บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ว่าวันนี้ตลาดหุ้นจีนจะเปิดเทรดอีก 1 วัน ก่อนหยุดยาวช่วง 9-16 ก.พ. ในเทศกาลตรุษจีน เราเชื่อว่าจะมีแรงเก็งกำไรเข้าสู่ตลาดจีนต่อเนื่องเพื่อเก็งกำไรว่าจะมีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเงินจากจีนออกมาเพิ่มเติม... ด้านปัจจัยภายในประเทศ เมื่อวานนี้ ป.ป.ช. ส่งจดหมายแสดงความเห็นเกี่ยวกับมาตรการดิจิตอลวอลเล็ตให้กับภาครัฐฯ แล้ว ขณะที่ กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ตามที่เราและตลาดคาด
ทั้งนี้ กนง. ไม่ได้ออกประมาณการเศรษฐกิจในรอบนี้ แต่มีการระบุสั้นๆ ว่า GDP growth ปี 2567 น่าจะชะลอลง อยู่ในช่วง 2.5 3.0% VS ประมาณการล่าสุดที่ 3.2%
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
HMPRO เป้าพื้นฐาน 13 บาท)
1) ประเมินแนวรับ 11 บาท / แนวต้าน 11.5 - 11.8 บาท กรณี Rebound ผ่านกรอบแนวต้านแรกนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 12.5 บาท (Stop loss 10.4 บาท)
2) ประเมินราคาหุ้นปรับลงมา ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2566 ยังเติบโต YoY ดีต่อเนื่อง จนทำให้ Valuation ถูกมาก Forward PE ลดลงเหลือเพียง 20.3 เท่า คิดเป็น 3 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต… มีโอกาส Rebound
3) แม้ภาพรวมผลการดำเนินงาน 4Q66 จะชะลอตัวระยะสั้น แต่คาดการจับจ่ายใช้สอบถูกเลื่อนไปที่ 1Q67 จากมาตรการลดหย่อนภาษี Easy E Receipt รวมทั้งการฟื้นตัวของทั้งภาคอสังหาฯ การท่องเที่ยว และการบริโภคในประเทศช่วยหนุน Sentiment
BJC (เป้า Consensus 32. 09 บาท)
1) ประเมินแนวรับ 25 บาท / แนวต้าน 26.5 27.0 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านแรกไปได้ประเมินมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 28 บาท (Trailing stop 24 บาท)
2) ประเมินราคาหุ้น Laggard กลุ่มค้าปลีก ขณะที่ Consensus คาดกาไรปีนี้จะโต +14% YoY เป็น 5.6 พันล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ และภาคการท่องเที่ยว รวมทั้งมาตรการภาครัฐฯ อาทิ Easy E Receipt ใน 1Q67
3) Valuation ถูกเมื่อเทียบกับกลุ่มฯ โดย Forward PE ปีนี้ 18.6 เท่า และ PBV 0.87 เท่า
SFLEX (เป้าพื้นฐาน 6 บาท)
1) ประเมินแนวรับ 3.42 บาท แนวต้าน 3.56 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านแรกไปได้ประเมินมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 3.9 บาท (Stop loss 3.34 บาท)
2) ประเมิน Sentiment บวกจากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ จากภาคการท่องเที่ยวและมาตรการภาครัฐฯ อาทิ Easy E Receipt ใน 1Q67 (ลูกค้าบรรจุภัณฑ์ของ SFLEX เป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภค บริโภค เช่น ยูนิลีเวอร์ P&G สหพัฒน์)
3) ประเมินกำไร 4Q66 ทรงตัว QoQ แม้อัตรากำไรสูงขึ้น แต่มีรายจ่าย SG&A ช่วงทำดีล JVJV) และลุ้นทำจุดสูงสุดใหม่รายไตรมาสตลอดปี 2567 โดย 1Q67 เริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกาไรจากโรงงานที่เวียดนาม (JV กับ SCGP) 3Q67 เริ่มรับรู้รายได้จากโรงงานใหม่ที่ JV กับ TU (ผลิตบรรจุภัณฑ์ให้กลุ่ม TU)
