กระดานข่าว

COCOCO สุดปัง!! โชว์กำไรปี 2566 แตะ 539.68 ลบ. ทะยาน 75.98% ตอกย้ำน้ำมะพร้าวแดนมังกรสุดฮอต นับว่าเป็น Soft Power แห่งเมืองไทยอย่างแท้จริง


22 กุมภาพันธ์ 2567
บมจ.ไทย โคโคนัท “COCOCO” สุดปัง โชว์กำไรปี 2566 แตะ 539.68 ลบ. ทะยาน 75.98% ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 4,679.74 ล้านบาท เติบโต 38.17% ตอกย้ำน้ำมะพร้าวแดนมังกรสุดฮอต หลังขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพิ่มช่องทางการตลาด-ช่องทางการกระจายสินค้าครอบคลุม หนุนยอดคำสั่งซื้อในภูมิภาคเอเชียทะยานอย่างมีนัยสำคัญ นับว่าเป็น Soft Power แห่งเมืองไทยตัวจิรง ด้านบอสใหญ่  “ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุกระแสน้ำมะพร้าวแดนมังกรที่ได้รับความนิยม สะท้อนโอกาส สอดคล้องแผนการบุกขยายตลาดมากขึ้น พร้อมโชว์อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 26.21% เหตุผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว มียอดขายโตโดดเด่น หนุนอัตราการใช้กำลังการผลิต เกิด Economy of Scale และกำไรขั้นต้นน้ำมะพร้าวกลับมาสู่สภาวะปกติ เนื่องจากการติดตั้งเครื่องจักรได้ตามกรอบเวลาที่กำหนดทำให้รองรับกำลังการผลิตได้ตามเป้าที่วางไว้
COCOCO_ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว_2.png
ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ “COCOCO” ผู้ผลิต จำหน่าย และส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าวรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิปี 2566 อยู่ที่ 539.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.98% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้ามีกำไรสุทธิอยู่ที่ 306.67 ล้านบาท โดยการเติบโตเป็นผลจากรายได้จากการขายของบริษัทเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ สามารถขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากการจำหน่ายสินค้าประเภทน้ำมะพร้าวไปยังประเทศจีนได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน

บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2566 มีรายได้รวมอยู่ที่ 4,679.74 ล้านบาท เติบโต 38.17% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้ามีรายได้อยู่ที่ 3,386.99 ล้านบาท เนื่องจากเป็นการเติบโตของยอดขายต่างประเทศทั้งในภูมิภาคเอเชียและภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำมะพร้าวที่ขายไปยังประเทศจีนเพิ่มขึ้น และรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการที่บริษัทฯ สามารถขยายช่องทางการตลาดไปยังต่างประเทศเป็นหลัก โดยสัดส่วนต้นทุนขายในปี 2566 ต่อรายได้จากการขายอยู่ที่ 73.83% หรือปรับตัวลดลง 2.16% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้ต้นทุนขายปรับตัวดีขึ้นมาจากการบริหารจัดการภายใน ด้านวัตถุดิบที่ดีขึ้น และการใช้เทคนิคการผลิตที่ทันสมัยของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง

ดร.วรวัฒน์ กล่าวเสริมว่า รายได้จากการขายต่างประเทศ ของปี 2566 เท่ากับ 4,016.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.60% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากในปี 2566 บริษัทฯ สามารถขยายฐานลูกค้า และมีการเพิ่มกลยุทธ์การตลาด เพื่อเพิ่มยอดขายต่างประเทศ ส่งผลให้รายได้จากการจำหน่ายไปยังประเทศจีนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว นอกจากนี้ บริษัทยังมีการเพิ่มช่องทางการตลาด ช่องทางการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมในหลายประเทศ ส่งผลให้มียอดคำสั่งซื้อในภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ สินค้าของบริษัทฯ ที่ได้รับความนิยมที่สุดในตลาดต่างประเทศ คือ ผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำมะพร้าว ซึ่งในปี 2566 บริษัทฯ มีสัดส่วนการส่งออกคิดเป็น 85.82% ของรายได้จากการขาย ซึ่งหากเปรียบการเติบโตของยอดขายในปี 2566 กับปีก่อนหน้า ในแต่ละภูมิภาคจะพบว่า ยอดขายจากเอเชียเพิ่มขึ้น 131.42% ยอดขายจากตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น 51.28% และยอดขายจากแอฟริกามีการเติบโตสูงขึ้น 8.82%

“ภาพรวมไตรมาสที่ 4 ปี 2566 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมเท่ากับ 1,440.00 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 73.35% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 189.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็นจำนวน 127.71 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 208.23%” ดร.วรวัฒน์ กล่าว

ดร.วรวัฒน์  กล่าวทิ้งท้ายว่า บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นของรายได้จากการขายและรายได้จากการบริการ ปี 2566 เพิ่มขึ้นเป็น 26.21% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น เท่ากับ 23.85% ซึ่งเป็นไปตามรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวซึ่งมียอดขายที่เติบโตขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของอัตราการใช้กำลังการผลิต และเกิด Economy of Scale