Talk of The Town

นักวิเคราะห์ แนะระวังทิศทาง Fund flow หวั่นต่างชาติขนเงินปันผลออกนอกประเทศ กดดันค่าเงิน –ฉุดดัชนีไม่พ้น 1,400 จุด


02 พฤษภาคม 2567
จากการสำรวจข้อมูลบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ที่มีการ แนะนำการลงทุนในตลาดหุ้นไทยประจำเดือนพฤษภาคม 2567 ซึ่งจะพบว่าส่วนใหญ่ โบรกเกอร์ยังมองว่าดัชนีหุ้นไทยยังไม่ไปไหน และอยู่ในลักษณะของการแกว่งตัวต่อไป เนื่องจากยังมีปัจจัยกดดันหลายเรื่อง 

TOT แนวนอน นักวิเคราะห์ แนะระวังทิศทาง Fund flow_0.jpg

โดยบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ประเมินว่าภาพตลาดหุ้นไทยในเดือนพฤษภาคม  คาดว่าดัชนีน่าจะแกว่งทรงตัวไปก่อน โดยปัจจัยที่อาจพอลุ้นเข้ามาเป็นตัวกระตุ้นได้บ้างก็คือการประกาศใช้มาตรการ Uptick rule ของตลท. ซึ่งถ้าหากเกิดขึ้นได้เร็ว น่าจะเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนขึ้นมาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยจํากัด Upside ในเดือนนี้ยังคงมองไปยังพื้นฐานกําไรของบจ.ขนาดใหญ่ที่ยังคงอ่อนแอ รวมถึงเงินบาทที่ยังคงอ่อนแอกว่าภูมิภาคด้วยเช่นกัน 

ขณะเดียวกันอาจต้องระวังปัจจัยทางด้าน Fund flow ที่เข้าสู่ช่วง Low season จากการขนย้ายเงินปันผลออกนอกประเทศของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งอาจส่งผลกดดันต่อค่าเงินบาทและภาพดัชนีโดยรวมได้ สําหรับปัจจัยกดดันค่าเงินบาทอื่นยังได้แก่ การเข้าสู่ช่วง Low season ของภาคการท่องเที่ยวไทย ซึ่งจะส่งผลต่อความอ่อนแอของดุลบริการ และต้นทุนการนําเข้าของไทยที่สูงขึ้นตามราคานํ้ามันดิบ ซึ่งจะส่งผลกดดันต่อดุลการค้าได้

ในเชิงกลยุทธ์ คาดการณ์ SET Index เดือนนี้แกว่งตัวในกรอบ 1340-1400 จุด โดยหลังจากที่แนะนําเข้าซื้อหุ้นรอบล่าสุดไปที่บริเวณดัชนี SET 1370 จุด แนะนํานักลงทุนใช้กลยุทธ์ Wait & See ไปก่อน โดยกําหนดกลยุทธ์แนวรับถัดแถวระดับ 1340-1350 จุด

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุว่า ภาพรวมกลยุทธ์ บรรยากาศเก็งกำไรระยะสั้นเป็นบวกในลักษณะ rebound ในกรอบ 1,349-1,369 จุด การเก็งกำไรควรกำหนดจุดตัดขาดทุนและไม่ไล่ราคา 

และใช้จังหวะผันผวน เม.ย.-พ.ค. ในการทยอยสะสมหุ้นท่องเที่ยว บาทอ่อน และหุ้นรายตัวที่อยู่ในโซนต่ำได้ ระวังกลุ่มธนาคารจากแนวโน้ม GDP ระยะสั้นที่ยังปรับลดลง หุ้นแนะนำ: BDMS, MAJOR, BTG, SABINA แนวรับ: 1,349-1,359 / แนวต้าน : 1,369-1,378 จุด สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

ขณะเดียวกันแนะนำหุ้นที่งบไตรมาส 1/67 จะออกมาดี BDMS, CENTEL, ICHI, SAPPE, RBF, TKN ราคาหุ้นหลายตัว ปรับขึ้นมารอแล้ว แนะให้ลดการถือลงไปบ้างเพื่อเปลี่ยนไปที่หุ้นตัวอื่น

รวมถึงแนะนำหุ้นที่คาดว่าจะมีแรงซื้อจากการ rotate หลังเห็นผลประชุม FOMC ซึ่คงหุ้นวันก่อนไว้ คือ OR, AOT แต่เพิ่ม CBG เข้ามาในลิสต์เพื่อเก็งกำไรช่วงสั้น โดยแนะนำถือ 1-2 วัน