จิปาถะ

"หมอกฤตไท" เจ้าของเพจ สู้ดิวะ ผู้ต่อสู้กับมะเร็งระยะสุดท้าย


07 พฤศจิกายน 2566

หมอกฤตไท หมอเจ้าของเพจ สู้ดิวะ ที่ต่อสู้กับมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ล่าสุดพิมพ์ข้อความบอกลา พร้อมบอกว่าเวลากำลังนับถอยหลัง เขาคือใคร มาทำความรู้จักกัน

หมอกฤตไท เจ้าของเพจ สู้ดิวะ.jpg

เป็นข่าวเศร้าของวงการแพทย์เลยก็ว่าได้ เมื่อ หมอกฤตไท หรือ นายแพทย์กฤตไท ธนสมบัติกุล เจ้าของเพจ สู้ดิวะ ผู้แบ่งปันเรื่องราวการต่อสู้กับโรคร้าย หลังตรวจพบมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ทั้งที่เป็นคนรักสุขภาพ เปิดเผยว่าอาจเหลือเวลาอีกไม่นาน และโพสต์ข้อความบอกลา ทำให้หลายคนเกิดความสงสาร เห็นใจ และอยากรู้จักเขาให้มากขึ้น ก

หมอกฤตไท ประวัติและการศึกษา
หมอกฤตไท หรือ นายแพทย์กฤตไท ธนสมบัติกุล อายุ 29 ปี เกิดในครอบครัวเชื้อสายจีน จบการศึกษาชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (OSK 131) และปริญญาตรีจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รุ่น 56 โดยในขณะเรียนอยู่นั้นเขาก็ยังเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลของคณะด้วย หลังจากเรียนจบ หมอกฤตไท ได้ศึกษาต่อเฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ครอบครัว (Family Medicine) พร้อมกับศึกษาด้านระบาดวิทยาคลินิก (Clinical Epidemiology and Clinical Statistic) ก่อนจะศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ด้านวิทยาการข้อมูล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
หลังจากเรียนจบแพทย์เฉพาะทางแล้ว หมอกฤตไท ได้บรรจุเข้าทำงานเป็นอาจารย์ประจำศูนย์ระบาดวิทยาคลินิกและสถิติศาสตร์คลินิก ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งมีความรู้ความสามารถจนได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม CE (Clinical Epidemiology) ร่วมกับอาจารย์อีกหลายท่าน
หมอกฤตไท ประวัติ
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Krittai Tanasombatkul

ตรวจพบมะเร็งปอด
หมอกฤตไทเป็นคนรักสุขภาพมาก ๆ ไม่สูบบุหรี่ และออกกำลังกายเป็นประจำ ทว่า เมื่อเดือนตุลาคม 2565 เขาได้สังเกตถึงความผิดปกติของอาการไอของตัวเอง จึงเข้ารับการตรวจ และพบว่ากำลังป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 4 ซึ่งไม่สามารถผ่าตัดเพื่อรักษาให้หายขาดได้ โดยเหลือปอดขวาที่แข็งแรงเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ปัจจัยเดียวที่เป็นไปได้คือ ภาวะฝุ่น PM2.5 ที่รุนแรงในจังหวัดเชียงใหม่ และหลังจากเข้ารับการรักษาทั้งการใช้เคมีบำบัดและการฉายแสง หมอกฤตไทจึงตัดสินใจเปิดเพจ สู้ดิวะ เพื่อแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ ให้สังคม รวมถึงเขียนหนังสือ สู้ดิวะ ขึ้นมาด้วย ซึ่งได้รับการตอบรับดีมาก
หมอกฤตไท ประวัติ
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก สู้ดิวะ

