Talk of The Town
งบบจ.ไตรมาส 1/67 สุดเซอร์ไพรส์ ฟาดกำไรดีเกินคาด 2.76 แสนลบ. โต 3 % โบรกฯ คาด Q2 เด่นต่อ-ต่างชาติไหลเข้า
17 พฤษภาคม 2567
จบไปแล้วสำหรับการรายงานผลประกอบการรอบไตรมาส 1/67 โดยบริษัทจดทะเบียนรายงานกำไรสุทธิออกมาอย่างโดดเด่น ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ล่าสุดยังประเมินผลงานไตรมาส 2/67 ยังเติบโตต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมชี้เป้าหุ้นน่าลงทุน กลุ่ม Laggard Play ที่งบไตรมาส 2/67 ฟอร์มสวย

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กำไรไตรมาส 1/67 ของบริษัทจดทะเบียนอยู่ที่ 2.76 แสนล้านบาท ถือว่าสูงกว่าศักยภาพในอดีตที่เฉลี่ยไตรมาสละ 2.3 แสนล้านบาท และดีกว่าคาดถึง 20% เพราะมีหุ้นใหญ่หลายตัวที่งบพลิกจากขาดทุนเป็นกำไร และพบว่าหลายบริษัทควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น เพื่อรองรับกับรายได้ที่ไม่โตในช่วงเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว และกลุ่มพลังงานยังถูกแทรกแซงจากนโยบายภาครัฐ
สำหรับกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 ของบริษัทจดทะเบียนอยู่ที่ 2.76 แสนล้านบาท (ไม่รวมบริษัทที่ประกาศงบไม่ตรงปีปฏิทิน) เติบโต 68% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ดีกว่าคาดการณ์ที่ 2.30 แสนล้านบาท โดยอุตสาหกรรมหลักโตดีจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เกือบทุกกลุ่ม ได้แก่
1.อาหารเครื่องดื่ม เติบโต 64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก CPF ที่พลิกมีกำไร และเครื่องดื่มขนาดเล็ก-กลางที่เติบโตเด่นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2. ธนาคาร เติบโต 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการตั้งสำรองที่ลดลง
3.การแพทย์ เติบโต 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยโรงพยาบาลขนาดใหญ่ BH และ BDMS ได้แรงหนุนจากผู้ป่วยต่างชาติ 4. ท่องเที่ยว เติบโต 1,703% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากฐานที่ต่ำในไตรมาส 1/66
5. ขนส่ง เติบโต 74% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก AOT ที่กำไรกลับมาอยู่ในระดับปกติอีกครั้ง 6. สื่อสาร เติบโต 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก ADVANC และ TRUE ที่ดีกว่าคาด 7. อิเล็กทรอนิกส์ เติบโต 29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับหุ้นใน Coverage ที่ฝ่ายวิจัย Preview จำนวน 103 บริษัท ออกมาดีกว่าคาด 43 บริษัท คิดเป็น 42% ขณะที่ตามคาดจำนวน 42 บริษัท หรือ 41% และต่ำกว่าคาดเพียง 17 บริษัท หรือ 17%
ดังนั้นยังคงประมาณการ EPS ปีนี้ที่ 92 บาทต่อหุ้น เติบโต 20% จากปีก่อน ซึ่งเป็นระดับใกล้เคียงกับ Bloomberg Consensus โดยประเมินว่าผลประกอบการไตรมาส 1/67 ที่ Surprise เชิงบวกครั้งแรกในรอบ 7 ไตรมาสจะหนุนให้เกิดจบรอบการ Downgrade EPS และมีโอกาสเห็น Upgrade ในช่วง Preview งบไตรมาส 2/67 ช่วยปิด Downside ให้กับ SET INDEX ช่วงที่เหลือของปี
