บล.เคจีไอ ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ เทรดในกรอบแคบ (sideways) ต่อไป... หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกเล็กน้อย (ใกล้เคียงที่คาด) โดยแรงซื้อเข้ามาในหุ้มกลุ่มท่องเที่ยวเป็นหลักตามภาพการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งมาก... ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดเป็นกลาง ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นค่อนข้างแรง แต่เกิดจากปัจจัยเฉพาะตัวเป็นสำคัญ เช่นหุ้น Merck ปรับขึ้นหลัง FDA สหรัฐ ฯ อนุมัติยารักษาโรคปอดตัวใหม่ รวมทั้งมีหุ้นในเครือข่ายธุรกิจของอดีตปธน.ทรัมป์ เข้าเทรดอีกด้วย ทางเรามองว่าปัจจัยลักษณะนี้ไม่น่าจะส่งแรงหนุนมายังตลาดหุ้นเอเชียมากขึ้น
อย่างไรก็ตามผู้ว่าการเฟด นาย Chris Waller ให้ความเห็นว่าเฟดควรปรับลดดอกเบี้ยน้อยลงในปี 2567 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังค่อนข้างดีอยู่ ทั้งนี้นักลงทุนยังคงตดิ ตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ เงินเฟ้อ PCE เดือน ก.พ. ที่จะรายงานในวันที่ 29 มี.ค. ด้านปัจจัยภายในประเทศทิศทางค่าเงินบาทยังคงอ่อนลงต่อ ทั้งจากโลว์ซีซั่นของค่าเงิน ผนวกกับความกังวลต่อภาวะการคลังกลับมาอีกครั้งหลังจากรัฐบาลเตรียมแถลงแหล่งเงินทุนและแนวทางการกู้เงิน เพื่อนำมาใช้กับมาตรการดิจิตอลวอลเล็ต ในวันที่ 10 เม.ย. นี้
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
SNNP (เป้าพื้นฐาน 21 บาท)
1) มุมมองด้านเทคนิค ประเมิน แนวรับ 17.4 บาท / แนวต้าน 18.0 –18.4 บาท กรณีฟื้นตัวผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 18.9 (Stop loss 16.9 บาท)
2) Sentiment บวกหนุนแนวโน้มผลการดา เนินงานปีนี้โตต่อ การท่องเที่ยวโตเด่น หนุนการบริโภคขนมขบเคี้ยว ii) รับรู้รายได้โรงงานใหม่เวียดนามเต็มปี และคาดเศรษฐกิจเวียดนามปีนี้ฟื้นตัว และลุ้นเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนการบริโภคในประเทศ … ฝ่ายวิจัยฯคาด กำไรปีนี้โต +20% YoY 3) Forward PE 22 เท่า (ใกล้เคียง – 2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานที่ราว 21 เท่า) ปันผล 0.25 บาท/หุ้น (XD วันที่ 7 พ.ค.) และคาด Dividend yield ปีนี้ 3.1%
TU (เป้าพื้นฐาน 19.3 บาท)
1) มุมมองด้านเทคนิค ประเมิน แนวรับ 14.5 บาท / แนวต้าน 14.7 –14.9 บาท กรณีฟื้นตัวผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 15.5 (Stop loss 14.2 บาท)
2) ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงเดือน ก.พ. โตดี + ค่าเงินบาทอ่อน คาดจะช่วยหนุนแนวโน้มผลการดำเนินงาน 1Q67 จากเดิมที่ฝ่ายวิจัยฯคาดจะชะลอตัวลงเล็กน้อย
3) Valuation ถูก Forward PE 11.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 15 เท่า และ Divided yield 5%
▪ BEM (เป้าพื้นฐาน 10.2 บาท)
1) มุมมองด้านเทคนิค ประเมิน แนวรับ 8.05 บาท / แนวต้าน 8.2-8.35 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/-8.5บาท (Stop loss 7.75 บาท)
