Wealth Sharing

GGC ประกาศยุทธศาสตร์ปี 67 สร้าง High Value Product


21 กุมภาพันธ์ 2567
บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดแผนธุรกิจปี 2567 เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจ สร้างโอกาสความสำเร็จสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ The New Chapter of GGC to be the Sustainable Growth Business : Execution for Success สอดรับ 3 กลยุทธ์หลัก เข้มแข็ง เติบโต ยั่งยืน สู่การปรับธุรกิจให้สอดรับกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจ

GGC ประกาศยุทธศาสตร์ปี 67.jpg

โดย  3 Portfolio มุ่งขยายโอกาสธุรกิจในการสร้าง High Value Product ล่าสุดขยายธุรกิจเจาะตลาดกลุ่ม Food Ingredients & Pharmaceutical สู่ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้แบรนด์“Nutralist” มั่นใจสร้าง EBITDA 300 ล้านบาทในปี 2026

นายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ   GGC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประกาศเดินหน้าสร้างโอกาสการเติบโตสู่ความสำเร็จอย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ The New Chapter of GGC to be the Sustainable Growth Business : Execution for Success ผ่านการมุ่งมั่นดำเนินการตาม 3 กลยุทธ์หลัก คือ เข้มแข็ง เติบโต ยั่งยืน

เข้มแข็ง (Enhance Competitiveness) : สร้างความเป็นเลิศในด้านการผลิต มุ่งเน้นการลดต้นทุนในองค์กร (Cost Optimization) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการเงินและสร้างมูลค่าสูงสุดจากทรัพยากรที่ใช้ในกิจการการปรับปรุงการใช้วัตถุดิบ (Feedstock Optimization) โดยเน้นการใช้วัตถุดิบทางเลือกอย่างเหมาะสม การเพิ่มยอดขายของสินค้าที่ผลิตจากวัตถุดิบ RSPO (FA) และการจัดการด้าน Operation Excellence โดยบริหารจัดการการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจหลัก (Core Business) อาทิ เมทิลเอสเทอร์ (ME) แฟตตี้แอลกอฮอล์ (FA) และเอทานอล (EtOH)  

เติบโต (Growth Portfolio) : ปรับ Portfolio ให้ชัดเจนสำหรับการลงทุนใน 3 กลุ่มธุรกิจ Bioenergy, Biochemicals และ Food Ingredients & Pharmaceutical เพื่อความพร้อมในการปรับตัวให้สอดรับกับความท้าทายและสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง ขับเคลื่อนด้วยการต่อยอดธุรกิจเดิมสู่การเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น ( High Value Product)  โดยการขยายพอร์ตการลงทุนใน 3 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย

ธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพ (BioEnergy Business) เป็นความร่วมมือกันระหว่าง PTT GC และ GGC ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาโครงการและความเป็นไปได้ของโครงการ ในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านตลาด เทคโนโลยี การผลักดันด้านนโยบาย และการสร้างความร่วมมือกับสายการบิน โดยมี 3 โครงการ ดังนี้

· โครงการน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ : ปัจจุบันได้ศึกษาความเป็นไปได้และดำเนินการปรับปรุงโรงงานเพื่อนำน้ำมันพืชที่ใช้แล้ว ผลิตเป็นน้ำมันอากาศยานชีวภาพ โดยคาดว่าจะดำเนินการระยะที่ 1 แล้วเสร็จ และดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2025 (พ.ศ.2568)

· โครงการ ATJ : เป็นการศึกษาแผนการลงทุนในการต่อยอดผลิตภัณฑ์เอทานอลเพื่อผลิตเป็นน้ำมันอากาศยานชีวภาพ โดยมีแผนที่จะดำเนินการภายในปี 2030 (พ.ศ.2573)

· โครงการ Green Methanol : เป็นการศึกษาเพื่อต่อยอด และขยายปลายทางธุรกิจไปสู่ตลาด Marine Biofuel และเพื่อตอบสนองต่อแผนกลยุทธ์ Decarbonization

ธุรกิจเคมีชีวภาพ (Bio Chemical Business)

· ธุรกิจ FA, Oleochemical Specialty & Derivative อยู่ระหว่างการขยายธุรกิจ เพื่อให้ได้ผลผลิต Oleochemicals ที่มีมูลค่าเพิ่ม เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์สีเขียว ผ่านพันธมิตร

ธุรกิจ Food Ingredients & Pharmaceutical

· มุ่งเน้นธุรกิจกลุ่ม Food Ingredients & Pharmaceutical

· มุ่งเน้นเป็น Brand Owner โดยดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา  ผลิต  และจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Food Ingredients & Pharmaceutical

โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจสู่ตลาดในกลุ่ม Food Ingredients & Pharmaceutical ในฐานะผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เป็น Green Product เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการมีสุขภาพดีภายใต้แบรนด์ “Nutralist” ผ่านการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารเสริม 2 ตัว คือ Astaxanthin และ Probiotic ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งก้าวที่สำคัญของ GGC ที่ต่อยอดธุรกิจเดิมสู่การขยายพอร์ตการลงทุนในธุรกิจเสริมอาหารเพื่อสุขภาพ เนื่องจากบริษัทฯ เล็งเห็นว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีความต้องการสูงและตอบสนองต่อ Lifestyle ของผู้บริโภคที่รักสุขภาพในปัจจุบัน โดยบริษัทฯ คาดว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจของ GGC เติบโตได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนในอนาคต พร้อมตั้งเป้าการเติบโตของธุรกิจกลุ่ม Food Ingredients & Pharmaceutical ไว้ที่ 10% ของ EBITDA หรือคิดเป็นมูลค่า 300 ล้านบาท ภายในปี 2026 (พ.ศ.2569) ภายใต้แผนกลยุทธ์ 4A strategy 

Awareness :  สร้าง Brand Awareness สร้างการรับรู้และจดจำ Brand Nutralist ในกลุ่มเป้าหมายโดยวางแผนความร่วมมือกับ Partner ด้านการแพทย์และสุขภาพ เพื่อช่วยสร้าง Brand Awareness ให้กับผลิตภัณฑ์ พร้อมขยายสู่ช่องทาง Social Media เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว  


Affordability : Nutralist เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณภาพ โดย Ingredient นำมาใช้มาจาก World Class Food Ingredient Producers ซึ่ง GGC มุ่งหวังให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณภาพได้ทุกเจนเนอเรชั่น

Acceptability : ให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าควบคู่ไปกับความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม   ทั้งนี้ GGC มีแผนพัฒนาใหม่ๆ ด้วยกระบวนการผลิตที่ทันสมัยและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของทุกเจนเนอเรชั่นที่ใส่ใจรักสุขภาพ ภายใต้สโลแกน “Extract Your New Life”

จากแผนขยายพอร์ตในการสร้างการเติบโตผ่านการลงทุนต่อยอดธุรกิจเดิมของบริษัทฯ รวมถึงการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายในการปรับ Portfolio เพื่อให้ตอบโจทย์ Mega Trend ที่จะสร้างการเติบโตจากธุรกิจใหม่มากกว่า 50% (New Business)

ยั่งยืน (Sustainability Development) : มุ่งมั่นการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG และได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมทั้งแสวงหาโอกาสทางธุรกิจจาก Decarbonization โดย GGC ยังคงเดินหน้าเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ของสหประชาชาติ (United Nations : UN) ครอบคลุมทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านการเติบโตของธุรกิจรวมถึงการสร้างคุณค่า ยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจให้ได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศ และระดับสากล โดยกำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ตามแนวคิดการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน“ESG” ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) ด้านสังคม (Social) และด้านการกำกับดูแล (Governance)

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้มีการกำหนดเป้าหมายด้านความยั่งยืน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050 โดยกำหนดเป้าหมายเพื่อวัดประสิทธิผลในระยะสั้นในปี 2030 เพื่อที่จะลด CO2 ให้ได้ 20%สำหรับปี 2024 (พ.ศ.2567) บริษัทฯ มี Biogas Project ซึ่งตั้งเป้าหมาย

·      CO2 Reduction 6,000 Ton CO2eq
·      Production Cost Saving 8.5 MB
·      Wastewater Reduction 7,500 Tons

จากความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ส่งให้ปี 2023 บริษัทฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนระดับโลกจาก S&P Global Corporate Sustainability Assessment หรือ S&P Global CSA เป็นปีแรก โดยได้คะแนน ลำดับที่ 5 ในกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ ซึ่งตอกย้ำการเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนในระดับสากลที่โดดเด่นในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) มุ่งสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 (พ.ศ.2593)

“GGC พร้อมเดินหน้าสู่ปี 2567 ด้วยการมุ่งพัฒนายกระดับศักยภาพในทุกด้านเพื่อการเติบโต ของกลุ่มธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง พัฒนาและยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนต่อไปในอนาคต ตามวิสัยทัศน์ “TO BE A LEADING GREEN CHEMICAL COMPANY BY CREATING SUSTAINABLE VALUE” หรือ “เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนพลังแห่งการสร้างสรรค์ เพื่อคุณค่าที่ยั่งยืน” นาย กฤษฎา กล่าวทิ้งท้าย
GGC