กระดานข่าว
JCR คงอันดับความน่าเชื่อถือของไทยยูเนี่ยนสำหรับตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศระดับ A แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพต่อเนื่อง
03 เมษายน 2568
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก ได้รับการประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศระดับ A แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพต่อเนื่อง จาก Japan Credit Rating หรือ JCR ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากบริษัทมีศักยภาพในการเติบโตและมีธุรกิจอันหลากหลายอยู่ทั่วโลก ทั้งนี้ อันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศนี้เป็นอันดับเดียวกับอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ได้รับจาก JCR พร้อมกันนี้ JCR ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินในประเทศของบริษัทไว้ที่ระดับ A แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพเช่นเดียวกัน

โดย JCR ได้ระบุว่าสาเหตุที่ไทยยูเนี่ยนได้รับการคงอันดับความน่าเชื่อถืออย่างต่อเนื่อง จากการที่บริษัทลงทุนในเรื่องของนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจอย่างมีศักยภาพ รวมถึงความมั่นคงในการสร้างผลกำไรอันเป็นผลมาจากความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก ทั้งด้านการผลิต การจัดหาวัตถุดิบ และการทำตลาดด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกัน ผลการดำเนินงานของไทยยูเนี่ยนในปี 2567 ฟื้นตัวตามที่ JCR คาดการณ์ไว้ โดยที่ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการประกาศเปิดตัวกลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่ปี 2573 ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างการเติบโตครั้งสำคัญ โดยตั้งเป้าหมายทำยอดขายสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 2.45 แสนล้านบาท (US$7billion) ภายในปี 2573 และมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้น 100% จากประมาณ 14,000 ล้านบาท (US$400 million) เป็น 24,500 – 28,000 ล้านบาท (US$700-US$800 million) เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำระดับโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการเพื่อสุขภาพจากท้องทะเล
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "การที่ JCR ให้การคงอันดับเครดิตของเราที่ A และมีแนวโน้มมีเสถียรภาพอีกครั้ง นับเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถในการปรับตัวในสถานการณ์ที่ท้าทายและการเดินหน้ากลยุทธ์ใหม่โดยมุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจที่สำคัญ ด้วยการมองหาโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจ และรักษาความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับไทยยูเนี่ยนและรักษาความสามารถทางการแข่งขันของธุรกิจให้ไทยยูเนี่ยนขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการเพื่อสุขภาพจากท้องทะเล”
นอกจากนี้ JCR ยังให้ความเห็นว่าจุดแข็งของไทยยูเนี่ยนคือการมีแบรนด์ที่กระจายอยู่ในตลาดหลักทั่วโลก เช่น Chicken of the Sea ในสหรัฐอเมริกา, John West และ Petit Navire ในยุโรป ตลอดจน มีการดำเนินธุรกิจครอบคลุมทั้งในทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกา โดยมีฐานการผลิตอยู่ใน 13 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นไทย สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เซเชลส์ โปแลนด์ และเวียดนาม ซึ่ง JCR ยังระบุเพิ่มเติมว่าการที่ไทยยูเนี่ยนเป็นผู้รับผลิตสินค้าให้แบรนด์ในบริษัทอาหารรายใหญ่ที่คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายไทยยูเนี่ยน นับเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้ที่มั่นคง
ทั้งนี้ ในปี 2566 ไทยยูเนี่ยนได้จัดหาสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan หรือ SLL) มูลค่า 11,485 ล้านบาท ถือเป็นการเริ่มระยะที่ 2 ของโครงการ Blue Finance หรือการบริหารจัดการการเงินเพื่อการทำงานด้านการอนุรักษ์ท้องทะเลของไทยยูเนี่ยน โดยมีเป้าหมายจัดหาเงินทุนที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนให้ได้ 75 เปอร์เซ็นต์ของการจัดหาเงินทุนระยะยาวภายในปี 2568 ซึ่งสินเชื่อ SLL นี้ จะมีทั้งในสกุลเงินบาทไทยและดอลลาร์สหรัฐ สำหรับระยะเวลา 3 และ 5 ปี ซึ่งความสำเร็จในการจัดหาเงินทุนและเข้าถึงการเงินที่ยั่งยืนครั้งนี้เป็นก้าวที่สำคัญ ในการตอกย้ำถึงความทุ่มเทของไทยยูเนี่ยนในด้านความยั่งยืนของท้องทะเล