2) แนวโน้มกำไรปีนี้โตดี และมี Catalyst ระยะยาวหนุน จากปริมาณการใช้บริการทางด่วนฟื้นตัวต่อเนื่องแต่ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยก่อนวิกฤติโควิด-19 (ยังมี Upside) ปริมาณการใช้รถไฟฟ้า MRT โตดีและคาดปีนี้จะะโต +15% YoY
3) Valuation ยังมี Upside Forward PE 32 เท่า ต่ำกว่า -1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีตที่ราว 37 เท่า และต่ำ กว่าค่าเฉลี่ยก่อนวิกฤตโควิด-19 ที่ราว 35 เท่า
อย่างไรก็ตามผู้ว่าการเฟด นาย Chris Waller ให้ความเห็นว่าเฟดควรปรับลดดอกเบี้ยน้อยลงในปี 2567 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังค่อนข้างดีอยู่ ทั้งนี้นักลงทุนยังคงตดิ ตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ เงินเฟ้อ PCE เดือน ก.พ. ที่จะรายงานในวันที่ 29 มี.ค. ด้านปัจจัยภายในประเทศทิศทางค่าเงินบาทยังคงอ่อนลงต่อ ทั้งจากโลว์ซีซั่นของค่าเงิน ผนวกกับความกังวลต่อภาวะการคลังกลับมาอีกครั้งหลังจากรัฐบาลเตรียมแถลงแหล่งเงินทุนและแนวทางการกู้เงิน เพื่อนำมาใช้กับมาตรการดิจิตอลวอลเล็ต ในวันที่ 10 เม.ย. นี้
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
SNNP (เป้าพื้นฐาน 21 บาท)
1) มุมมองด้านเทคนิค ประเมิน แนวรับ 17.4 บาท / แนวต้าน 18.0 –18.4 บาท กรณีฟื้นตัวผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 18.9 (Stop loss 16.9 บาท)
2) Sentiment บวกหนุนแนวโน้มผลการดา เนินงานปีนี้โตต่อ การท่องเที่ยวโตเด่น หนุนการบริโภคขนมขบเคี้ยว ii) รับรู้รายได้โรงงานใหม่เวียดนามเต็มปี และคาดเศรษฐกิจเวียดนามปีนี้ฟื้นตัว และลุ้นเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนการบริโภคในประเทศ … ฝ่ายวิจัยฯคาด กำไรปีนี้โต +20% YoY 3) Forward PE 22 เท่า (ใกล้เคียง – 2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานที่ราว 21 เท่า) ปันผล 0.25 บาท/หุ้น (XD วันที่ 7 พ.ค.) และคาด Dividend yield ปีนี้ 3.1%
TU (เป้าพื้นฐาน 19.3 บาท)
1) มุมมองด้านเทคนิค ประเมิน แนวรับ 14.5 บาท / แนวต้าน 14.7 –14.9 บาท กรณีฟื้นตัวผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 15.5 (Stop loss 14.2 บาท)
2) ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงเดือน ก.พ. โตดี + ค่าเงินบาทอ่อน คาดจะช่วยหนุนแนวโน้มผลการดำเนินงาน 1Q67 จากเดิมที่ฝ่ายวิจัยฯคาดจะชะลอตัวลงเล็กน้อย
3) Valuation ถูก Forward PE 11.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 15 เท่า และ Divided yield 5%
▪ BEM (เป้าพื้นฐาน 10.2 บาท)
1) มุมมองด้านเทคนิค ประเมิน แนวรับ 8.05 บาท / แนวต้าน 8.2-8.35 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/-8.5บาท (Stop loss 7.75 บาท)
2) แนวโน้มกำไรปีนี้โตดี และมี Catalyst ระยะยาวหนุน จากปริมาณการใช้บริการทางด่วนฟื้นตัวต่อเนื่องแต่ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยก่อนวิกฤติโควิด-19 (ยังมี Upside) ปริมาณการใช้รถไฟฟ้า MRT โตดีและคาดปีนี้จะะโต +15% YoY
3) Valuation ยังมี Upside Forward PE 32 เท่า ต่ำกว่า -1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีตที่ราว 37 เท่า และต่ำ กว่าค่าเฉลี่ยก่อนวิกฤตโควิด-19 ที่ราว 35 เท่า
ที่เกี่ยวข้อง
