นับตั้งแต่ได้นายกคนใหม่ “แพทองธาร ชินวัตร” ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น 6 วันติดต่อกัน ขณะที่นักลงทุนต่างชาติหวนกลับมาซื้อหุ้นไทยอีกครั้ง ดังนั้นท่ามกลางดัชนีที่ฟื้นตัวอย่างโดดเด่น นักวิเคราะห์แนะนำหุ้น 3 ธีม กำไรครึ่งปีหลังของปี 67 เติบโตเด่นทั้งจากครึ่งปีแรก และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ดัก FUND FLOW

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ประเมินว่า SET INDEX ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 6 วันทำการหลังจากได้นายกฯ คนที่ 31 โดยบวก 65 จุด หรือราว 5% จาก 1,289 จุด มาอยู่ที่ 1,354 จุด
ขณะที่ FUND FLOW ยังไหลหนุนหุ้นในกลุ่ม TIP และยังไหลเข้าหุ้นไทยต่อเนื่อง โดยเดือนนี้ต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นอินโดนีเซีย 874 ล้านเหรียญ, ฟิลิปปินส์ 105 ล้านเหรียญ แม้จะขายหุ้นไทย 205 ล้านเหรียญ แต่หากหัก BIG LOT SCCC ออก ก็เป็นการซื้อสุทธิ 153 ล้านเหรียญ
โดยเฉพาะวันศุกร์ที่ผ่านมา FUND FLOW ไหลเข้าหุ้นไทยเด่น 2.84 พันล้านบาท (ในวันเดียวสูงสุดในรอบ 3 เดือนกว่า) และซื้อผ่าน NVDR อีก 2.66 พันล้านบาท รวม 5.5 พันล้านบาท และยังมีการซื้อ TFEX อีก 1.5 หมื่นสัญญา
ขณะเดียวกัน ตั้งแต่ต้นปี 2566 ถึงปัจจุบัน ตลาดหุ้นไทย ลดลง 18.8% ยัง LAGGARD กว่า ตลาดหุ้นอินโดฯ เพิ่มขึ้น 10.2% และฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 6.0% อยู่มาก โดยตลาดฯ ยังซื้อขายบน P/E ที่ 14.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 15.66 เท่า ขณะที่ตลาดหุ้นอินโดฯ ซื้อขายบน P/E ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยแล้ว
สรุปทั้งตลาดหุ้นไทยที่ LAGGARD กลุ่ม TIP และ P/E ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย รวมถึงยังมี แนวโน้มค่าเงินบาทแข็งค่าจากแนวโน้มการลดดอกเบี้ยไทยที่ช้ากว่า FED หนุนให้ FUND FLOW มีโอกาสไหลเข้าตลาดหุ้นไทยได้ต่อ
ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯ คัดกรองหุ้น 3 ธีม กำไรครึ่งปีหลังของปี 67 เติบโตเด่นทั้งจากครึ่งปีแรก และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ดัก FUND FLOW
1. หุ้นกำไรครึ่งปีหลังของปี 2567 เติบโต จากครึ่งปีแรก และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หุ้นลงลึกหวังฟื้นเร็ว คือ SCC, IVL, CRC, SCGP, BGRIM, HMPRO
2. หุ้นกำไรครึ่งปีหลังของปี 2567 เติบโตจากครึ่งปีแรก และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พื้นฐานเด่นแกร่งกว่าตลาด คือ PLANB, CK, MTC, BH, GULF, CPAXT
3. หุ้นกำไรครึ่งหลังปี 2567 เติบโตจากครึ่งปีแรก และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รับกระแสฝนตกหนัก คือ BCH, TASCO, CKP โดยมีรายละเอียดผ่าน infographic ดังนี้

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ประเมินว่า SET INDEX ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 6 วันทำการหลังจากได้นายกฯ คนที่ 31 โดยบวก 65 จุด หรือราว 5% จาก 1,289 จุด มาอยู่ที่ 1,354 จุด
ขณะที่ FUND FLOW ยังไหลหนุนหุ้นในกลุ่ม TIP และยังไหลเข้าหุ้นไทยต่อเนื่อง โดยเดือนนี้ต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นอินโดนีเซีย 874 ล้านเหรียญ, ฟิลิปปินส์ 105 ล้านเหรียญ แม้จะขายหุ้นไทย 205 ล้านเหรียญ แต่หากหัก BIG LOT SCCC ออก ก็เป็นการซื้อสุทธิ 153 ล้านเหรียญ
โดยเฉพาะวันศุกร์ที่ผ่านมา FUND FLOW ไหลเข้าหุ้นไทยเด่น 2.84 พันล้านบาท (ในวันเดียวสูงสุดในรอบ 3 เดือนกว่า) และซื้อผ่าน NVDR อีก 2.66 พันล้านบาท รวม 5.5 พันล้านบาท และยังมีการซื้อ TFEX อีก 1.5 หมื่นสัญญา
ขณะเดียวกัน ตั้งแต่ต้นปี 2566 ถึงปัจจุบัน ตลาดหุ้นไทย ลดลง 18.8% ยัง LAGGARD กว่า ตลาดหุ้นอินโดฯ เพิ่มขึ้น 10.2% และฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 6.0% อยู่มาก โดยตลาดฯ ยังซื้อขายบน P/E ที่ 14.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 15.66 เท่า ขณะที่ตลาดหุ้นอินโดฯ ซื้อขายบน P/E ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยแล้ว
สรุปทั้งตลาดหุ้นไทยที่ LAGGARD กลุ่ม TIP และ P/E ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย รวมถึงยังมี แนวโน้มค่าเงินบาทแข็งค่าจากแนวโน้มการลดดอกเบี้ยไทยที่ช้ากว่า FED หนุนให้ FUND FLOW มีโอกาสไหลเข้าตลาดหุ้นไทยได้ต่อ
ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯ คัดกรองหุ้น 3 ธีม กำไรครึ่งปีหลังของปี 67 เติบโตเด่นทั้งจากครึ่งปีแรก และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ดัก FUND FLOW
1. หุ้นกำไรครึ่งปีหลังของปี 2567 เติบโต จากครึ่งปีแรก และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หุ้นลงลึกหวังฟื้นเร็ว คือ SCC, IVL, CRC, SCGP, BGRIM, HMPRO
2. หุ้นกำไรครึ่งปีหลังของปี 2567 เติบโตจากครึ่งปีแรก และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พื้นฐานเด่นแกร่งกว่าตลาด คือ PLANB, CK, MTC, BH, GULF, CPAXT
3. หุ้นกำไรครึ่งหลังปี 2567 เติบโตจากครึ่งปีแรก และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รับกระแสฝนตกหนัก คือ BCH, TASCO, CKP โดยมีรายละเอียดผ่าน infographic ดังนี้
