Talk of The Town
ALPHAX โตทะลัก ปี 65 กำไรทะยาน 42.06% เก็บเกี่ยวรายได้ธุรกิจกัญชงกัญชาเต็มพิกัด เล็งจับมือพันธมิตรศึกษาแผนลงทุน Digital Gold ปักธงรายได้ปี 66 โตเท่าตัว
27 กุมภาพันธ์ 2566
บมจ.อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ (ALPHAX) เปิดผลงานปี 2565 กำไรพุ่งทะลักกว่า 42.06% แตะ 36.95 ล้านบาท รับอานิสงส์รับรู้รายได้จากธุรกิจกัญชงกัญชา ฟากซีอีโอ "ธีร ชุติวราภรณ์" เปิดแผนธุรกิจปี 66 ตั้งเป้ารายได้เติบโต อย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์การเติบโตทั้งในและต่างประเทศ เน้นลุยขยายสินเชื่อทองคำในสปป.ลาว เผยมีแผนลงทุนใน Digital Gold เตรียมจับมือพันธมิตรบริษัททองคำรายใหญ่ติด 1 ใน 3 ของโลก พัฒนา digital platform ผลักดันอนาคตเติบโตก้าวกระโดด

นายธีร ชุติวราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALPHAX เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 36.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.06% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 26.01 ล้านบาท
"ปัจจัยที่สนับสนุนให้มีกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯทยอยรับรายได้จากธุรกิจกัญชง กัญชา จากช่วงกลางปีที่มีการปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ทำให้กลุ่มบริษัทเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจ จากการที่กัญชง กัญชา ได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการของตลาดจึงสามารถทำกำไรจากธุรกิจนี้ได้อย่างดีในปี 2565" นายธีรกล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 100% โดยเป็นผลมาจากการปรับกลยุทธ์เดินหน้าลุยธุรกิจใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายบริษัทที่มุ่งหวังการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์และเป้าหมายจะเน้นที่การขยายธุรกิจในด้านอื่นๆ เพื่อปรับตัวให้เข้ากับยุคปัจจุบันที่มีเรื่องของนวัตกรรมเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น โดยไม่กระจุกตัวธุรกิจเพียงแค่ในประเทศ แต่สร้างโอกาสและรายได้ในต่างประเทศไปด้วยกัน
การดำเนินการแต่ละธุรกิจ ประกอบด้วย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จะรับรู้รายได้หลักจากโครงการ The Valor Ramintra โดยในปีนี้มีแผนที่จะเดินหน้าลุยและรับรู้รายได้ทั้งหมด โดยภาพรวมโครงการอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีแผนพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ธุรกิจกัญชงกัญชายังคงให้ความสำคัญและมีแผนขยายกิจการเพื่อทำยอดรายได้จากการขายช่อดอกแห้ง ทั้งนี้หากนโยบายใหม่รัฐเดินหน้าให้การสนับสนุนต่อธุรกิจการจัดจำหน่ายกัญชาและกัญชง คาดว่าในปี 2566 โอกาสทางธุรกิจจะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ขณะที่ธุรกิจสินเชื่อที่ประเทศลาว มีแผนการขยายจะแบ่ง 2 ส่วน เน้นขยายสินเชื่อผ่านทองคำโดยการแบ่งกลุ่มเป้าหมายเป็น (1.) B2C: บริษัทฯได้เริ่มแผนการขยายพอร์ตสินเชื่อทองคำให้เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 2565 และ (2.) กลุ่ม B2B: เป็นการขยายตลาดสู่เจ้าของกิจการร้านทองในสปป.ลาว ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ซึ่งจะหนุนการเติบโตของบริษัทฯได้เป็นอย่างดี นอกจากกลุ่มการขยายสินเชื่อทองแล้ว บริษัทยังวางแผนการการเพิ่ม product สินเชื่อ เช่น สินเชื่อให้กู้ยืมอุปกรณ์เพื่อการศึกษาสำหรับนักเรียน นักศึกษาในประเทศลาวอีกด้วย
