Wealth Sharing

บล.พายประเมินดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้ กรอบ 1,540 – 1,580 แนะลดพอร์ตไร้ปัจจัยหนุน


28 สิงหาคม 2566
บล.พาย ประเมินว่าตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดบวก 0.7% บรรยากาศซื้อขายผันผวนเนื่องจากประธาน FED ส่งสัญญาณว่าเงินเฟ้อยังอยู่ระดับสูงและอาจต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1% แรงหนุนจากแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐฯที่ลดลง

บล.พายประเมินดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้.jpg

วันศุกร์ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าส่งออกเดือน ก.ค. (-6%YoY) แต่หากตัดสินค้าเกี่ยวข้องกับทองคำ น้ำมัน และยุทธปัจจัยจะอยู่ที่ (-2%YoY) ใกล้เคียงกับ Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ -2.8%YoY สาเหตุที่ชะลอตัวกระทรวงพาณิชย์ระบุว่าเป็นผลจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยในหลายภูมิภาคและการเข้มงวดมากขึ้นในการปล่อยสินเชื่อส่งผลให้การบริโภคชะลอตัว อีกทั้งจีนซึ่งเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลกฟื้นตัวช้าลงจากกำลังซื้อในประเทศที่หดตัว อย่างไรก็ตามการส่งออกสินค้าเกี่ยวข้องกับอาหารยังขยายตัวได้ อาทิ ผลไม้สด ผักกระป๋อง ไข่ไก่สด ส่วนสินค้าที่หดตัวและเกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นได้แก่อาหารทะเลกระป๋อง (กระทบ TU) ด้าน สินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวได้แก่รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ (บวกต่อ AH SAT) 

ส่วนสินค้าที่หดตัวและเกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นได้แก่เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ (กระทบ HANA) สำหรับคืนวันศุกร์ที่ประชุม Jackson Hole ประธาน FED ระบุว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ระดับสูงและอาจต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อ พร้อมระบุเพิ่มเติมว่าถึงแม้เงินเฟ้อจะปรับลงมาจากจุดสูงสุดแต่ก็ยังคงเป็นระดับสูงและดอกเบี้ยมีแนวโน้มอยู่ระดับสูงต่อไปจนกว่าจะมั่นใจว่าเงินเฟ้อกำลังปรับลง ภายหลังแถลงพบว่า US Bond Yield 2 ปีปรับขึ้นแต่ CME FED Watch ยังให้น้ำหนักราว 80% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม (ลดลงจาก 90%) โดยสรุปถ้อยแถลงค่อนข้างไปในทางเข้มงวดซึ่งเป็นลบกับตลาดหุ้น

สำหรับสัปดาห์นี้หลักๆเน้นที่แรงงานในสหรัฐฯทั้งตำแหน่งเปิดรับสมัครงานในวันอังคาร การจ้างงานภาคเอกชนจากสถาบัน ADP ในวันพุธและการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์และเงินเฟ้อ (PCE) ในวันพฤหัสบดี ประเมิน SET INDEX สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวกรอบ 1540 – 1580 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังเน้นลดพอร์ตการลงทุนจากการที่ตลาดรับรู้ปัจจัยบวกด้านการเมืองไปมากแล้ว ขณะที่ระดับ Valuation ปัจจุบันมิใช่จุดที่ถูกมากนักและต่างประเทศก็ยังไร้ปัจจัยบวก หุ้นแนะนำระยะสั้นเลือกกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT AWC CENTEL ERW MINT) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN) ขนส่ง (BEM) กลุ่มการเงิน (TIDLOR)

BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 198.00 บาท)
คุณภาพสินเชื่อยังอยู่ในระดับที่คุมอยู่ ธนาคารให้แนวทางอัตราส่วนหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL ratio) ระดับเดิมที่ 3.5% (ไตรมาส 2/23: 2.9%) นอกจากนี้ ด้วยการที่มีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่เพียงพอแล้ว จึงคาดว่าค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญในปี 2023 (ครึ่งแรกปี 2023: 130 bps) จะต่ำกว่า 124 bps ในปี 2022

PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 180.00 บาท)
ภาพรวมไตรมาส 3/23 ยังเป็นบวกจากแนวโน้มปริมาณขายที่ปรับดีขึ้น โดยผู้บริหารให้แนวทางไว้ที่ 470kBOED (+6% QoQ) ขณะที่ราคาขายก็มีโอกาสปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบที่ขึ้นไปแตะ US$84/บาร์เรลในเดือน ก.ค. หรือขึ้นไปกว่า US$6.0/บาร์เรลจากค่าเฉลี่ยในไตรมาส 2/23 ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นช่วงล่าสุดเป็นผลจากการที่ OPEC+ ขยายกรอบการลดปริมาณผลิตไปถึงเดือน ส.ค (ลด 5.2 ล้านบาร์เรล/วัน คิดเป็น 5% ของอุปทานโลก)