News Today

STARK เผยยังไม่ชำระหนี้ เงินต้น-ดบ.ของหุ้นกู้ STARK239A-STARK249A


03 กรกฎาคม 2566
ตามที่ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ได้รับหนังสือเรียกให้ชําระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย ทั้งหมดของหุ้นกู้ของบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2564 ชุดที่ 1 ครบกําหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2566 (STARK239A) และ หุ้นกู้บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2564 ชุดที่ 2 ครบกําหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2567 (STARK249A) (“หนังสือเรียกให้ชําระหนี้โดยพลัน”) จากผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 6 มิถุนายน 2566 โดยผู้แทนผู้ถือหุ้นใช้สิทธิตามข้อ 11.3 ของข้อกําหนดว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้และผู้ถือหุ้นกู้ (“ข้อกําหนด สิทธิ”) เรียกให้บริษัทชําระหนี้เงินต้นคงค้างทั้งหมดจํานวน 2,241,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยคงค้างทั้งหมด ซึ่งคํานวณ จนถึงวันที่บริษัทชําระหนี้ตามหุ้นกู้ครบถ้วนแล้ว ภายในวันที่ 2 กรกฎาคม 2566

STARK เผยยังไม่ชำระหนี้.jpg
บริษัทขอเรียนแจ้งว่า บริษัทจะยังไม่ชําระหนี้ดังกล่าวภายในระยะเวลาที่ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้กําหนดมาในหนังสือ เรียกให้ชําระหนี้โดยพลัน เนื่องจากบริษัทยังดําเนินการตามแผนการดําเนินการที่ได้แจ้งไว้ในสิ่งที่อ้างถึง 1 และ 2 ไม่แล้วเสร็จ กล่าวคือ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาหาทางออกร่วมกับเจ้าหนี้ต่าง ๆ เมื่อผลการเจรจายังไม่เป็นที่สิ้นสุด บริษัทจึงต้องชะลอการชําระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ใด ๆ เพื่อไม่ให้เป็นการเลือกปฏิบัติหรือให้เปรียบเจ้าหนี้กลุ่มใด

แนวทางการดําเนินการเนื่องจากผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ได้ดําเนินการเรียกให้บริษัทชําระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยทั้งหมดของหุ้นกู้หมายเลข STARK245A STARK255A และ STARK242A บริษัทจึงมีจํานวนหนี้คงค้างชําระเพิ่มขึ้นจํานวน 6,957,400,000 บาท รวมหนี้เงินต้นหุ้นกู้คงค้างชําระทั้งสิ้น 9,198,400,000 บาท บริษัทยิ่งจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการชําระหนี้ กลุ่มใด ๆ เป็นการเฉพาะ เพื่อป้องกันความเสี่ยงอันเกิดจากการกระทําใด ๆ ที่อาจถือเป็นการเลือกปฏิบัติและให้เปรียบ เจ้าหนี้กลุ่มใดเหนือเจ้าหนี้รายอื่น เพื่อมิให้เจ้าหนี้รายอื่น ๆ เพิกถอน หรือส่งผลกระทบในทางลบต่อการเจรจาบริหารการชําระหนี้

อนึ่ง บริษัทขออภัยที่ยังไม่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับแผนการชําระหนี้โดยละเอียด ณ ขณะนี้ เนื่องด้วยบริษัทมี เจ้าหนี้ที่สําคัญหลายราย (ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้ทางการเงิน หรือเจ้าหนี้กลุ่มอื่น) บริษัทจึงต้องใช้เวลาในการเจรจา หาทางออกในการร่วมกับเจ้าหนี้ที่สําคัญทั้งหมด เพื่อให้เจ้าหนี้ต่าง ๆ ระงับการใช้สิทธิเรียกร้องให้ชําระหนี้ทั้งหมด ในลักษณะเดียวกันกับหนี้หุ้นกู้ และหาแนวทางการบริหารการชําระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้หุ้นกู้และกลุ่มอื่น ๆ โดยเท่าเทียมกัน