CKPower แข็งแกร่ง กวาดรายได้กว่า 8 พันล้านใน 9 เดือนแรก รับอานิสงส์บวกจากปัจจัยฤดูกาล EBITDA Margin ยังแกร่ง อัตราดอกเบี้ยนโยบายลดส่งผลดีต่อธุรกิจ
นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower (ชื่อย่อหลักทรัพย์: CKP) หนึ่งในผู้นำในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคและมีคาร์บอนฟุตพรินต์ต่ำที่สุดรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานโดยรวมทั้งในไตรมาส 3/2567 และงวด 9 เดือนปี 2567 ที่แข็งแกร่งและมีความมั่นคงทางการเงิน โดยในไตรมาส 3 มีรายได้รวม 2,901.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5 ขณะที่งวด 9 เดือนของปี 2567 มีรายได้รวม 8,012.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ร้อยละ 29.6 เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.0 รวมถึงมีอัตรากำไรก่อนค่าใช้จ่ายทางการเงิน ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) อยู่ที่ร้อยละ 44.4 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนของปีนี้ มาจากรายได้จากการขายไฟฟ้าของ บริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด (NN2) ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 32.5 และ 42.2 ตามลำดับ จากปรากฎการณ์ลานีญาและอิทธิพลจากพายุยางิที่ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากขึ้น โดยเฉพาะในเดือนกันยายน 2567 ส่งผลให้ NN2 สามารถประกาศความพร้อมจ่ายไฟฟ้าได้มากขึ้น นอกจากนี้ค่าเชื้อเพลิงของบริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด (BIC) ยังลดลงตามสถานการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติ
"จากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 ในปัจจุบันที่อยู่ในระดับสูง จะทำให้การบริหารจัดการน้ำในช่วงที่เหลือของปี 2567 และช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 มีความคล่องตัว นอกจากนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอเมริกา และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศไทย ทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL) ลดลง ซึ่งส่งผลดีต่อส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมของ CKPower ในไตรมาส 4 ต่อเนื่องไปถึงปี 2568" นายธนวัฒน์ กล่าว
สำหรับฐานะการเงินของ CKPower มีความแข็งแกร่งต่อเนื่อง ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 73,653 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.1 จากสิ้นปี 2566 มีอัตราส่วนสภาพคล่องอยู่ที่ 1.98 เท่า เพิ่มขึ้น 0.30 เท่าจากสิ้นปี 2566 ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวมก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 0.54 เท่า เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากสิ้นปี 2566 สะท้อนถึงความเพียงพอของสภาพคล่องและความสามารถในการชำระหนี้ที่อยู่ในระดับสูงของบริษัท
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา CKPower ได้รับคะแนนกำกับดูแลกิจการ (CG Score) ในระดับ "ดีเลิศ" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย สะท้อนการบริหารจัดการบริษัทที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน ครอบคลุมมิติบรรษัทภิบาล สังคม และสิ่งแวดล้อม (ESG) พร้อมกันนี้ในช่วงเดียวกัน บริษัทได้รับเกียรติบัตรจากโครงการ ESG DNA ชุดความรู้ด้านความยั่งยืน สำหรับบุคลากรทุกระดับ จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะ 1 ใน 50 องค์กรต้นแบบที่ได้เข้าร่วมโครงการและมีพนักงานเข้าอบรมผ่านเกณฑ์แล้วกว่าร้อยละ 79.7 ของหลักสูตร ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับหลักการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน การรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย ทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน
“CKPower ยังคงมุ่งมั่นผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้กับประเทศไทย พร้อมกับสานต่อกลยุทธ์ด้านการจัดการพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามมาตรฐานสากล รวมถึงแนวปฏิบัติการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ มุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ที่สามารถหวังผลในระยะยาวอย่างเป็นรูปธรรมภายในปี 2593" นายธนวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย
ยอดนิยม
_%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%20S2T.jpg)
ค่าเงินบาทวันนี้ 27 มิ.ย. 2568

ราคาทองวันนี้ 27 มิ.ย. 68 เปิดตลาดปรับลด 200 บาท เช็คราคารูปพรรณล่าสุด
.jpg)
ภาคตลาดทุนเดินหน้าหนุน บจ. ไทย เติบโต ยั่งยืน เพิ่มความเชื่อมั่น
SMEs ไทยปล่อยของ โชว์ไอเดียล้ำ เซเว่นฯ ร่วมผลักดัน 32 สุดยอดนวัตกรรมเปลี่ยนโลกธุรกิจ ผนึก 10 องค์กรพันธมิตร มอบรางวัล “7 Innovation Awards 2025” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
.jpg)