ตามที่บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") ได้แจ้งสารสนเทศการลาออกของกรรมการและผู้บริหารนั้น บริษัทขอชี้แจงดังนี้
1.สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหาร
เนื่องจากเหตุผลส่วนตัวของแต่ละท่านที่ไม่สามารถดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารต่อไปได้ตามที่ได้แจ้งสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งสรุปได้ดังนี้
-นายพงษ์สุทธิ พื้นแสน ตำแหน่งกรรมการและประธานกรรมการตรวจสอบ ได้แจ้งความประสงค์ขอลาออกเนื่องจากเหตุผลส่วนตัว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป
-นางสาวจันทร์เพ็ญ บรรหารบุตร ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายบัญชี ได้แจ้งความประสงค์ขอลาออกเนื่องจากเหตุผลส่วนตัว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป
- นายภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา ตำแหน่งกรรมการ, กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้แจ้งความประสงค์ขอลาออก เนื่องจากเหตุผลทางสุขภาพ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2566 เป็นต้นไป
2.เพื่อให้การบริหารงานยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องตามโครงสร้างเดิมก่อนที่ได้รับอนุมัติให้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และไม่เกิดผลกระทบต่อการบริหารงานและมาตรการดำเนินการของบริษัทบริษัทได้มีการแต่งตั้งกรรมการและผู้บริหารทดแทนในทุกตำแหน่งแล้ว โดยสรุปได้ดังนี้
-แต่งตั้งนายปัญญ์ เกษมทรัพย์ เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท ประธานกรรมการตรวจสอบ
และกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน แทน นายพงษ์สุทธิ พื้นแสน
-แต่งตั้งนายคมสหัสภพ นุตยกุล เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แทน นายภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา
- แต่งตั้งนายศิริวัฒน์ ซ้ายหุ้ย เข้าดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายบัญชี แทน นางสาวจันทร์เพ็ญ บรรหารบุตรนอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2566 ซึ่งจัดประชุม เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 ได้มีมติรับทราบการแต่งตั้งนายเริงศักดิ์ แซ่อึ้ง เข้าดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่สายการเงินและบัญชีแทน นายนิติ ปัญญาวิศิษฏ์กุล ซึ่งจะดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายในการประกอบธุรกิจหลักและการบริหารงานของบริษัทยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องภายใต้กรรมการและผู้บริหารส่วนใหญ่ตามโครงสร้างเดิมก่อนที่จะได้รับอนุมัติให้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดย ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2566 โครงสร้างการจัดการของบริษัท สรุปได้ดังนี้
1. นายพงษ์ดิษฐ พจนา ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริษัท/กรรมการอิสระ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564
2. นายปัญญ์ เกษมทรัพย์ ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท/กรรมการอิสระ/ประธานกรรมการตรวจสอบ เมื่อวันที่
10 สิงหาคม 2566
3. ดร.วรัญญู สุจิวรพันธ์พงศ์ ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท/กรรมการตรวจสอบ เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2562
4. นายไพรัตน์ วัชรสถาพรพงศ์ ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท/กรรมการตรวจสอบ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563
5. นางวรางคณา กัลยาณประดิษฐ ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท เมื่อวันที่13 กรกฎาคม 2565
6. นายสมชาย มีเสน ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท เมื่อวันที่19 ตุลาคม 2565
7. นายเฉลิมชัย จีนะวิจารณะ ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท/ประธานคณะกรรมการบริหาร เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2559
8. นายคมสหัสภพ นุตยกุล ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท/กรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เมื่อวันที่16 ตุลาคม 2566
9. นางวัสสา จีนะวิจารณะ ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท/กรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ เมื่อวันที่ 26กุมภาพันธ์ 2561
10. นางสาวพัชราภรณ์ จีนะวิจารณะ ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท/กรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่สายงานธุรการ เมื่อวันที 26 กรกฎาคม 2560
11. นายนิติ ปัญญาวิศิษฏ์กุล ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหาร เมื่อวันที่ 13 กรกฏาคม 2563
12. นายเริงศักดิ์ แซ่อึ้ง ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงินและบัญชี เมื่อวันที่ พฤศจิกายน 2566
13. นางสาววมินท์อร จีนะวิจารณะ ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่สายงานขายและการตลาด เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2558
14. นายศิริวัฒน์ ซ้ายหุ้ย ดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายบัญชี เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566
3.ความเห็นของคณะกรรมการบริษัทต่อความต่อเนื่องของการบริหารงานตามนโยบายของคณะกรรมการคณะกรรมการบริษัทมีความเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารที่สำคัญของบริษัทภายหลังการเข้าจดทะเบียนในระยะเวลาอันสั้นนั้น เกิดขึ้นจากความจำเป็นส่วนบุคคล ซึ่งบริษัทมิได้รับทราบข้อเท็จจริงนี้ก่อนอย่างไรก็ตามบริษัทโดยคณะกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทนได้มีการสรรหาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเพื่อดำรงตำแหน่งทดแทนบุคคลดังกล่าวอย่างรอบคอบและเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาอนุมัติแล้ว ทั้งนี้
บริษัทขอเรียนยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารที่สำคัญดังกล่าวจะไม่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายในการประกอบธุรกิจหลักและยังคงสามารถดำเนินกิจการอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของคณะกรรมการบริษัทซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นบุคคลากรชุดเดิมโดยคณะกรรมการจะทำหน้าที่กำกับดูแลให้บริษัทประกอบธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายและแผนงานภายใต้นโยบายหรือกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่อาจเปลี่ยนแปลงรวมถึงกำกับดูแลให้มีการสรรหาบุคลากรที่มีความเหมาะสมและเพียงพอเพื่อรองรับการดำเนินงานให้มีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องต่อไป
ที่เกี่ยวข้อง
