หากพูดถึงธุรกิจเดินเรือ อีกหนึ่งบริษัทที่นักลงทุนเฝ้าจับตาคงหนีไม่พ้น บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าเหลวทางเรือระหว่างประเทศ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มและน้ำมันพืชชนิดต่างๆ ไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคเอเชียตะวันออก อีกทั้งบริษัทย่อยให้บริการขนส่งสินค้าเหลวทางรถในประเทศ ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิงและไบโอดีเซล B100
ในช่วงผลประกอบการ 9 เดือนปี 2567 ที่ผ่านมา โชว์ผลงานเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยตัวเลขรายได้รวม 2,351.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 126.73 ล้านบาท หรือ 5.70 % และมีกำไรสุทธิ 232.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.53 ล้านบาท หรือ 6.19 % เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 218.59 ล้านบาท
หากมองมายังปี 2568 ล่าสุด AMA ได้ออกมาประกาศเป้าหมายว่า ปี 2568 วางเป้าหมายรายได้เติบโต 10% หลังธุรกิจรถขนส่งสินค้าขาขึ้น ดีมานด์ลูกค้าเติบโตทั้งลูกค้าหลัก และรายใหม่
“พิศาล รัชกิจประการ” กรรมการผู้จัดการ AMA ประเมินแนวโน้มธุรกิจโลจิสติกส์ในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตต่อ เนื่องจาก ปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10% เนื่องจาก ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากกลุ่มธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าทางรถของบริษัทฯ และของบริษัทย่อย บริษัท เอ เอ็ม เอ โลจีสติกส์ ( AMAL ) ที่ได้เพิ่มจำนวนรถ 30 คัน เป็น 334 คัน ในช่วงปลายปี 2567
ส่วนธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าทางรถ มาจากกลุ่มลูกค้าหลักอย่าง บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) ซึ่งใช้บริการรถขนส่งน้ำมันของ AMA คิดเป็นสัดส่วนกว่า 90% และแผนการขยายสาขาของ PTG จะทำให้ปริมาณการขนส่งมากขึ้น ส่วนลูกค้ารายอื่นมีความต้องการใช้รถขนส่งมากขึ้นเช่นกัน ขณะที่การให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือมีการเติบโตต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
“ธุรกิจขนส่งทางรถในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากดีมานด์ลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ ซึ่งเราได้มีการเตรียมแผนรองรับ โดยบริษัท ทีเอสเอสเค โลจิสติกส์ จำกัด (TSSK) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ AMA ถือหุ้น 67% ทำธุรกิจขนส่งเม็ดพลาสติก เตรียมสั่งซื้อรถเพิ่มอีก 20 คัน ภายในไตรมาส 2/2568 ส่วนธุรกิจขนส่งทางเรือ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมีเรือขนส่งจำนวน 8 ลำ ขนาด 8.6 หมื่นเดทเวทตัน รองรับดีมานด์ลูกค้า” นายพิศาล กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯเตรียมขยายธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต ซึ่งยังคงโฟกัสในธุรกิจโลจิสติกส์เป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ Warehouse และขนส่งทางโดรน คาดได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ซึ่งในส่วนการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการลงทุน ซึ่งมี 2 แนวทาง คือ การลงทุนเอง และการร่วมมือกับพันธมิตร
ยอดนิยม
NEX ผนึก "นครชัยแอร์" ชิงรถเมล์ไฟฟ้า ขสมก. มูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท
บจ.ไทยเงินหนา! ปี 68 ซื้อหุ้นคืนรวมกว่า 3.7 หมื่นลบ. ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทองคำแกว่งตัวตามอารมณ์ตลาด วันสุดท้ายก่อนคริสต์มาส วอลุ่มบาง ทองไทยเปิดลบ 100 บาท เจอบาทแข็งกดดัน
กลุ่มอิเล็กฯ กำไรสะดุด เงินบาทแข็งอาจทำพิษ โบรกฯ คาดทุก 1 บาท ฉุดกำไร 7-10%