ยูบิลลี่ ไดมอนด์ เปิดกลยุทธ์ปี 2568 ปักหมุดเติบโตต่อเนื่อง ตอกย้ำความแข็งแกร่ง ยืนหนึ่งผู้นำธุรกิจเครื่องประดับเพชรของเมืองไทย

บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ Jubilee (ชื่อหุ้น: JUBILE) ผู้นำธุรกิจเครื่องประดับเพชรอันดับหนึ่งของเมืองไทย แบรนด์ "ยูบิลลี่ ไดมอนด์ (Jubilee Diamond) มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อเนื่อง ประกาศเดินเกมปี 2568 รุกเจาะตลาดกลุ่มพรีเมียมลักชูรี พร้อมขยายฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่ รองรับกระแสเศรษฐกิจฟื้นตัว ตอกย้ำความแข็งแกร่งด้านกลยุทธ์ “The House of The Excellence” มุ่งสู่ปีที่ 96 เผยผลประกอบการไตรมาส 4/2567 สามารถรักษายอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นได้อย่างแข็งแกร่ง แม้เผชิญปัจจัยกดดันทางเศรษฐกิจ

นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของ Jubilee ในไตรมาส 4 ปี 2567 เติบโตได้ดีกว่าไตรมาสก่อนหน้า โดยได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวขึ้นและในช่วงเทศกาลจับจ่ายปลายปี แต่ก็ยังมีปัจจัยกดดันจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภาระหนี้ครัวเรือนในระดับสูง ส่งผลให้ผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อระดับกลางลงมายังระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอย ในขณะที่กลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงอาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ซึ่งบริษัทได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปรับแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่งสะท้อนประสิทธิภาพในการบริหารจัดการที่มีความพร้อมและความสามารถในการปรับตัวให้มีความยืดหยุ่น รวมถึงการนำเสนอกลยุทธ์ที่ตรงกับพฤติกรรมของผู้บริโภค

ในไตรมาส 4 ปี 2567 บริษัทดำเนินกลยุทธ์สำคัญหลายด้าน เพื่อผลักดันการเติบโต ตอกย้ำความแข็งแกร่งด้วยกลยุทธ์ The House of The Excellece ให้ความสำคัญกับทุกมิติในคุณภาพสินค้าให้ทัดเทียมระดับเวิล์ดคลาส การขยายตลาดเฉพาะกลุ่มที่มุ่งเน้นพื้นที่ศักยภาพสูง สอดคล้องกับตลาดสินค้าพรีเมียมลักชูรีที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเปิดตัวแบรนด์พรีเมียมลักชูรี เช่น Love 100 (แบรนด์เลิฟวันฮันเดรด) รวมถึงคอลเลคชั่นสินค้าใหม่ๆ เช่น The New Centennial 90 Facets, Larme D'Amour, Le Ruban Fleur และ Lumiere Brique ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง 
ที่สะท้อนความเป็นผู้นำในตลาดเพชรระดับพรีเมียม

นอกจากนี้ ยังมุ่งสร้างสรรค์กิจกรรมทางการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย เช่น Mega Christmas Thank You Sale ที่ช่วยเพิ่มยอดขายในช่วงปลายปี รวมถึงขยายฐานลูกค้าผ่าน Sparkling Club และพันธมิตรทางธุรกิจ ส่งผลให้ในไตรมาส 4 ปี 2568 บริษัทสามารถรักษายอดขายในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมียอดขายรวม 389.14 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 37.11 ล้านบาท ในขณะที่ผลประกอบการในปี 2567 มียอดขายรวม 1,415.89 ล้านบาท และกำไรสุทธิรวม 140.71 ล้านบาท

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทตั้งเป้าหมายขยายตลาดโดยเน้นการพัฒนาและเสริมกลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้น และการขยายแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่โดยการทำ Collaboration กับหนึ่งในบริษัทที่กำลังมาแรงระดับโลกอย่าง POPMART ด้วยการออกแคมเปญ Jubilee x POP MART กับ คอลเลคชัน 
Sweet Bean - I Want A Hug และการกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงเทศกาลสำคัญด้วยคอลเลกชันตรุษจีนและวาเลนไทน์ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น E-Receipt 2.0 ที่จะช่วยเพิ่มความต้องการบริโภคในตลาด ตลอดจนเสริมสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ

“Jubilee เดินหน้าสานต่อความสำเร็จและตอกย้ำความแข็งแกร่งด้านกลยุทธ์ The House of The Excellence ก้าวสู่ปีที่ 96
ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัทที่มุ่งเน้นและสื่อสารคุณภาพระดับเวิร์ลคลาสมาโดยตลอด เพื่อกระตุ้นตลาดเครื่องประดับเพชรในประเทศไทย โดยเราไม่ได้เป็นเพียงผู้นำด้านคุณภาพเพชร แต่ยังเป็นแบรนด์ที่เข้าใจความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค และพร้อมขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริษัทเชื่อว่าแนวทางการดำเนินธุรกิจที่วางไว้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ พร้อมสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นางสาวอัญรัตน์กล่าวปิดท้าย