มูลค่าการตลาดธุรกิจประกวดนางงาม

มูลค่าการตลาดธุรกิจประกวดนางงามทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมาจากความนิยมที่กว้างขวางทุกมุมโลกและมีรากฝังยาวนานรุ่นสู่รุ่น 

จุดกำเนิดธุรกิจประกวดนางงามที่เป็นทางการนั้น ที่ชัดเจนมาจากประเทศอเมริกาใต้ โดยเริ่มต้นจากการประกวดนางงามท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เช่น การประกวดนางงามเวเนซุเอลา การประกวดนางงามบราซิล เป็นต้น กระทั่งเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1920 และ 1930 โดยมีการประกวดนางงามระดับนานาชาติเกิดขึ้นหลายเวที เช่น การประกวดนางงามจักรวาล การประกวดมิสเวิลด์ การประกวดมิสอินเตอร์เนชันแนล เป็นต้น

ส่วนจุดกำเนิดของธุรกิจประกวดนางงามในประเทศไทยนั้น เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2477 โดยนายพลเรือหลวงสินธุ์ กมลนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น ได้จัดประกวดนางสาวไทยขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ปัจจุบัน ประเทศไทยมีเวทีประกวดนางงามมากมายหลายเวที เช่น การประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ การประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ การประกวดมิสอินเตอร์เนชันแนลไทยแลนด์ เป็นต้น

ธุรกิจประกวดนางงามนับเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตสูง และมีโอกาสสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี มูลค่าการตลาดธุรกิจประกวดนางงามทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยแบ่งเป็นรายได้จากสปอนเซอร์ ประมาณ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รายได้จากการขายลิขสิทธิ์ ประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และรายได้อื่นๆ เช่น การขายบัตรเข้าชม การขายสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับการประกวดนางงาม เป็นต้น

รายได้จากสปอนเซอร์เป็นรายได้หลักของธุรกิจประกวดนางงาม โดยสปอนเซอร์รายใหญ่ ได้แก่ แบรนด์สินค้าความงาม แบรนด์แฟชั่น แบรนด์รถยนต์ แบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น สปอนเซอร์เหล่านี้ต้องการใช้การประกวดนางงามเป็นช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิงและคนรุ่นใหม่

รายได้จากการขายลิขสิทธิ์เป็นรายได้อีกช่องทางหนึ่งที่สำคัญ โดยผู้จัดประกวดนางงามจะขายลิขสิทธิ์ให้กับประเทศต่างๆ เพื่อจัดประกวดนางงามในระดับประเทศและระดับภูมิภาค รายได้จากการขายลิขสิทธิ์จะขึ้นอยู่กับความนิยมของการประกวดนางงามในแต่ละประเทศ

รายได้อื่นๆ ของธุรกิจประกวดนางงาม ได้แก่ การขายบัตรเข้าชม การจัดงานอีเวนต์ที่เกี่ยวข้องกับการประกวดนางงาม เช่น การประกวดรอบคัดเลือก การประกวดรอบรองชนะเลิศ และงานปาร์ตี้หลังการประกวด เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม มูลค่าธุรกิจนางงามในประเทศต่างๆ นั้นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความนิยมของการประกวดนางงามในแต่ละประเทศ โดยประเทศที่มีมูลค่าธุรกิจนางงามสูง ได้แก่
-สหรัฐอเมริกา มูลค่าธุรกิจนางงามของสหรัฐอเมริกามีมูลค่าประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
-จีน มูลค่าธุรกิจนางงามของจีนมีมูลค่าประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 
-อินเดีย มูลค่าธุรกิจนางงามของอินเดียมีมูลค่าประมาณ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
-บราซิล มูลค่าธุรกิจนางงามของบราซิลมีมูลค่าประมาณ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
-ฟิลิปปินส์ มูลค่าธุรกิจนางงามของฟิลิปปินส์มีมูลค่าประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 
-ไทย มูลค่าธุรกิจนางงามมีมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท 

ในภาพใหญ่นั้นตลาดธุรกิจประกวดนางงามมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดเติบโต ได้แก่
-การเติบโตของสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้การประกวดนางงามเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น ผู้คนสามารถรับชมการประกวดนางงามผ่านสื่อสังคมออนไลน์ได้ทั่วโลก 
-การเปลี่ยนแปลงค่านิยมของสังคม ทำให้ผู้คนให้ความสำคัญกับความสวยงามและความมั่นใจมากขึ้น ผู้คนเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลตัวเองทั้งภายในและภายนอก 
-หากมีการเติบโตหรือฟื้นตัวของเศรษฐกิจในหลายประเทศ ทำให้ผู้คนมีกำลังซื้อมากขึ้นและสามารถใช้จ่ายไปกับสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับการประกวดนางงามได้

นอกจากนี้ ธุรกิจประกวดนางงามยังมีแนวโน้มที่จะขยายฐานตลาดปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคม เช่น
-การให้ความสำคัญกับความหลากหลาย สังคมในปัจจุบันให้ความสำคัญกับความหลากหลายมากขึ้น ธุรกิจประกวดนางงามเริ่มเปิดโอกาสให้ผู้เข้าประกวดที่มีความหลากหลายทั้งในด้านเชื้อชาติ ศาสนา รูปร่าง หน้าตา และความสามารถ
-การให้ความสำคัญกับประเด็นสังคม เช่น ประเด็นสิ่งแวดล้อม ประเด็นความเท่าเทียมทางเพศ และประเด็นความหลากหลายทางเชื้อชาติ ธุรกิจประกวดนางงามจึงเริ่มจัดกิจกรรมหรือแคมเปญเพื่อรณรงค์เกี่ยวกับประเด็นสังคมเหล่านี้

จากปัจจัยเหล่านี้ ธุรกิจประกวดนางงามจึงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่ามูลค่าการตลาดจะสูงถึง 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี พ.ศ. 2573

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจประกวดนางงามก็อาจเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงบางประการ เช่น
การวิพากษ์วิจารณ์จากสังคม ว่าเป็นการส่งเสริมค่านิยมความงามแบบผิวขาว รูปร่างผอมเพรียว และเพศหญิงตามแบบฉบับดั้งเดิม ธุรกิจประกวดนางงามจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคม เพื่อลดการวิพากษ์วิจารณ์จากสังคม
การแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ โดยในแต่ละปีมีเวทีประกวดนางงามเกิดขึ้นใหม่มากมาย ธุรกิจประกวดนางงามจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับการแข่งขันที่สูงขึ้น เพื่อรักษาฐานลูกค้าและสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