Talk of The Town

“ไฮโซกึ้ง เฉลิมชัย มหากิจศิริ” ขึ้นแท่นหุ้นใหญ่ RABBIT


27 เมษายน 2567
จากการรวบรวมข้อมูลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในส่วนพอร์ตการลงทุนของ "เฉลิมชัย มหากิจศิริ" หรือ ไฮโซกึ้ง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในวงการตลาดทุนไทย ในฐานะทายาทตระกูลมหากิจศิริ ซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลดังที่ติดอันดับมหาเศรษฐีของประเทศไทย รวมทั้งยังมีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และผู้บริหารระดับสูงของบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) TTA 

TOT แนวนอน ไฮโซกึ้ง เฉลิมชัย มหากิจศิริ.jpg

จากข้อมูลราคาหุ้น ณ วันที่ 24 เม.ย.2567 พบว่า ไฮโซกึ้ง มีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 3,696.33 ล้านบาท โดยไฮโซกึ้ง ใช้พอร์ตการลงทุน 2 ชื่อ ในนาม เฉลิมชัย มหากิจศิริ และ MR. CHALERMCHAI MAHAGITSIRI

สำหรับพอร์ตการลงทุน ภายใต้ชื่อ นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ประกอบด้วย 7UP ถือหุ้น 29,000,000 หุ้นคิดเป็น 0.56% มีมูลค่าถือหุ้นอยู่ที่ 9.86 ล้านบาท

ANI ถือหุ้น 4,700,000 หุ้น คิดเป็น 0.25% มีมูลค่าถือหุ้นอยู่ที่ 21.62 ล้านบาท, III ถือหุ้น 12,692,899 หุ้น คิดเป็น 1.57% มีมูลค่าถือหุ้นอยู่ที่ 111 ล้านบาท 

MILL ถือหุ้น 53,393,164 หุ้น คิดเป็น 0.87% มีมูลค่าถือหุ้นอยู่ที่ 10.14 ล้านบาท, PMTA ถือหุ้น 9,070,894 หุ้น คิดเป็น 8.96% มีมูลค่าถือหุ้นอยู่ที่ 83.45 ล้านบาท 

PSTC ถือหุ้น 37,845,000 หุ้น คิดเป็น 1.60% มีมูลค่าถือหุ้นอยู่ที่ 18.92 ล้านบาท, RABBITถือหุ้น 250,000,000 หุ้น คิดเป็น 3.60% มีมูลค่าถือหุ้นอยู่ที่ 100 ล้านบาท 

RABBIT-P ถือหุ้น 218,090,900 หุ้น คิดเป็น 0.88% มีมูลค่าถือหุ้นอยู่ที่ 89.41 ล้านบาท, SUC ถือหุ้น14,949600 หุ้น คิดเป็น 4.98% มีมูลค่าถือหุ้นอยู่ที่ 448.48 ล้านบาท 

TFI ถือหุ้น 6,004,203,834 หุ้น คิดเป็น 35.68% มีมูลค่าถือหุ้นอยู่ที่ 540 ล้านบาท และ TTA ถือหุ้น 123,975,642 หุ้น คิดเป็น 6.80% มีมูลค่าถือหุ้นอยู่ที่ 756.25 ล้านบาท

ส่วนพอร์ตการลงทุนภายใต้ชื่อ MR. CHALERMCHAI MAHAGITSIRI มีการถือครองหุ้น 5 บริษัท ประกอบด้วย INOX จำนวน 789,570,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน    10.13% คิดเป็นมูลค่า 386.88 ล้านบาท, PMTA จำนวน 6,543,628 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 6.47% คิดเป็นมูลค่า 60 ล้านบาท

TFI จำนวน 230,116,479 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.37% คิดเป็นมูลค่า 20.71 ล้านบาท, TOPP จำนวน 723,900 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 12.07% คิดเป็นมูลค่า 101 ล้านบาท และTTA จำนวน 153,703,517 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 8.43% คิดเป็นมูลค่า 937.59 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากข้อมูลข้างต้นพบว่ามีหุ้นบางส่วนปรากฏรายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คือ 7UP,ANI,III,MILL หลังจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ปรับปรุงเกณฑ์การเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหลักทรัพย์ ที่มีสัดส่วนการถือครองหลักทรัพย์ตั้งแต่ 0.5% ของทุนชำระแล้ว แต่ไม่น้อยกว่า 10 รายนั่นเอง

นอกจากนี้ จากข้อมูลดังกล่าว ยังพบว่า  “ไฮโซกึ้ง” ได้กลายเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ RABBIT  รองจากกลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS 

ล่าสุดผู้ถือหุ้นใหญ่ RABBIT  ณ วันที่ 22 มี.ค. 2567 ประกอบด้วยบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) โดย บลจ. เมธา จำกัด ถือหุ้น 1,380,000,000 หุ้นคิดเป็น 19.87%บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) 584,916,952 หุ้นคิดเป็น 8.42% บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 426,410,051หุ้น คิดเป็น 6.14% 

นาย เฉลิมชัย มหากิจศิริ 250,000,000หุ้น คิดเป็น 3.60% EAST FOURTEEN LIMITED-DFA EMERG MARKET CORE EQ PORT 62,421,381หุ้น คิดเป็น 0.90%นาย ไชยยันต์ ชาครกุล 59,264,896หุ้น คิดเป็น 0.85% CGS International Securities Hong Kong Limited.47,029,700 หุ้นคิดเป็น 0.68% นาย น้ำ ชลสายพันธ์ 42,004,111 หุ้น คิดเป็น 0.60% นาย เด่นดนัย หุตะจูฑะ 39,410,000 หุ้น คิดเป็น 0.57% และนาย เณศร์ฐิรัช พงษ์นฤสรณ์ 38,000,000 หุ้น คิดเป็น 0.55%

สำหรับบริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ลักษณะธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่า บริการ จำหน่าย และบริหารอย่างครบวงจร สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2566 มีรายได้รวมอยู่ที่ 5,283.38 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 4,383.86 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนกำไรสุทธิ 1,208 ล้านบาท