Wealth Sharing

KLINIQ คาดงบปี 66 โชว์ All Time High รายได้ทะลุ 2.2 พันลบ. ชี้้ปี 67 โตได้อีก


01 กุมภาพันธ์ 2567
ปี 2566 ปีทอง เดอะคลินิกค์  KLINIQ ระเบิดฟอร์มสามารถทำรายได้ กำไร  สร้างสถิติใหม่ All Time High ตอกย้ำผู้นำนวัตกรรมความงาม รายได้ทะลุ 2,200 ล้านบาท สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ 55 สาขา  พร้อมความสำเร็จกับ รางวัล Ultherapy - Highest Achievement Regional APAC Awards - Category A Winner ของเอเชีย ชนะเกาหลีใต้-ไต้หวัน สมฐานะ THE KLINIQUE เดอะคลีนิกค์ ผู้นำนวัตกรรมยกกระชับ ปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย ระดับ Top Luxury Brand คลินิกผิวหนังและศัลยกรรมความ พร้อมต่อยอดความสำเร็จสู่ธุรกิจ “KLINIQ SPA” สปาทางการแพทย์เพื่อสุขภาพ และ “THE KLINIQUE-Stem Cell Harvesting Center” (TSHC) ศูนย์เก็บเซลล์ไขมันเพื่อฝากเก็บสเต็มเซลล์ ลุ้นผลงานตลอดปี 2567 โตต่อเนื่องและรักษามาตรฐานการให้บริการความงามครบวงจร

KLINIQ คาดงบปี 66 โชว์  All Time High.jpg

นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ  คลินิกเสริมความงาม ผู้นำด้านนวัตกรรมยกกระชับ ปรับรูปใบหน้าและลดริ้วรอย ระดับเอเชียแปซิฟิก เปิดเผยว่า ในปี 2566 เดอะคลินิกค์ ยังคงตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความงามอย่างต่อเนื่อง จากจำนวนผู้เข้าใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในสัดส่วนเมื่อเทียบรายได้ การเติบโตของเดอะคลินิกค์ จากปี 2565 มีรายได้ประมาณ 1,600 ล้านบาท แต่ปัจจุบัน ผ่านมา 9 เดือนมีรายได้ทะลุ 1,600 ล้านบาท ซึ่งเมื่อถึงสิ้นปี เดอะคลินิกค์ มีรายได้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 2,200 บาท คิดเป็นสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 30-40% จากปีก่อน พร้อมเดินหน้าโตต่อเนื่องในปี 2567 ในระดับ 30-40% เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ การเติบโตดังกล่าวมาจากการตอบรับที่ดีของลูกค้าและเป็นคลินิกเสริมความงามชั้นนำที่คนไข้ทั้งในและต่างประเทศกล่าวถึง จากการสร้าง Brand Awareness , เทคนิคการรักษาของทีมแพทย์ และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เดอะคลีนิกค์ขยายสาขาในปี 2566 จำนวนถึง 15 สาขา โดยปัจจุบัน เดอะคลีนิกค์ เรามีสาขาที่พร้อมให้บริการลูกค้าทั่วประเทศ ครอบคลุมตามหัวเมืองใหญ่ และในกรุงเทพฯ จำนวนทั้งสิ้นถึงสิ้นปีมี 55
สาขา โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 บริษัทฯ มีจำนวนสาขาที่เปิดให้บริการทั้งสิ้น 50 สาขา จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีจำนวนสาขา 38 สาขา ประกอบด้วย THE KLINIQUE จำนวน 37 สาขา, L.A.B.X. จำนวน 11 สาขา, THE KLINIQUE SURGERY CENTER จำนวน 1 สาขา, KLINIQ SPA 1 สาขา

