Talk of The Town
ตลท. เพิ่มกลไกควบคุม 4 ด้าน short selling-program trading เรียกความเชื่อมั่น
13 กุมภาพันธ์ 2567
Algorithmic Trading หรือที่เรียกว่าโปรแกรมเทรดอัตโนมัติ หรือโรบอทเทรด หรือ High-frequency trading (HFT) จากนักลงทุนต่างประเทศ ถูกมองว่าเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยผันผวน และ ทำให้มูลค่าซื้อขายตลาด ของนักลงทุนในประเทศที่เบาบางอย่างมีนัยฯ ตั้งแต่เดือน ก.ย.66 โดยสัดส่วนการซื้อขายผ่านระบบ ALGO TRADE ที่สูงขึ้นเป็น 35% ของการซื้อขายทั้งหมดในตลาดฯ (ซึ่งค่าเฉลี่ยก่อนหน้านี้อยู่ที่ระดับ 20%-30% เท่านั้น) และทำให้ต่างชาติมีสัดส่วนการซื้อขายหุ้นไทยสูงถึง 50.8% สูงกว่านักลงทุนรายย่อย + พอร์ตโบรกเกอร์ + นักลงทุนสถาบันฯ ที่มีสัดส่วนรวมกันอยู่ที่ 49.2% เท่านั้น

ซึ่งล่าสุด ตลท. เตรียมเพิ่มกลไกควบคุม short selling-program trading เพื่อยกระดับการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้มีความโปร่งใส และเสริมสร้างความเป็นธรรมของผู้ลงทุนทุกประเภท เบื้องต้น ตลท.จะมีการดำเนินการใน 4 ด้าน ดังนี้
• การควบคุม (Control) : การเพิ่มกลไกการควบคุม program trading และลดความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ ทั้งในภาพรวมและในกรณี short selling อาทิ การกำหนดแนวทางในการติดตามการทำธุรกรรม short selling หรือการมีกลไกควบคุมราคาเพื่อลดความผันผวนของราคาหลักทรัพย์
• การรายงาน (Reports) : การปรับปรุงรายงาน short selling เพื่อให้ทราบถึงรายละเอียดและการติดตามได้ง่ายขึ้น รวมถึงการเปิดเผยต่อสาธารณชน
• การติดตามและการบังคับใช้กฎเกณฑ์ (Monitoring & Enforcement) : โดยการเน้นย้ำความคาดหวังต่อบริษัทสมาชิกในการดูแลให้ผู้ลงทุนปฏิบัติตามเกณฑ์ รวมทั้งปรับบทลงโทษให้มีความเข้มข้น
• การแบ่งความรับผิดชอบ (Responsibility) : ซึ่งจะมีการนำเสนอกำหนดขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานกำกับดูแลและตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการดูแลการทำ short selling และ program trading ให้ สอดคล้องกับสากล เพื่อให้หน่วยงานกำกับดูแลสามารถลงโทษต่อผู้กระทำผิดได้โดยตรงและรวดเร็ว
บล. เอเซีย พลัส ให้ความเห็นว่ากระบวนการแก้ไขปัญหาของ ตลท. ที่เกิดขึ้นคาดเป็นปัจจัยหนุนให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนทยอยกลับมาอีกครั้ง และหนุนให้มูลค่าซื้อขายกลับมาคึกคักขึ้นโดยฝ่ายวิจัยฯ เคยประเมินมูลค่าซื้อขายตลาดต้องเกิน 5 หมื่นล้านบาท หรือ TURNOVER สูงเกิน 70% ต่อปี จึงจะเพียงพอที่จะผลักดันให้ SET INDEX ปรับตัวขึ้นได้
สรุป ปัญหา Short SELLING-PROGRAM TRADING อาจได้รับการรับการแก้ไขที่ดีขึ้นจาก ตลท. คาดเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนได้เป็นอย่างดี และหนุนให้ SETindex แกว่งทรงตัวในขาขึ้นได้ในระยะถัดไป

ซึ่งล่าสุด ตลท. เตรียมเพิ่มกลไกควบคุม short selling-program trading เพื่อยกระดับการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้มีความโปร่งใส และเสริมสร้างความเป็นธรรมของผู้ลงทุนทุกประเภท เบื้องต้น ตลท.จะมีการดำเนินการใน 4 ด้าน ดังนี้
• การควบคุม (Control) : การเพิ่มกลไกการควบคุม program trading และลดความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ ทั้งในภาพรวมและในกรณี short selling อาทิ การกำหนดแนวทางในการติดตามการทำธุรกรรม short selling หรือการมีกลไกควบคุมราคาเพื่อลดความผันผวนของราคาหลักทรัพย์
• การรายงาน (Reports) : การปรับปรุงรายงาน short selling เพื่อให้ทราบถึงรายละเอียดและการติดตามได้ง่ายขึ้น รวมถึงการเปิดเผยต่อสาธารณชน
• การติดตามและการบังคับใช้กฎเกณฑ์ (Monitoring & Enforcement) : โดยการเน้นย้ำความคาดหวังต่อบริษัทสมาชิกในการดูแลให้ผู้ลงทุนปฏิบัติตามเกณฑ์ รวมทั้งปรับบทลงโทษให้มีความเข้มข้น
• การแบ่งความรับผิดชอบ (Responsibility) : ซึ่งจะมีการนำเสนอกำหนดขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานกำกับดูแลและตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการดูแลการทำ short selling และ program trading ให้ สอดคล้องกับสากล เพื่อให้หน่วยงานกำกับดูแลสามารถลงโทษต่อผู้กระทำผิดได้โดยตรงและรวดเร็ว
บล. เอเซีย พลัส ให้ความเห็นว่ากระบวนการแก้ไขปัญหาของ ตลท. ที่เกิดขึ้นคาดเป็นปัจจัยหนุนให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนทยอยกลับมาอีกครั้ง และหนุนให้มูลค่าซื้อขายกลับมาคึกคักขึ้นโดยฝ่ายวิจัยฯ เคยประเมินมูลค่าซื้อขายตลาดต้องเกิน 5 หมื่นล้านบาท หรือ TURNOVER สูงเกิน 70% ต่อปี จึงจะเพียงพอที่จะผลักดันให้ SET INDEX ปรับตัวขึ้นได้
สรุป ปัญหา Short SELLING-PROGRAM TRADING อาจได้รับการรับการแก้ไขที่ดีขึ้นจาก ตลท. คาดเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนได้เป็นอย่างดี และหนุนให้ SETindex แกว่งทรงตัวในขาขึ้นได้ในระยะถัดไป
ยอดนิยม
NEX ผนึก "นครชัยแอร์" ชิงรถเมล์ไฟฟ้า ขสมก. มูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท
บจ.ไทยเงินหนา! ปี 68 ซื้อหุ้นคืนรวมกว่า 3.7 หมื่นลบ. ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทองคำแกว่งตัวตามอารมณ์ตลาด วันสุดท้ายก่อนคริสต์มาส วอลุ่มบาง ทองไทยเปิดลบ 100 บาท เจอบาทแข็งกดดัน
กลุ่มอิเล็กฯ กำไรสะดุด เงินบาทแข็งอาจทำพิษ โบรกฯ คาดทุก 1 บาท ฉุดกำไร 7-10%