โดย JCR ได้ระบุว่าสาเหตุที่ไทยยูเนี่ยนได้รับการคงอันดับความน่าเชื่อถืออย่างต่อเนื่อง จากการที่บริษัทลงทุนในเรื่องของนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจอย่างมีศักยภาพ รวมถึงความมั่นคงในการสร้างผลกำไรอันเป็นผลมาจากความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก ทั้งด้านการผลิต การจัดหาวัตถุดิบ และการทำตลาดด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกัน ผลการดำเนินงานของไทยยูเนี่ยนในปี 2567 ฟื้นตัวตามที่ JCR คาดการณ์ไว้ โดยที่ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการประกาศเปิดตัวกลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่ปี 2573 ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างการเติบโตครั้งสำคัญ โดยตั้งเป้าหมายทำยอดขายสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 2.45 แสนล้านบาท (US$7billion) ภายในปี 2573 และมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้น 100% จากประมาณ 14,000 ล้านบาท (US$400 million) เป็น 24,500 – 28,000 ล้านบาท (US$700-US$800 million) เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำระดับโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการเพื่อสุขภาพจากท้องทะเล
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "การที่ JCR ให้การคงอันดับเครดิตของเราที่ A และมีแนวโน้มมีเสถียรภาพอีกครั้ง นับเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถในการปรับตัวในสถานการณ์ที่ท้าทายและการเดินหน้ากลยุทธ์ใหม่โดยมุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจที่สำคัญ ด้วยการมองหาโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจ และรักษาความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับไทยยูเนี่ยนและรักษาความสามารถทางการแข่งขันของธุรกิจให้ไทยยูเนี่ยนขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการเพื่อสุขภาพจากท้องทะเล”
นอกจากนี้ JCR ยังให้ความเห็นว่าจุดแข็งของไทยยูเนี่ยนคือการมีแบรนด์ที่กระจายอยู่ในตลาดหลักทั่วโลก เช่น Chicken of the Sea ในสหรัฐอเมริกา, John West และ Petit Navire ในยุโรป ตลอดจน มีการดำเนินธุรกิจครอบคลุมทั้งในทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกา โดยมีฐานการผลิตอยู่ใน 13 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นไทย สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เซเชลส์ โปแลนด์ และเวียดนาม ซึ่ง JCR ยังระบุเพิ่มเติมว่าการที่ไทยยูเนี่ยนเป็นผู้รับผลิตสินค้าให้แบรนด์ในบริษัทอาหารรายใหญ่ที่คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายไทยยูเนี่ยน นับเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้ที่มั่นคง
ทั้งนี้ ในปี 2566 ไทยยูเนี่ยนได้จัดหาสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan หรือ SLL) มูลค่า 11,485 ล้านบาท ถือเป็นการเริ่มระยะที่ 2 ของโครงการ Blue Finance หรือการบริหารจัดการการเงินเพื่อการทำงานด้านการอนุรักษ์ท้องทะเลของไทยยูเนี่ยน โดยมีเป้าหมายจัดหาเงินทุนที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนให้ได้ 75 เปอร์เซ็นต์ของการจัดหาเงินทุนระยะยาวภายในปี 2568 ซึ่งสินเชื่อ SLL นี้ จะมีทั้งในสกุลเงินบาทไทยและดอลลาร์สหรัฐ สำหรับระยะเวลา 3 และ 5 ปี ซึ่งความสำเร็จในการจัดหาเงินทุนและเข้าถึงการเงินที่ยั่งยืนครั้งนี้เป็นก้าวที่สำคัญ ในการตอกย้ำถึงความทุ่มเทของไทยยูเนี่ยนในด้านความยั่งยืนของท้องทะเล
ยอดนิยม
_%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%20S2T.jpg)
ค่าเงินบาทวันนี้ 27 มิ.ย. 2568

ราคาทองวันนี้ 27 มิ.ย. 68 เปิดตลาดปรับลด 200 บาท เช็คราคารูปพรรณล่าสุด
.jpg)
ภาคตลาดทุนเดินหน้าหนุน บจ. ไทย เติบโต ยั่งยืน เพิ่มความเชื่อมั่น
SMEs ไทยปล่อยของ โชว์ไอเดียล้ำ เซเว่นฯ ร่วมผลักดัน 32 สุดยอดนวัตกรรมเปลี่ยนโลกธุรกิจ ผนึก 10 องค์กรพันธมิตร มอบรางวัล “7 Innovation Awards 2025” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
.jpg)