นายแพทย์อภิรุจ กล่าวถึงกลยุทธ์การเติบโตของเดอะคลีนิกค์ ภายหลังเปิดดำเนินการกว่า 14 ปี เดอะคลีนิกค์ยังคงเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการยกกระชับปรับรูปหน้าและริ้วรอย ด้วยเทคโนโลยี Ulthera SPT+ นวัตกรรมการยกกระชับในแบบที่ไม่ต้องผ่าตัด โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและชำนาญการด้านนี้โดยเฉพาะ และจากผลการตอบรับที่ดีจากลูกค้าหลังจากเข้ารับบริการว่าเห็นผลดี ทำให้มีการบอกต่อและมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการกับนวัตกรรม Ulthera SPT+ เพิ่มมากขึ้น และปี 2566 เป็นอีกปีแห่งความภาคภูมิใจที่ เดอะคลินิกค์ THE KLINIQUE ได้รับรางวัลใหญ่ Ulthera Lifting - Highest Achievement Regional APAC Awards - Category A Winner เป็นรางวัลใหญ่ที่สุดแห่งวงการยกกระชับปรับรูปหน้าด้วย Ulthera SPT+ ในระดับภูมิภาคเอเชีย และเอเชียแปซิฟิก จากงาน Golden Record Award โดย MERZ Aesthetics ซึ่งเป็นรางวัลที่การันตีความน่าเชื่อถือแห่งวงการยกกระชับปรับรูปหน้าด้วย Ulthera SPT+ จากคลินิกทั่วภูมิภาคเอเชียกว่า 10 ประเทศ ได้แก่ เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงค์โปร์ เวียดนาม และ เดอะคลีนิกค์ ได้รับรางวัลดังกล่าวมาต่อเนื่องมาหลายปี ส่วนหนึ่งมาจากการันตีจากผู้รับบริการว่าใช้เครื่องจริง และคุณภาพที่ได้ดีจริง ประกอบกับจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ดูจากยอดรายได้ที่เพิ่มขึ้น 

สำหรับปี 2567 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายสาขาคาดว่าเปิดสาขาใหม่จำนวน 15 สาขา พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 30-40% จากปีก่อน ด้วยกลยุทธการต่อยอดความสำเร็จจากธุรกิจหลัก ไปสู่ธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง เพื่อเชื่อมโยง The Ecosystem อาทิ “KLINIQ SPA” ซึ่งเป็น เมดิคัล สปา หรือสปาทางการแพทย์เพื่อสุขภาพ ที่มีผู้เชี่ยวชาญให้การดูแลอย่างใกล้ชิด โดดเด่นด้วยการผสมผสานหลักกายภาพบำบัด (Physiotherapy) กับศาสตร์แห่งการผ่อนคลาย นำมาประยุกต์ให้มีความจำเพาะกับแต่ละปัญหา เพื่อช่วยลดความตึงเครียดและเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด จึงทำให้เกิดการฟื้นฟูร่างกายในหลากหลายมิติ

รวมทั้งมีความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เปิดตัว “THE KLINIQUE-Stem Cell Harvesting Center” (TSHC) ศูนย์เก็บเซลล์ไขมันเพื่อฝากสเต็มเซลล์ที่มีมาตรฐานสากล ปลอดภัย จากนวัตกรรมซึ่งเป็นเทรนด์ของเทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตลาดมหาศาลจากเทรนด์ดูแลสุขภาพชะลอวัย 

“ปี 2567 แนวโน้มการเติบโตของ KLINIQ ยังคงดีต่อเนื่องจากปี 2566 ที่มีผลการดำเนินงานที่ดีมากตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2566 ส่งผลให้ทั้งปีเป็นไปตามแผน สร้างผลประกอบการ All Time High ทั้งรายได้ กำไร เป็นผลจากกลยุทธ์การขยายสาขา และการต่อยอดธุรกิจใน Ecosystem เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ทั้งการขยายสาขาอย่างมีประสิทธิภาพครอบคลุมหัวเมืองใหญ่และกรุงเทพฯ ขณะที่ธุรกิจใหม่ทั้ง เมดิคัล สปา และศูนย์เก็บสเต็มเซลล์ ก็เป็นธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาล เป็นเทรนด์ด้านการดูแลสุขภาพ การชะลอวัย คาดหวังว่าปี 2567 KLINIQ จะทำ All Time High ทำรายได้ กำไร อีกครั้ง ตามแผนการดำเนินธุรกิจ 5 ปี (2566-2570) ต้องการสร้างอาณาจักร “เดอะคลีนิกค์” ให้เป็น “จักรวาลความงาม” หรือบิวติเวิร์ส (Beauty+Universe) กลยุทธ์สานเป้าหมาย “บิวติเวิร์ส” บริษัทจะใช้เงินลงทุนราว 300 ล้านบาทต่อปี เปิดเดอะคลีนิกค์ไม่ต่ำกว่าปีละ 10 สาขา ส่งผลให้ภายในปี 2570 มีคลินิกให้บริการแก่ลูกค้าทะลุ  100 สาขา”