รักษาตัวแต่มะเร็งลุกลาม
หมอกฤตไทรักษาตัวอย่างต่อเนื่อง ในช่วงต้นปี 2566 ก้อนใหญ่ที่ปอดขวาเล็กลง ก้อนเล็กที่ปอดซ้ายก็หายไปหมด ร่างกายตอบสนองต่อการรักษาดี จนสามารถออกกำลังกายและใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทั้งการเล่นกีฬา รวมถึงกลับไปสอนหนังสือ แต่ตอมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 กลับพบว่ามีก้อนใหม่เพิ่มขึ้นมา 3 ก้อน จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการฉายแสงทั้งศีรษะ เพื่อกำจัดเชื้อมะเร็งที่กระจายไปทั่วสมอง เดือนเมษายน 2566 ผลการติดตามพบว่าก้อนที่ปอดขวายุบลงไปครึ่งหนึ่งจากของเดิม ก้อนเล็ก ๆ ที่ปอดซ้ายหายไปเกือบหมด ก้อนในสมองทุกก้อนยังอยู่ แต่ถือว่าสงบ ไม่มีการลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ มีเพียงก้อนที่เยื่อหุ้มปอดที่โตขึ้นไปกดกระดูกซี่โครงทำให้มีอาการปวด ซึ่งสามารถทำการฉายแสงเฉพาะจุดได้ ซึ่งระหว่างการรักษา หมอกฤตไท ได้โพสต์เฟซบุ๊กสะท้อนถึงปัญหาของฝุ่น PM2.5 ที่แม้แต่อากาศจะหายใจยังมีความเหลื่อมล้ำในประเทศเรา โดยมีแฟน ๆ ส่งกำลังใจให้มากมาย
หมอกฤตไท ประวัติ
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก สู้ดิวะ

แต่งงานกับแฟนสาว
การรักษามะเร็งยังดำเนินต่อไป แต่โรคร้ายนี้ก็อาจคร่าชีวิตคุณหมอได้ทุกเมื่อ เขาจึงตัดสินใจเข้าพิธีแต่งงานกับคุณพีม แฟนสาว เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2566 โดยในงานนี้เป็นงานเล็ก ๆ ที่น่ารัก เน้นเชิญเฉพาะญาติ ๆ และเพื่อน ๆ ที่สนิทมาร่วมงาน โดยในงานเป็นงานกลางแจ้ง จัดในบรรยากาศที่อบอุ่น ประดับประดาไปด้วยดอกไม้ โดยคุณพีมก็ได้กล่าวสั้น ๆ ในงานแต่งงานว่า "พีมว่าพีมโชคดีมาก ๆ จริง คือพี่ไทจะพูดตลอดเลยว่า เธอโชคร้ายหรือเปล่า เธอโชคร้ายหรือเปล่า พีมก็จะตอบพี่ไททุกครั้งเลยว่า พีมโชคร้ายที่พีมไม่รู้ว่าพีมจะอยู่กับพี่ไทไปถึงเมื่อไร พีมโชคร้ายแค่นั้นเลย ที่เหลือ ตั้งแต่ที่พีมพบพี่ไท พีมรู้สึกมาตลอดเลยว่าพีมโชคดี ที่เจอคู่ชีวิตได้เร็วขนาดนี้ ไม่ว่าเรื่องมันจะไปทางไหน ไม่ว่าเรื่องมันจบยังไง ตอนนี้โชคดีที่สุดแล้วค่ะ"
หมอกฤตไท ประวัติ
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Krittai Tanasombatkul

ข้อความบอกลา
ล่าสุด หลังจากที่แอดมินเพจ สู้ดิวะ ได้ออกมาบอกถึงอาการของหมอกฤตไทที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก ตัวคุณหมอก็ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เขาอาจจะอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว น่าจะไปช่วงกลางเดือนหน้า (กลางเดือนธันวาคม 2566) ใครมีอะไรอยากบอกสามารถบอกได้เลย และหากเขาเคยทำอะไรให้ใครไม่พอใจก็ต้องขอโทษด้วย ซึ่งทำให้มีเพื่อนพี่น้องและแฟน ๆ มาส่งข้อความให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม
หมอกฤตไท สู้ดิวะ อำลาทุกคน คาดอยู่ได้ถึงเดือนหน้า อยากไปดู NBA คงไม่ทันแล้ว

เรื่องราวของ หมอกฤตไท ทำให้หลายคนตระหนักได้ว่าเรื่องไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นกับชีวิตได้เสมอ อย่างไรก็ตาม กระปุกดอทคอมขอส่งกำลังใจให้คุณหมอและครอบครัวอีกทางนะครับ

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก สู้ดิวะ, Krittai Tanasombatkul

รวมรูปภาพ หมอกฤตไท ประวัตินายแพทย์เจ้าของเพจ สู้ดิวะ ผู้ต่อสู้กับมะเร็งระยะสุดท้าย


ที่มา : https://men.kapook.com/view274965.html