อีกทั้งเงินทุนต่างชาติมีโอกาสพลิกกลับมาไหลเข้าหลังปรับดัชนี MSCI วันที่ 31 พ.ค. ตามภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และ EPS ของตลาดหุ้นไทยที่มีคุณภาพมากขึ้น รวมทั้งมีโอกาสเห็นการฟื้นตัวของหุ้นใหญ่ที่ยัง Laggard เพราะช่วงที่ผ่านมา SET INDEX ฟื้นตัวจากหุ้นไม่กี่กลุ่ม แต่กำไรที่ออกมาดี มีการกระจายตัวในหลายกลุ่ม
ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 2/67 คาดกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียน ชะลอจากไตรมาสก่อนตามปัจจัยฤดูกาลที่มีวันหยุดมาก ซึ่งถือเป็น Low Season ของภาคการผลิต
แต่เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดเห็นการเติบโตต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 จากภาพรวมเศรษฐกิจได้แรงหนุนจากการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ของภาครัฐ หนุนกลุ่มที่เกี่ยวข้อง เช่น สื่อสาร และรับเหมาฯ ให้รับรู้รายได้มากขึ้น
อีกทั้งภาคเกษตรเร่งตัวขึ้นตามทิศทางราคาสินค้าในตลาดโลก เช่น ยางพารา และเนื้อสัตว์ ส่วน กลุ่มธนาคารและไฟแนนซ์ตั้งสำรองลดลง ตามภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ด้านกลุ่มพลังงานและโรงไฟฟ้า คาดเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากฐานต่ำ
ส่วนกลุ่มเครื่องดื่มเป็น High Season และฐานปีก่อนยังไม่ Peak ขณะที่ค้าปลีก ท่องเที่ยว และบริการ ฟื้นตัวต่อเนื่องตามภาคท่องเที่ยว และคาดได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นค่าแรง 10 จังหวัด รวมถึง การปรับขึ้นเงินเดือนของข้าราชการแรกเข้า
ดังนั้นคาดเห็นแรงซื้อคืนในหุ้น Laggard Play ที่งบไตรมาส 2/67 ยังเติบโตดีต่อเนื่อง เช่น ADVANC, KTB, GULF, OSP, CPF, CPALL, STA, XPG, และ SYMC เป็นต้น

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กำไรไตรมาส 1/67 ของบริษัทจดทะเบียนอยู่ที่ 2.76 แสนล้านบาท ถือว่าสูงกว่าศักยภาพในอดีตที่เฉลี่ยไตรมาสละ 2.3 แสนล้านบาท และดีกว่าคาดถึง 20% เพราะมีหุ้นใหญ่หลายตัวที่งบพลิกจากขาดทุนเป็นกำไร และพบว่าหลายบริษัทควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น เพื่อรองรับกับรายได้ที่ไม่โตในช่วงเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว และกลุ่มพลังงานยังถูกแทรกแซงจากนโยบายภาครัฐ
สำหรับกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 ของบริษัทจดทะเบียนอยู่ที่ 2.76 แสนล้านบาท (ไม่รวมบริษัทที่ประกาศงบไม่ตรงปีปฏิทิน) เติบโต 68% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ดีกว่าคาดการณ์ที่ 2.30 แสนล้านบาท โดยอุตสาหกรรมหลักโตดีจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เกือบทุกกลุ่ม ได้แก่
1.อาหารเครื่องดื่ม เติบโต 64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก CPF ที่พลิกมีกำไร และเครื่องดื่มขนาดเล็ก-กลางที่เติบโตเด่นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2. ธนาคาร เติบโต 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการตั้งสำรองที่ลดลง
3.การแพทย์ เติบโต 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยโรงพยาบาลขนาดใหญ่ BH และ BDMS ได้แรงหนุนจากผู้ป่วยต่างชาติ 4. ท่องเที่ยว เติบโต 1,703% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากฐานที่ต่ำในไตรมาส 1/66