นอกจากนี้บริษัทฯมีแผนการลงทุนใน Digital Gold เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นถึงการเติบโตปี 2565 ที่ผ่านมาธุรกิจสินเชื่อทองคำเติบโตและได้รับความนิยมค่อนข้างสูงในประเทศลาว จึงทำให้บริษัทฯเล็งเห็นแผนการขยายธุรกิจด้านทองคำในประเทศไทย บริษัทฯมีแผนการสำหรับธุรกิจ Digital Gold ครบวงจร สำหรับการซื้อขายทอง ออมทอง และลงทุนทอง โดยใช้ความเชี่ยวชาญจากพันธมิตรหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น พันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านธุรกิจการเงินธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจทองคำ ธุรกิจเทคโนโลยีและสารสนเทศ เป็นต้น
โดยธุรกิจทองคำในประเทศได้วางแผนเดินหน้าร่วมมือกับบริษัททองที่ใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก และส่วนของเทคโนโลยี ที่ได้เตรียมความพร้อมกับพาร์ตเนอร์ที่มีความชำนาญและมีการใช้ digital platform มาเป็นเครื่องมือในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกัน วัตถุประสงค์จากการจับมือกันในครั้งนี้เชื่อว่าสินค้าและบริการเรื่องทองคำจะสร้างความแตกต่างและตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าทั้งการซื้อขายทอง ออมทอง และลงทุนทองได้อย่างครบวงจร ระหว่างนี้อยู่ในช่วงศึกษาโครงการ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปพร้อมกับการลงทุนภายในไตรมาส 2 ของปี 2566
นอกจากนี้ บริษัทฯมีแผนในการขยายเส้นทางธุรกิจเพิ่มเติมในสปป.ลาว เป็นการขยาย ‘ธุรกิจการเงิน’ ทั้งแบบมีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพและแข็งแกร่งในสปป.ลาว โดยบริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่าแผนธุรกิจใหม่นี้จะได้รับผลตอบแทนที่สูง ช่วยผลักดันการเติบโตให้บริษัทฯอย่างก้าวกระโดด สอดรับแผนการก้าวสู่ความเป็นผู้นำอย่างยั่งยืน

นายธีร ชุติวราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALPHAX เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 36.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.06% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 26.01 ล้านบาท
"ปัจจัยที่สนับสนุนให้มีกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯทยอยรับรายได้จากธุรกิจกัญชง กัญชา จากช่วงกลางปีที่มีการปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ทำให้กลุ่มบริษัทเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจ จากการที่กัญชง กัญชา ได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการของตลาดจึงสามารถทำกำไรจากธุรกิจนี้ได้อย่างดีในปี 2565" นายธีรกล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 100% โดยเป็นผลมาจากการปรับกลยุทธ์เดินหน้าลุยธุรกิจใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายบริษัทที่มุ่งหวังการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์และเป้าหมายจะเน้นที่การขยายธุรกิจในด้านอื่นๆ เพื่อปรับตัวให้เข้ากับยุคปัจจุบันที่มีเรื่องของนวัตกรรมเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น โดยไม่กระจุกตัวธุรกิจเพียงแค่ในประเทศ แต่สร้างโอกาสและรายได้ในต่างประเทศไปด้วยกัน
