‘UBE’ ฟอร์มสุดแกร่งผลงาน 9 เดือน กำไรสุทธิ 249.3 ล้านบาท พุ่ง 322.4% ปลื้มปริมาณการขายแป้งออร์แกนิคกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง
‘บมจ. อุบล ไบโอ เอทานอล’ หรือ UBE ผู้ผลิตและแปรรูปมันสำปะหลังแบบครบวงจร โชว์ผลดำเนินงานไตรมาส 3/2567 มีกำไรสุทธิ 99.6 ล้านบาท เติบโต 380.7% ทำรายได้รวมกว่า 1,578.5 ล้านบาท เติบโต 10.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ปลื้มปริมาณการขายแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิคพุ่งทะยาน หนุนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 249.3 ล้านบาท เติบโตที่ 322.4% และมีรายได้รวม 5,048.9 ล้านบาท เติบโต 20.6% เดินหน้าแผนขับเคลื่อนโค้งสุดท้ายของปี ชูกลยุทธ์กระจายความเสี่ยงจากธุรกิจเดิมลงทุนในธุรกิจปลายน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ควบคุมต้นทุน มุ่งการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงสร้างกำไรที่สูงขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
นางสาวสุรียส โควสุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ UBE ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมันสำปะหลังรายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 (กรกฎาคม-กันยายน) เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทำรายได้รวมอยู่ที่ 1,578.5 ล้านบาท เติบโต 10.0% และมีกำไรสุทธิ 99.6 ล้านบาท เติบโต 380.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยมีปัจจัยจากปริมาณการขายผลิตภัณฑ์กลุ่มแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิคเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากการขายธุรกิจแป้งมันสำปะหลังอยู่ที่ 34.5% หรือมีอัตราการเติบโต 58.2% ตอกย้ำความสำเร็จการมุ่งเน้นบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของธุรกิจเดิมลงทุนในธุรกิจปลายน้ำ ขณะที่สัดส่วนยอดขายจากธุรกิจเอทานอลอยู่ที่ 58.8% ปรับตัวลดลง 7.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในส่วนของผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม-กันยายน) มีรายได้รวม 5,048.9 ล้านบาท เติบโต 20.6% และทำกำไรสุทธิ 249.3 ล้านบาท เติบโต 322.4% ตามปริมาณขายเอทานอลที่เพิ่มขึ้น คิดเป็นอัตราการใช้ (Utilization rate) 98.4% จากปริมาณการผลิต 107.8 ล้านลิตร เติบโต12.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ประกอบกับราคาขายที่เพิ่มสูงขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบกากน้ำตาล ส่งผลให้ธุรกิจเอทานอลมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 77.7% มีอัตราการเติบโต 21.7% ส่วนสัดส่วนธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง 37.3% มีอัตราการเติบโต 26.6 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เนื่องจากปริมาณการขายแป้งออร์แกนิค และราคาขายที่เพิ่มขึ้นของแป้งมันสำปะหลังทั่วไป
สำหรับรายได้ต่างประเทศผลการการดำเนินงวด 9 เดือน มีสัดส่วน 24.4% มีอัตราการเติบโต 39.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เนื่องจากบริษัทฯ ประสบความสำเร็จการส่งออกแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิคเพิ่ม ประกอบกับตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มความต้องการของฟลาวมันสำปะหลังสูง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มุ่งมั่นการทำวิจัยและพัฒนาฟลาวโดยเฉพาะ ทั้งการปรับปรุงคุณสมบัติให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า รวมถึงได้ดำเนินการอย่างรัดกุมเพื่อบริหารความเสี่ยงในทุกๆด้าน ที่สอดคล้องกับมาตรฐานในประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าปริมาณการส่งออกแป้งมันสำปะหลังโดยรวมของไทยเพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่ช่วงเทศกาลปลายปี ขณะที่รายได้ภายในประเทศมีสัดส่วน 75.6% มีอัตราการเติบโต 15.6% ซึ่งเป็นการเติบโตมาจากธุรกิจเอทานอลเป็นหลัก
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ UBE กล่าวเพิ่มว่า สำหรับแผนธุรกิจไตรมาส 4/2567 บริษัทฯ เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจตามแผน มุ่งเน้นกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจเดิม และเน้นการลงทุนในธุรกิจปลายน้ำมากขึ้น (Downstream Business) ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีความผันผวนต่ำ มีศักยภาพในการเติบโต โดยธุรกิจเอทานอลและแป้งมันสำปะหลัง ให้ความสำคัญการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อให้เกิดการประหยัดต่อขนาด และควบคุมต้นทุน และเน้นการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง (High Value Product) ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างมองหาพันธมิตรทางธุรกิจ (Strategic Partner) เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้าระดับพรีเมียมและทำกำไร (Bottom Line) สูงมากขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต นอกจากนี้ ในไตรมาส 4 เริ่มมีสัญญาณราคาแป้งและเอทานอลมีแนวโน้มลดลงจากราคาวัตถุดิบที่ลดลง และยังมีปัจจัยบวกปริมาณการใช้น้ำมันโดยรวมภายในประเทศเพิ่มขึ้น จากจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง โดยคาดการณ์ว่าปี 2567 ปริมาณการขายเอทานอลของ UBE เติบโต 5-15% ได้ตามเป้าหมาย
ส่วนแผนธุรกิจร้านอาหาร บริษัทฯ มุ่งเน้นขยายสาขาร้านอาหารญี่ปุ่นโอชิเนไป ในพื้นที่ที่มี traffic และกำลังซื้อสูงทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะเข้าทำการลงทุนเสร็จสิ้นภายในปี 2567 และจะเริ่มรับรู้รายได้เต็มปีในปีหน้า (2568) โดยบริษัทฯ วางเป้าหมายใน 3-5 ปีข้างหน้า คาดว่าจะเติบโตจากธุรกิจปัจจุบันและยังมีโอกาสเติบโตจากการขยายธุรกิจและต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ในอนาคต ที่เน้นเติบโตของผลกำไร (bottom line) เป็นหลักจากผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง เช่น แป้งออร์แกนิค ฟลาวมันสำปะหลัง และผลิตภัณฑ์ใหม่อื่นๆ ที่อยู่ระหว่างศึกษา และคาดว่าสัดส่วนการเติบโตของกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในอนาคตจะมาจากธุรกิจแป้งมันสำปะหลังเป็นหลัก
ยอดนิยม

AWC ผนึกกำลัง Arun Plus ร่วมพัฒนา “Chiang Mai Tram By Lannatique” รถแทรมไฟฟ้านำเที่ยวแห่งแรกของไทย เชื่อมแลนด์มาร์กประวัติศาสตร์ผ่านโครงการ “ลานนาทีค เดสทิเนชั่น”

ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับจดทะเบียน 5 DR ใหม่ อ้างอิงหุ้นจีน-ฮ่องกง ออกโดย INVX เริ่มซื้อขาย 21 ส.ค. นี้
.jpg)
KJL คว้าคะแนนระดับ ‘ดีเยี่ยม’ สูงสุด 99 คะแนน จาก AGM Checklist ประจำปี 2568 สะท้อนถึงความแข็งแกร่งด้านธรรมาภิบาลและมาตรฐานการบริหารจัดการองค์กรอย่างเป็นเลิศ
_%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%20S2T.jpg)
ค่าเงินบาทวันนี้ 21 ส.ค. 2568
