SJWD ไตรมาส 3/67 โดดเด่น กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 254.8 ล้านบาท รับศักยภาพทำกำไรแข็งแกร่งและควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี มุ่งทำผลงาน Q4 ดีสุดในรอบปี
บมจ.เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ หรือ SJWD ไตรมาส 3/2567 โชว์ฟอร์มเด่น ทำกำไรสุทธิ 254.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% จากไตรมาสก่อนหน้าหากไม่รวมกำไรพิเศษจากการลงทุนใน SWIFT ที่ราคาต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรม จากศักยภาพการทำกำไรเพิ่มขึ้นจากธุรกิจต่าง ๆ และการเพิ่มประสิทธิภาพควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เผยไตรมาส 4/2567 มุ่งทำผลงานดีที่สุดในรอบปี จากการขยายฐานลูกค้า ดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นรับไฮซีซัน และควบคุมค่าใช้จ่ายให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง วางเป้าหมายระยะยาวเพิ่มอัตรากำไรสุทธิจาก 4.1% เป็น 8-9%
ดร.เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SJWD ผู้ให้บริการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 เติบโตได้ดีทั้งรายได้และกำไรเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยมีรายได้รวม 6,249 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อนหน้า ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 254,8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่มีกำไรจากการดำเนินงาน 175.4 ล้านบาท (ไม่รวมกำไรพิเศษจำนวน 339.4 ล้านบาท จากการเข้าลงทุนในบริษัท Swift Haulage Berhad หรือ SWIFT ที่ราคาต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรม) ซึ่งการเติบโตดังกล่าวมาจากธุรกิจส่วนใหญ่ที่สร้างผลกำไรเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นจากผู้ประกอบการที่นำเข้า-ส่งออกสินค้า ประกอบกับบริษัทฯ สามารถลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ได้ 9% หรือ 51.9 ล้านบาท จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ ในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการต้นทุนภายหลังรวมกิจการกับเอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์
ธุรกิจที่เติบโตได้ดีในไตรมาส 3/2567 ได้แก่ (1) ธุรกิจคลังสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ มีรายได้ 167.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.4% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยปริมาณสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ที่ผ่านท่าเรือแหลมฉบังเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 46,000 ตู้ จาก 42,400
ตู้คอนเทนเนอร์ในไตรมาสก่อนหน้า (2) ธุรกิจขนย้าย มีรายได้ 103.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96.9% จากไตรมาสก่อนหน้า (3) ธุรกิจตัวแทนให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ มีรายได้ 438.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.1% จากไตรมาสก่อนหน้า (4) ธุรกิจห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า มีรายได้ 30.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.9% จากไตรมาสก่อนหน้า (5) ธุรกิจต่างประเทศ มีรายได้ 943.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.5% จากไตรมาสก่อนหน้า และ (6) ธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็น มีรายได้ 265.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.2% จากไตรมาสก่อนหน้า และอัตราการใช้พื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 71.1% จาก 65.9% ในไตรมาสก่อนหน้า ส่วนธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์ ได้รับงานเพิ่มขึ้นจากการเตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของผู้ประกอบการแบรนด์ต่าง ๆ นอกจากนี้ บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจาก Phnom Penh Special Economic Zone Plc. และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรในระดับที่ดีจากการลงทุนใน Transimex ที่เวียดนาม, Swift ที่มาเลซีย และ ANI
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯ สามารถเพิ่มอัตรากำไรสุทธิจากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องทุกไตรมาสที่ 2.6% 3.0% และ 4.1% ตามลำดับ จากการเพิ่มศักยภาพทำกำไรของธุรกิจต่าง ๆ และเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุม SG&A โดยมีเป้าหมายระยาวที่จะเพิ่มอัตรากำไรสุทธิเป็น 8-9% รวมถึงเริ่มรับรู้รายได้จากการเข้าถือหุ้น SCG International Vietnam Co., Ltd. (SCG Inter VN) ตั้งแต่ไตรมาส 3/2567 ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ 933.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม หากไม่รับรวมกำไรพิเศษจำนวน 339.4 ล้านบาท จากการเข้าลงทุนในบริษัท Swift Haulage Berhad ที่ราคาต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรม บริษัทฯ จะมีกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 594.3 ล้านบาท และมีรายได้รวม 18,369.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% จากปีก่อนหน้า
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน SJWD กล่าวด้วยว่า บริษัทฯ มุ่งทำผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2567 ให้เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดในรอบปีนี้ โดยธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นคาดว่าจะมีอัตราการใช้พื้นที่เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 75% จากอัตราเฉลี่ย 71.1% ในไตรมาส 2/2567 จากปริมาณการรับฝากอาหารแช่เย็นแช่แข็งที่เพิ่มขึ้น เช่น คลังสินค้าห้องเย็น บางนา กม.19 ได้รับงานจากลูกค้ารายใหญ่, คลังสินค้าห้องเย็น สระบุรี มีลูกค้าจัดเก็บสัตว์ปีกเพิ่มขึ้น ส่วนธุรกิจขนย้ายจะได้รับผลดีจากการเข้าสู่ไฮซีซันของธุรกิจ ธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์ได้รับงานขนส่งรถโมเดลใหม่เพิ่มขึ้น ธุรกิจคลังสินค้าทั่วไป ได้รับมอบคลังสินค้าแห่งใหม่ในโซนแหลมฉบังจากบริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด ที่ออกแบบตามหลัก Green Warehouse มีพื้นที่กว่า 18,000 ตารางเมตร ซึ่งบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการจัดหาลูกค้ารายใหญ่เข้าใช้เต็มทั้งพื้นที่แล้ว
“บริษัทฯ คาดว่าจะสร้างการเติบโตที่ดีในไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยนอกจากการขยายฐานลูกค้าและดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น บริษัทฯ มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุม SG&A อย่างต่อเนื่อง และมีแผนร่วมกับพาร์ทเนอร์ในมาเลเซียขยายการลงทุนโดยนำโมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยไปต่อยอด รวมถึงอยู่ระหว่างพิจารณาโอกาสลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพเติบโต” ดร.เอกพงษ์ กล่าว
ยอดนิยม
บี.กริม เพาเวอร์ กดปุ่ม COD โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในฟิลิปปินส์ เดินหน้าขยายพอร์ท
ส.ขอนแก่น เปิดแคมเปญ “เชียร์ถึงชัย ไทยทุกคำ กับ ส.ขอนแก่น” ให้ทุกโมเมนต์เชียร์สนุกสุดมันส์
"GCAP GOLD" ลุ้น เฟด ชี้ชะตาทองคำคืนวันพุธนี้ เตือน!! นักลงทุนตั้ง Stop Loss ป้องกันเสี่ยง
BDMS Wellness Clinic เดินหน้าขยายเครือข่ายสุขภาพสู่ตะวันออกกลาง ปักหมุดไทยสู่ Wellness Hub ระดับโลก