Fund / Insurance

BKI ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับปี 67 แตะ 3.25 หมื่นลบ. พร้อมปรับโครงสร้างแปลงเป็นโฮลดิ้งกลางมิ.ย.67


09 เมษายน 2567

บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับปี67 แตะ 3.25 หมื่นล้านบาท โต 8% เมื่อเทียบกับปีก่อน คาดขั้นตอนแปลงสภาพเป็นโฮลดิ้งการแลกหุ้น เสร็จสิ้นกลางเดือนมิ.ย. 67 

BKI ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับปี67.jpg

ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI ) กล่าวว่า ในปี 2567  บริษัทตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับรวม 3.25 หมื่นล้านบาท เติบโต 8% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีเบี้ยรับรวม  2.99 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 1.36 หมื่นลบ. และเบี้ยประกันภัยที่ไม่ใช่ประกันภัยรถยนต์ 1.88 ลบ.  

โดยบริษัทฯมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด พร้อมยกระดับนวัตกรรมการบริการให้ดียิ่งขึ้น นำมาซึ่งการสร้างความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าและคู่ค้า  พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงและเข้าใจไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ๆ เพื่อรองรับโครงสร้างประชากรไทยและวิถีชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับความเสี่ยงต่างๆ ในรูปแบบ Personalized Insurance พร้อมส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดี และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า

นอกจากนี้กรุงเทพประกันภัยเดินหน้าเข้าสู่ก้าวใหม่ หลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติแผนการปรับโครงสร้างบริษัทฯ ผ่านการจัดตั้งบริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BKIH เมื่อช่วงปลายปี 2566 ที่ผ่านมา ล่าสุดบริษัทฯ ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ให้มีการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) 

โดยบริษัทฯ ได้กำหนดระยะเวลาในการแลกเปลี่ยนหุ้น “BKI” เป็นหุ้น “BKIH” ในช่วงระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 5 มิถุนายน 2567 รวมทั้งสิ้น 45 วันทำการ จากนั้นจะนำหุ้น BKIH เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแทนที่หุ้นของกรุงเทพประกันภัย ประมาณช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2567 โดยถือเป็นหนึ่งในกระบวนการสำคัญในการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มความคล่องตัวในการขยายการลงทุนในธุรกิจที่หลากหลายและมีศักยภาพ ต่อยอดสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

“ในปี 2567 นี้ นับเป็นอีกปีเเห่งโอกาสครั้งสำคัญที่จะต่อยอดความสำเร็จ พร้อมขยายธุรกิจเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงกับสภาวะทางเศรษฐกิจ สังคม และความท้าทายของโลกยุคใหม่ ผ่านการฟื้นฟูยกระดับการสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าให้องค์กรเติบโตแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อมุ่งสู่ความมั่นคงอย่างยั่งยืนต่อไป” ดร.อภิสิทธิ์ กล่าว 

ด้านนายชัย โสภณพนิช  ประธานกรรมการ บมจ.กรุงเทพประกันภัย หรือ BKI  ระบุถึงภาพรวมการลงทุนในปีนี้ว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้ยังคาดการณ์ได้ยาก ทำให้การลงทุนในตลาดทุนต้องทำด้วยความระมัดระวัง  โดยธุรกิจที่ยังสนใจ คือ โรงพยาบาล, ค้าปลีก  

ส่วนการลงทุนของBKI ปัจจุบันแบ่งเป็นตราสารหนี้ 65% ตราสารทุน 35% และตั้งเป้ารักษาผลตอบแทนให้อยู่ ที่ระดับ 2.7% เทียบเท่ากับปีที่แล้ว

BKI