นอกจากนี้ ด้านธุรกิจนายหน้าประกัน บริษัทฯ ยังคงวางกลยุทธ์โดยการใช้ InsurTech Platform เพื่อเป็นจิ๊กซอว์สำคัญช่วยขยายฐานลูกค้าและเติมเต็มช่องว่างทางการตลาดให้ครอบคลุม เพื่อสร้างการเติบโตให้ภาพรวมธุรกิจนายหน้าประกันอย่างต่อเนื่อง
สำหรับความคืบหน้าด้านการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตามแผนที่วางไว้ โดยบริษัท ติดล้อ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (“Tidlor Holdings” หรือ “ติดล้อ โฮลดิ้งส์”) จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2568 ภายใต้ชื่อย่อเดิม TIDLOR สำหรับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนสามารถเยี่ยมชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.tidlorinvestor.com
ยอดนิยม

OR ไตรมาสแรก มีกำไรสุทธิ 4.38 พันลบ. เพิ่มขึ้น 17% หลังทุกกลุ่มธุรกิจเติบโต พร้อมเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจ
%20copy_0.jpg)
NKT โชว์ผลงานไตรมาส 1/68 มีรายได้ 501 ล้านบาท-กำไรสุทธิ 56 ล้านบาท เดินหน้าสร้างโรงพยาบาลใหม่ 2 แห่ง
_0.jpg)
IND โชว์กำไร Q1/68 พุ่ง 164.38 % งานในมือหนุน -บริหารต้นทุนแกร่ง ปักหมุดรายได้ปี 68 โตเกิน 10-15%
%20copy_0.jpg)
SA ปิดดีลจ่ายหุ้นกู้ครบ 322.6 ลบ. ตอกย้ำศักยภาพการเงินแข็งแกร่ง ปักหมุดปี 68 โต 10-15% นิวไฮต่อเนื่อง