การดำเนินการแต่ละธุรกิจ ประกอบด้วย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จะรับรู้รายได้หลักจากโครงการ The Valor Ramintra โดยในปีนี้มีแผนที่จะเดินหน้าลุยและรับรู้รายได้ทั้งหมด โดยภาพรวมโครงการอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีแผนพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ธุรกิจกัญชงกัญชายังคงให้ความสำคัญและมีแผนขยายกิจการเพื่อทำยอดรายได้จากการขายช่อดอกแห้ง ทั้งนี้หากนโยบายใหม่รัฐเดินหน้าให้การสนับสนุนต่อธุรกิจการจัดจำหน่ายกัญชาและกัญชง คาดว่าในปี 2566 โอกาสทางธุรกิจจะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ขณะที่ธุรกิจสินเชื่อที่ประเทศลาว มีแผนการขยายจะแบ่ง 2 ส่วน เน้นขยายสินเชื่อผ่านทองคำโดยการแบ่งกลุ่มเป้าหมายเป็น (1.) B2C: บริษัทฯได้เริ่มแผนการขยายพอร์ตสินเชื่อทองคำให้เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 2565 และ (2.) กลุ่ม B2B: เป็นการขยายตลาดสู่เจ้าของกิจการร้านทองในสปป.ลาว ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ซึ่งจะหนุนการเติบโตของบริษัทฯได้เป็นอย่างดี นอกจากกลุ่มการขยายสินเชื่อทองแล้ว บริษัทยังวางแผนการการเพิ่ม product สินเชื่อ เช่น สินเชื่อให้กู้ยืมอุปกรณ์เพื่อการศึกษาสำหรับนักเรียน นักศึกษาในประเทศลาวอีกด้วย
นอกจากนี้บริษัทฯมีแผนการลงทุนใน Digital Gold เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นถึงการเติบโตปี 2565 ที่ผ่านมาธุรกิจสินเชื่อทองคำเติบโตและได้รับความนิยมค่อนข้างสูงในประเทศลาว จึงทำให้บริษัทฯเล็งเห็นแผนการขยายธุรกิจด้านทองคำในประเทศไทย บริษัทฯมีแผนการสำหรับธุรกิจ Digital Gold ครบวงจร สำหรับการซื้อขายทอง ออมทอง และลงทุนทอง โดยใช้ความเชี่ยวชาญจากพันธมิตรหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น พันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านธุรกิจการเงินธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจทองคำ ธุรกิจเทคโนโลยีและสารสนเทศ เป็นต้น
โดยธุรกิจทองคำในประเทศได้วางแผนเดินหน้าร่วมมือกับบริษัททองที่ใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก และส่วนของเทคโนโลยี ที่ได้เตรียมความพร้อมกับพาร์ตเนอร์ที่มีความชำนาญและมีการใช้ digital platform มาเป็นเครื่องมือในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกัน วัตถุประสงค์จากการจับมือกันในครั้งนี้เชื่อว่าสินค้าและบริการเรื่องทองคำจะสร้างความแตกต่างและตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าทั้งการซื้อขายทอง ออมทอง และลงทุนทองได้อย่างครบวงจร ระหว่างนี้อยู่ในช่วงศึกษาโครงการ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปพร้อมกับการลงทุนภายในไตรมาส 2 ของปี 2566
นอกจากนี้ บริษัทฯมีแผนในการขยายเส้นทางธุรกิจเพิ่มเติมในสปป.ลาว เป็นการขยาย ‘ธุรกิจการเงิน’ ทั้งแบบมีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพและแข็งแกร่งในสปป.ลาว โดยบริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่าแผนธุรกิจใหม่นี้จะได้รับผลตอบแทนที่สูง ช่วยผลักดันการเติบโตให้บริษัทฯอย่างก้าวกระโดด สอดรับแผนการก้าวสู่ความเป็นผู้นำอย่างยั่งยืน
ยอดนิยม
NEX ผนึก "นครชัยแอร์" ชิงรถเมล์ไฟฟ้า ขสมก. มูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท
บจ.ไทยเงินหนา! ปี 68 ซื้อหุ้นคืนรวมกว่า 3.7 หมื่นลบ. ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทองคำแกว่งตัวตามอารมณ์ตลาด วันสุดท้ายก่อนคริสต์มาส วอลุ่มบาง ทองไทยเปิดลบ 100 บาท เจอบาทแข็งกดดัน
กลุ่มอิเล็กฯ กำไรสะดุด เงินบาทแข็งอาจทำพิษ โบรกฯ คาดทุก 1 บาท ฉุดกำไร 7-10%