เจ๊จิ๋ม..สายเถื่อน 02-02-23
02-02-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***ยาวไป-ยาวไปๆๆๆๆ เลยลูกพี่ หลังจากที่ ครม. มีมติเห็นชอบหนังสือการอนุญาต (Letter of Authorization: LoA) ให้ดำเนินโครงการเปลี่ยนรถโดยสารประจำทางสาธารณะของภาคเอกชนเป็นรถโดยสารประจำทางไฟฟ้า (รถร่วมบริการ) ในพื้นที่ กทม. อ๊ะ-อ๊ะ-อ๊ะ!!! แบบนี้เรียกว่าเข้าทาง EA และบริษัทในเครือชัดๆ ไม่ว่าจะเป็น BYD และ NEX ใครยังไม่มีหุ้นทั้ง 3 ตัวนี้เก็บไว้ในพอร์ต ..เจ๊จิ๋มแนะนำให้สะสมด่วน!!!!
***ไม่ต้องบรรยายให้มากความสำหรับ EA เพราะส้มหล่นใส่แบบหนักมาก (EA และบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม 1.) กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล (B100) กลีเซอรีนบริสุทธิ์ ผลิตภัณฑ์พลอยได้ และสารเปลี่ยนสถานะ (ผ่านบริษัทฯ และบริษัทย่อย) 2.) กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (ผ่านกลุ่มบริษัทย่อย) 3.) กลุ่มธุรกิจอื่นๆ (ผ่านกลุ่มบริษัทย่อย) (3.1) ธุรกิจพัฒนา ผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่ (3.2) ธุรกิจบริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า (สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า), ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (3.3) ธุรกิจวิจัย และพัฒนา (3.4) ธุรกิจอื่น)
-FSSIA ให้ราคาเป้าหมาย 108 บาท แนะนำ Buy
-YUANTA ให้ราคาเป้าหมาย 105 บาท แนะนำ Trading Buy
***สำหรับ NEX ราคาในกระดานยังมีอัพไซต์อีกเยอะถ้าเทียบราคาเป้าหมาย (ทำธุรกิจ 1. ผลิตและรับจ้างผลิตชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า 2.จำหน่าย/ให้เช่ารถบัสโดยสาร ซ่อมบำรุง จำหน่ายอะไหล่รถบัสโดยสาร 3.ลงทุนในบริษัทย่อย)
-BLS ให้ราคาเป้าหมาย 24 บาท แนะนำBuy
-TNS ให้ราคาเป้าหมาย 22 บาท แนะนำ Buy
***แต่เสียดาย!!! สำหรับ BYD ยังไม่มีโบรกเกอร์ประเมินราคาเป้าหมายเอาไว้ เจ๊ก้อเลยไม่มีข้อมูลมาบอกอ่ะค่ะ แต่เจ๊มั่นใจสุดๆ ว่าหุ้นตัวนี้ดีเลิศ!!!! รออีกนิดเจ๊มั่นใจว่าทุกคนจะรู้ว่านี่คือหุ้นพื้นฐาน ที่มีความมั่นคง ธุรกิจอยู่ในเทรนด์และสามารถเติบโตได้อีกเย๊อะๆๆๆๆ
***เคาะราคาแล้วจ้าาาาา สุดยอดหุ้นในตอนนี้ต้องยกให้เค้าล่ะ MEB ผู้นำธุรกิจ e-book อันดับ 1 ของไทย กินมาร์เก็ตแชร์มากกว่า 60% ทิ้งห่างอันดับ 2-3-4-5 และอื่นๆ อีกมากมายแบบไม่เห็นฝุ่น กระทำการด้วยวิธี Bookbuild ของนักลงทุนสถาบัน ด้วยราคาสวยๆ หุ้นละ 28.50 บาท มีกำหนดเปิดจองซื้อวันที่ 3,6-7 ก.พ. 66 และจะเข้าเทรดในตลาด mai ในวันแห่งความรัก 14 กุมภาฯวันวาเลนไทน์ นักลงทุนที่สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บล.บัวหลวง, บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง และ บล.โนมูระ พัฒนสิน
***แว่วๆ ว่าเคสของ MEB นักลงทุนสถาบันให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง เจ๊ว่านะ..คงเป็นเพราะโมเดลธุรกิจเป็นเทรนด์แห่งอนาคต ที่มองเห็นการเติบโตเห็นๆ ดูไม่ยาก ลองมองกลับไปที่ลูกๆ หลานๆของพวกเราดิ!!! วันนี้ตั้งแต่อนุบาลเลย -หรือจะย้อนลึกลงไปกว่านั้นอีกก้อได้ เด็กน้อยวันนี้หยิบมือถือ-หยิบไอแพดขึ้นมาดูขึ้นมาอ่าน เด็กมหาวิทยาลัยก้ออ่านจากอุปกรณ์เหล่านี้ แม้แต่รุ่นพ่อ-แม่ของเราทุกวันนี้ก้อแทบไม่หยิบหนังสือแล้ว ติดมือถือกันทั้งเมือง แบบนี้ไม่เรียกว่าเป็นโมเดลธุรกิจที่เดินมาถูกทางแล้วได้ยังไง???? คำถามต่อมาคือ.. MEB จะเติบโตขึ้นและยิ่งใหญ่ได้แค่ไหน??? เจ๊ก้อตอบไม่ได้อ่ะนะ แต่ลองดูว่า Amazon ใหญ่มั้ย-เบอร์หนึ่งของโลกนะจ๊ะเทอ วันที่เริ่มต้นเค้าก้อเล็กๆ นะ มาถึงปัจจุบันโอว์ว์ว์ว์ ไม่พูดมาก-เด๋วเจ็บคอ 5555
***MEB นอกจากเป็นบริษัทที่ทำรายได้-กำไร เติบโตก้าวกระโดดมาโดยต่อเนื่องแล้ว ยังเป็นบริษัทปลอดหนี้อีกด้วย..ที่สำคัญในส่วนของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไม่ต้องวิตกเลยคู๊นนนนนนนน ภายหลังการขายหุ้น IPO กลุ่มผู้ก่อตั้งและบริหาร "รวิวร มะหะสิทธิ์ คุณกิตติพงษ์ แซ่ลิ้ม" จะถือหุ้นรวมกันประมาณร้อยละ 18.7 และบมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือ CRC ผ่านบริษัทย่อยในกลุ่มซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เดิม จะถือหุ้นประมาณร้อยละ 56 ใน MEB จ๊ะ!!!
