RT ชำระคืนหุ้นกู้-ดอกเบี้ยตามนัด 709 ล้านบาท ตอกย้ำศักยภาพธุรกิจ สร้างการเติบโตต่อเนื่อง

RT ชำระคืนหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2566 พร้อมดอกเบี้ย รวม 709 ล้านบาท ครบตามกำหนด ตอกย้ำศักยภาพธุรกิจ สะท้อนความสามารถบริหารสภาพคล่องทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ถือหุ้นกู้ทุกราย พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตต่อเนื่อง 

นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านขุดเจาะอุโมงค์ วิศวกรรมโยธา  และ ธรณีเทคนิคครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินการชำระหุ้นกู้ที่ได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2566  อายุ 2 ปี ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน อัตราดอกเบี้ย 6.20% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยหุ้นกู้ดังกล่าวครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 จำนวน 700 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้ชำระคืนพร้อมดอกเบี้ยให้กับผู้ถือหุ้นกู้ทั้งหมด รวมมูลค่าประมาณ 709 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว 

สำหรับการระดมทุนออกหุ้นกู้ครั้งนี้ บริษัทนำเงินไปใช้ตามวัตถุประสงค์ ลงทุนในโครงการก่อสร้างที่บริษัทเข้าร่วมประมูลและรับงานใหม่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ งานก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่  สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 2 (กิจการวมค้า ไอทีดี-เนาวรัตน์ และ กิจการร่วมค้า ซีเคเอสที-ดีซี2 เป็นผู้ว่าจ้าง) และ งานโยธาสำหรับโครงสร้างถาวร โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) (บริษัท ช.การช่าง (ลาว) จำกัด เป็นผู้ว่าจ้าง) รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงานก่อสร้าง โดยมุ่งเน้นการส่งมอบงานได้ตามกำหนดเวลา และเพิ่มการรับรู้รายได้ต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การชำระคืนหุ้นกู้และจ่ายดอกเบี้ยครบตามกำหนด ตอกย้ำถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจ และสะท้อนถึงการบริหารจัดการสภาพคล่องทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

“RT ยังคงมุ่งเน้นสร้างการเติบโตทางธุรกิจและเพิ่มผลกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยเข้ารับงานโครงการก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชนที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่ง อีกทั้งบริษัทคัดเลือกงานที่มีอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มสัดส่วนงานที่รับรู้รายได้เร็วขึ้น รวมถึงการปรับกลยุทธ์เพิ่มการรับงานระยะสั้นเช่นงานเสริมเสถียรภาพทางลาด (Slope Protection) ที่ปัจจุบันมีงานประเภทนี้อยู่ใน Backlog ร่วม 700 ล้านบาท จาก Backlog ทั้งหมดประมาณ 6,000 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุนและเพิ่มมาตรฐานการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต” นายชวลิต กล่าว