Wealth Sharing

GEL ฉลุย! ปรับโครงสร้างธุรกิจ มูลค่ารวม 880 ลบ. ดัน “อินโน พรีคาสท์” สู่ผู้ผลิตพรีคาสท์เบอร์หนึ่งของไทย มั่นใจหนุนผลงานอนาคตเติบโตก้าวกระโดด


07 พฤศจิกายน 2566
บมจ.เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง (GEL) เดินหน้าปรับโครงสร้างทางธุรกิจครั้งใหญ่ มูลค่ารวม 880 ล้านบาท ส่งบริษัทย่อย "อินโน พรีคาสท์"  (Inno Precast) ลุยขยายธุรกิจพรีคาสท์ตามแผน ฟากผู้บริหาร “ธิติพงศ์ ตั้งพูนผลวิวัฒน์” ระบุการปรับโครงสร้างในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งสนับสนุนรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มั่นใจภายใน 2-3 ปีดันผลงานเติบโตก้าวกระโดด พร้อมขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งธุรกิจพรีคาสท์รายใหญ่สุดของไทย 

GEL1_0.jpg

นายธิติพงศ์ ตั้งพูนผลวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GEL) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติการปรับโครงสร้างกิจการของบริษัทฯ โดยการโอนกิจการบางส่วน (Partial Business Transfer: PBT) และ/หรือการซื้อขายกิจการบางส่วน และสัญญาที่เกี่ยวข้องกับบริษัท อินโน พรีคาสท์ จำกัด และบุคคลที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 880 ล้านบาท ให้กับบริษัท อินโน พรีคาสท์ จำกัด (อินโน พรีคาสท์) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นจำนวน 1,019,999 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 51 

ทั้งนี้ อินโน พรีคาสท์ จะชำระค่าตอบแทนสำหรับการโอนกิจการบางส่วน และ/หรือ การซื้อขายกิจการบางส่วน ดังนี้ 1. การออกหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บริษัทฯ เป็นจำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 1,070,991 หุ้น ในราคาหุ้นละ 570.50 บาท คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 611.00 ล้านบาท 2. การชำระเงินสดให้แก่บริษัทฯ เป็นจำนวน 124 ล้านบาท และ 3.การซื้อทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพรีคาสท์ ซึ่งประกอบด้วยที่ดินและอาคารโรงงานจากบริษัทฯ (ภายหลังจากที่ทรัพย์สินได้รับการปลดจากการเป็นหลักประกัน) ในมูลค่าทั้งสิ้น 145 ล้านบาท โดยมูลค่าทรัพย์สินที่ชำระจะหักจากค่าเช่าที่ อินโน พรีคาสท์ เช่าทรัพย์สินจากบริษัทฯ เป็นระยะเวลา 3 ปี ก่อนที่จะมีการปลดทรัพย์สินจากการเป็นหลักประกัน ซึ่งคิดเป็นค่าเช่า 11.6 ล้านบาทต่อปี  

นอกจากนี้ ภายหลังการปรับโครงสร้างกิจการของ GEL ในครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์ บริษัทฯ จะถือหุ้นในอินโน พรีคาสท์ เป็นจำนวน 2,090,990 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 55.4 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของ อินโน พรีคาสท์ โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 3 เดือนนับจากวันที่จัดประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ มีมติอนุมัติการเข้ารายการ และจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและรายได้ให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจว่าภายใน 2-3 ปี จะผลักดันผลงานให้เติบโตแบบก้าวกระโดด และขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งพรีคาสท์รายใหญ่สุดของไทย

ปัจจุบัน GEL ยังมุ่งหน้าและก้าวสู่บริษัทผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างชั้นนำ ซึ่งหลังจากการปรับโครงสร้างกิจการในครั้งนี้ และการมี อินโน พรีคาสท์ เป็นบริษัทย่อยของ GEL จะทำให้บริษัทฯ รับรู้รายได้สูงขึ้นเกือบสองเท่าตัว จากการรวมงบการเงินกับบริษัท อินโน พรีคาสท์ ที่จะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากคำสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างของฐานลูกค้าเดิม รวมถึงจากทางพฤกษา และลูกค้ารายอื่นในอนาคต ช่วยลดต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วย (Economy of Scale) ในระยะยาว รวมถึงบริษัทฯ มีกลยุทธ์การสร้างแพลตฟอร์มในการนำเทคโนโลยีที่ดีกว่ามาปรับใช้ ทำให้บริษัทฯ มีต้นทุนที่ดีขึ้นส่งผลให้เกิดประโยชน์ในภาพรวมต่อลูกค้าของบริษัทฯ 

“สำหรับเทคโนโลยีสีเขียวจากอินโน พรีคาสท์ จะช่วยเพิ่มความสามารถในการขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าที่สนใจเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้การดำเนินงานของ GEL จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง ศักยภาพการผลิตที่มากขึ้น และการสร้างรายได้ที่มั่นคง” นายธิติพงศ์ กล่าวในที่สุด
GEL