5. ขนส่ง เติบโต 74% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก AOT ที่กำไรกลับมาอยู่ในระดับปกติอีกครั้ง 6. สื่อสาร เติบโต 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก ADVANC และ TRUE ที่ดีกว่าคาด 7. อิเล็กทรอนิกส์ เติบโต 29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับหุ้นใน Coverage ที่ฝ่ายวิจัย Preview จำนวน 103 บริษัท ออกมาดีกว่าคาด 43 บริษัท คิดเป็น 42% ขณะที่ตามคาดจำนวน 42 บริษัท หรือ 41% และต่ำกว่าคาดเพียง 17 บริษัท หรือ 17%
ดังนั้นยังคงประมาณการ EPS ปีนี้ที่ 92 บาทต่อหุ้น เติบโต 20% จากปีก่อน ซึ่งเป็นระดับใกล้เคียงกับ Bloomberg Consensus โดยประเมินว่าผลประกอบการไตรมาส 1/67 ที่ Surprise เชิงบวกครั้งแรกในรอบ 7 ไตรมาสจะหนุนให้เกิดจบรอบการ Downgrade EPS และมีโอกาสเห็น Upgrade ในช่วง Preview งบไตรมาส 2/67 ช่วยปิด Downside ให้กับ SET INDEX ช่วงที่เหลือของปี
อีกทั้งเงินทุนต่างชาติมีโอกาสพลิกกลับมาไหลเข้าหลังปรับดัชนี MSCI วันที่ 31 พ.ค. ตามภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และ EPS ของตลาดหุ้นไทยที่มีคุณภาพมากขึ้น รวมทั้งมีโอกาสเห็นการฟื้นตัวของหุ้นใหญ่ที่ยัง Laggard เพราะช่วงที่ผ่านมา SET INDEX ฟื้นตัวจากหุ้นไม่กี่กลุ่ม แต่กำไรที่ออกมาดี มีการกระจายตัวในหลายกลุ่ม
ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 2/67 คาดกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียน ชะลอจากไตรมาสก่อนตามปัจจัยฤดูกาลที่มีวันหยุดมาก ซึ่งถือเป็น Low Season ของภาคการผลิต
แต่เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดเห็นการเติบโตต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 จากภาพรวมเศรษฐกิจได้แรงหนุนจากการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ของภาครัฐ หนุนกลุ่มที่เกี่ยวข้อง เช่น สื่อสาร และรับเหมาฯ ให้รับรู้รายได้มากขึ้น
อีกทั้งภาคเกษตรเร่งตัวขึ้นตามทิศทางราคาสินค้าในตลาดโลก เช่น ยางพารา และเนื้อสัตว์ ส่วน กลุ่มธนาคารและไฟแนนซ์ตั้งสำรองลดลง ตามภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ด้านกลุ่มพลังงานและโรงไฟฟ้า คาดเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากฐานต่ำ
ส่วนกลุ่มเครื่องดื่มเป็น High Season และฐานปีก่อนยังไม่ Peak ขณะที่ค้าปลีก ท่องเที่ยว และบริการ ฟื้นตัวต่อเนื่องตามภาคท่องเที่ยว และคาดได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นค่าแรง 10 จังหวัด รวมถึง การปรับขึ้นเงินเดือนของข้าราชการแรกเข้า
ดังนั้นคาดเห็นแรงซื้อคืนในหุ้น Laggard Play ที่งบไตรมาส 2/67 ยังเติบโตดีต่อเนื่อง เช่น ADVANC, KTB, GULF, OSP, CPF, CPALL, STA, XPG, และ SYMC เป็นต้น
ยอดนิยม
KTB จ่ายปันผล 0.43 บาท หลังผลการดำเนินงานแกร่ง ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 11 พ.ย. นี้
BANPU ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ควบรวม BPP ตั้งเป็นบริษัทใหม่ คาดธุรกรรมเสร็จในไตรมาส 3/69
AOT เจรจา “คิงเพาเวอร์” แก้สัญญาดิวตึ้ฟรีแทนการยกเลิก โบรกฯ มองบวกถึงแนวทางที่ชัดขึ้น
วันนี้รู้กัน! ชี้ชะตาหุ้น DELTA ตลท.ต่ออายุ “แคชบาลานซ์” หรือไม่?