จุลพันธ์ รมช.คลัง แจงสาเหตุ 7-11 เข้าเกณฑ์ร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก ชี้รัฐเลือกปฏิบัติไม่ได้ แต่ห้ามร้านขึ้นเงินสดทันที หลังรับดิจิทัลวอลเลตต้องใช้ต่อรอบ 2
วันที่ 19 เมษายน 2567 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การดำเนินการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ในส่วนของร้านค้าที่สามารถเข้าร่วมโครงการซึ่งระบุให้เป็นร้านค้าขนาดเล็ก ซึ่งรวมร้านสะดวกซื้อในลักษณะ 7-11 ด้วย ซึ่งกระแสสังคมมีการตั้งคำถามถึงการให้สิทธิร้านสะดวกซื้อ ซึ่งถือเป็นกลุ่มทุนใหญ่เข้าร่วมโครงการได้นั้น ซึ่งรัฐบาลจะตัดสิทธิไม่ได้
โดยร้านสะดวกซื้อไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็กหรือใหญ่ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนในการนำสินค้ากลับมาขาย โดยจะขึ้นเงินได้ก็ต่อเมื่อมีการใช้จ่ายเงินดิจิทัลวอลเลตรอบที่ 2 เป็นต้นไปแล้ว โดยกำหนดให้ใช้จ่ายภายใน 6 เดือน และคาดว่าเงินจะหมุนเวียนอยู่ในระบบ 1 ปี
“เรื่องนี้ที่ประชุมพูดคุยกันนานพอสมควร เพราะว่ามีหน่วยงานทักมาว่า ให้ระวังเป็นการเอื้อกลุ่มทุนใหญ่ ซึ่งรายใหญ่เราก็ได้ตัดออกไปแล้ว ส่วนร้านสะดวกซื้อ เห็นว่าความเป็นรัฐเลือกปฏิบัติไม่ได้ ตอนนี้ในต่างจังหวัดมีร้านอากง อาม่า ในต่างจังหวัดที่อัพเกรดเป็นร้านสะดวกซื้อเยอะมาก ร้านที่เป็น Chain ที่เล็กกว่าก็มีอีกมาก เราจะตัดสิทธิเขาทั้งหมดก็ลำบาก จะให้บอกว่าร้านนี้ได้ ร้านนั้นไม่ได้ เราทำไม่ได้ นอกจากนี้ พฤติกรรมจริงของผู้บริโภคไทยที่เราต้องยอมรับ เราต้องกำหนดให้เหมาะสม” รมช.คลังกล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังและหลายหน่วยงานก็มีการตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้ ว่าจะเป็นการเอื้อทุนใหญ่หรือไม่ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ก็มีเหตุผลที่ต้องรับฟัง ว่ารัฐบาลไม่ควรที่จะเลือกปฏิบัติได้ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้เป็นอำนาจของกระทรวงพาณิชย์ที่จะพิจารณาอีกครั้ง
ที่มา : https://www.prachachat.net/finance/news-1546150