4) Forward PE 13 เท่า (คิดเป็นราว 1.3 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต) Dividend yield 3 % ต่อปี ขณะที่คาดแนวโน้มกาไรทาจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องทั้งจาก Organic + Inorganic
ทั้งนี้ กนง. ไม่ได้ออกประมาณการเศรษฐกิจในรอบนี้ แต่มีการระบุสั้นๆ ว่า GDP growth ปี 2567 น่าจะชะลอลง อยู่ในช่วง 2.5 3.0% VS ประมาณการล่าสุดที่ 3.2%
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
HMPRO เป้าพื้นฐาน 13 บาท)
1) ประเมินแนวรับ 11 บาท / แนวต้าน 11.5 - 11.8 บาท กรณี Rebound ผ่านกรอบแนวต้านแรกนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 12.5 บาท (Stop loss 10.4 บาท)
2) ประเมินราคาหุ้นปรับลงมา ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2566 ยังเติบโต YoY ดีต่อเนื่อง จนทำให้ Valuation ถูกมาก Forward PE ลดลงเหลือเพียง 20.3 เท่า คิดเป็น 3 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต… มีโอกาส Rebound
3) แม้ภาพรวมผลการดำเนินงาน 4Q66 จะชะลอตัวระยะสั้น แต่คาดการจับจ่ายใช้สอบถูกเลื่อนไปที่ 1Q67 จากมาตรการลดหย่อนภาษี Easy E Receipt รวมทั้งการฟื้นตัวของทั้งภาคอสังหาฯ การท่องเที่ยว และการบริโภคในประเทศช่วยหนุน Sentiment
BJC (เป้า Consensus 32. 09 บาท)
1) ประเมินแนวรับ 25 บาท / แนวต้าน 26.5 27.0 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านแรกไปได้ประเมินมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 28 บาท (Trailing stop 24 บาท)
2) ประเมินราคาหุ้น Laggard กลุ่มค้าปลีก ขณะที่ Consensus คาดกาไรปีนี้จะโต +14% YoY เป็น 5.6 พันล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ และภาคการท่องเที่ยว รวมทั้งมาตรการภาครัฐฯ อาทิ Easy E Receipt ใน 1Q67
3) Valuation ถูกเมื่อเทียบกับกลุ่มฯ โดย Forward PE ปีนี้ 18.6 เท่า และ PBV 0.87 เท่า
SFLEX (เป้าพื้นฐาน 6 บาท)
1) ประเมินแนวรับ 3.42 บาท แนวต้าน 3.56 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านแรกไปได้ประเมินมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 3.9 บาท (Stop loss 3.34 บาท)
2) ประเมิน Sentiment บวกจากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ จากภาคการท่องเที่ยวและมาตรการภาครัฐฯ อาทิ Easy E Receipt ใน 1Q67 (ลูกค้าบรรจุภัณฑ์ของ SFLEX เป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภค บริโภค เช่น ยูนิลีเวอร์ P&G สหพัฒน์)
3) ประเมินกำไร 4Q66 ทรงตัว QoQ แม้อัตรากำไรสูงขึ้น แต่มีรายจ่าย SG&A ช่วงทำดีล JVJV) และลุ้นทำจุดสูงสุดใหม่รายไตรมาสตลอดปี 2567 โดย 1Q67 เริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกาไรจากโรงงานที่เวียดนาม (JV กับ SCGP) 3Q67 เริ่มรับรู้รายได้จากโรงงานใหม่ที่ JV กับ TU (ผลิตบรรจุภัณฑ์ให้กลุ่ม TU)
4) Forward PE 13 เท่า (คิดเป็นราว 1.3 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต) Dividend yield 3 % ต่อปี ขณะที่คาดแนวโน้มกาไรทาจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องทั้งจาก Organic + Inorganic
ที่เกี่ยวข้อง
