Talk of The Town

จัดไป BDMS BEM CPALL หุ้นหลบภัย Program Trade ต้นเหตุความผันผวน


21 กุมภาพันธ์ 2567

หลังวานนี้ SET index ปรับตัวลง 6.26 จุด ปิดที่ระดับ 1381.07 จุดด้วยปริมาณการซื้อขาย 4.04 หมื่นล้านบาท (ค่าเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปี ytd 4.3 หมื่นล้านบาท) การที่ปริมาณการซื้อขายในช่วงต้นปีอยู่ระดับดังกล่าว ถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ที่ในช่วงไตรมาส 1 มักมีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 6-7 หมื่นล้านบาท ด้วยสาเหตุหลัก คือ กำไรบริษัทจดทะเบียนงวด 4Q66 ที่ออกมาต่ำคาด และ กองทุนต่างชาติอยู่ในช่วงจัดพอร์ตตาม MSCI และ FTSE ที่ลดน้ำหนักหุ้นไทยลงในบางบริษัทดังนั้นด้วยปริมาณการซื้อขายในปัจจุบันที่น้อยลง ทำให้ Program Trading มีบทบาทมากขึ้นทันที ซึ่งล่าสุด PROGRAM TRADING มีสัดส่วนถึง 43% ของทั้งตลาด ซึ่งทำให้ตลาดผันผวนกว่าปกติ อาทิ ราคาหลุดแนวรับสำคัญ หลังจากนั้นจะถูกแรงขายกดดันให้ลงลึกกว่าปกติ ดังนั้นด้วยการกระทำดังกล่าวของ Program Trading ทำให้มีหุ้นใน SET Index ที่ราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่าระดับ 52 สัปดาห์อยู่ถึง 8.7% (สูงสุดในรอบ 1 ปี)

จัดไป BDMS BEM CPALL copy_0.jpg

บล.เอเชียพลัส มองว่าวันนี้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสเลี้ยงตัวแกว่งออกข้างต่อ 1374-1390 จุด สัญญาณรอฟื้นไม่เสีย โดยรอทะลุแนว Falling Wedge 1398 จุด (เส้นค่าเฉลี่ย 89 วัน) ขณะที่รายสัปดาห์ไม่ดึง Low ต่ำกว่า 1370 จุด ยังคงโอกาสทยอยดีด Target 1410-1420 จุด กรณีผิดคาดจะต้องเกิดการทำ Lower Low หลุด 1365 จุด เพราะจะยืนยันระยะ Continuous Pattern และไหลสู่ฐานลึก 1360 จุดต่อไป ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังซึมๆ เพราะอยู่ในช่วงรายงานงบ 4Q66 ที่ส่วนใหญ่ออกมาต่ำคาด สัดส่วนราว 70% พร้อมกับกองทุนต่างชาติอยู่ในช่วงจัดพอร์ตตาม MSCI และ FTSE ที่ลดน้ำหนักหุ้นไทยลงในบางบริษัท ที่สำคัญมูลค่าซื้อขายจาก Program Trade เร่งตัวขึ้น โดยเดือน ม.ค. 67 มีสัดส่วนสูงถึง 43.3% ของมูลค่าซื้อขายทั้งหมด และสูงสุดเมื่อเทียบกับเดือนอื่นๆ ที่ผ่านมา อาจเป็นอีกส่วนที่กดดันหุ้นที่กำไรต่ำคาดได้ Toppick เลือกหุ้นผันผวนต่ำ BDMS, BEM, CPALL

สรุป การที่ SET index มีปริมาณการซื้อขายที่เบาบางลง ทำให้ PROGRAM TRADING มีบทมากมากขึ้นอย่างมีนัยฯ และทำให้ราคาหุ้นผันผวนกว่าเหตุอันควรดังนั้นระยะถัดไป หากความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมา และหนุนให้ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น คาดทำให้ SET Index มีประสิทธิภาพมากขึ้นตามลำดับ