***สวย-เก่ง-สตรอง!!! ยกให้ "คุณนุช-สินีนุช โกกนุทาภรณ์" แห่ง TEGH ไปเลยค่ะ!!! ครั้งนี้มาเปิดแผนธุรกิจปีนี้ให้รู้โดยทั่วกัน คือตั้งเป้าว่ารายได้จะเติบโตมากกว่า 10% โดยได้เล็งเจาะตลาดลูกค้ายางล้อในประเทศอินเดียและจีนเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการเติบโตสูง ขณะเดียวกันก้อเตรียมขยายกำลังการผลิตยางแท่งเพิ่มอีก 130,000 ตัน/ปี จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิต 320,000 ตัน/ปี นอกจากนี้คาดว่าโครงการขยายกำลังการผลิตไบโอแก๊สเฟส 1 เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในไตรมาส 1/66 จะเป็นปัจจัยหนุนให้ผลงานเติบโตแข็งแกร่ง
02-02-23 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ
***ยาวไป-ยาวไปๆๆๆๆ เลยลูกพี่ หลังจากที่ ครม. มีมติเห็นชอบหนังสือการอนุญาต (Letter of Authorization: LoA) ให้ดำเนินโครงการเปลี่ยนรถโดยสารประจำทางสาธารณะของภาคเอกชนเป็นรถโดยสารประจำทางไฟฟ้า (รถร่วมบริการ) ในพื้นที่ กทม. อ๊ะ-อ๊ะ-อ๊ะ!!! แบบนี้เรียกว่าเข้าทาง EA และบริษัทในเครือชัดๆ ไม่ว่าจะเป็น BYD และ NEX ใครยังไม่มีหุ้นทั้ง 3 ตัวนี้เก็บไว้ในพอร์ต ..เจ๊จิ๋มแนะนำให้สะสมด่วน!!!!
***ไม่ต้องบรรยายให้มากความสำหรับ EA เพราะส้มหล่นใส่แบบหนักมาก (EA และบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม 1.) กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล (B100) กลีเซอรีนบริสุทธิ์ ผลิตภัณฑ์พลอยได้ และสารเปลี่ยนสถานะ (ผ่านบริษัทฯ และบริษัทย่อย) 2.) กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (ผ่านกลุ่มบริษัทย่อย) 3.) กลุ่มธุรกิจอื่นๆ (ผ่านกลุ่มบริษัทย่อย) (3.1) ธุรกิจพัฒนา ผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่ (3.2) ธุรกิจบริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า (สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า), ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (3.3) ธุรกิจวิจัย และพัฒนา (3.4) ธุรกิจอื่น)
-FSSIA ให้ราคาเป้าหมาย 108 บาท แนะนำ Buy
-YUANTA ให้ราคาเป้าหมาย 105 บาท แนะนำ Trading Buy
***สำหรับ NEX ราคาในกระดานยังมีอัพไซต์อีกเยอะถ้าเทียบราคาเป้าหมาย (ทำธุรกิจ 1. ผลิตและรับจ้างผลิตชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า 2.จำหน่าย/ให้เช่ารถบัสโดยสาร ซ่อมบำรุง จำหน่ายอะไหล่รถบัสโดยสาร 3.ลงทุนในบริษัทย่อย)
-BLS ให้ราคาเป้าหมาย 24 บาท แนะนำBuy
-TNS ให้ราคาเป้าหมาย 22 บาท แนะนำ Buy
***แต่เสียดาย!!! สำหรับ BYD ยังไม่มีโบรกเกอร์ประเมินราคาเป้าหมายเอาไว้ เจ๊ก้อเลยไม่มีข้อมูลมาบอกอ่ะค่ะ แต่เจ๊มั่นใจสุดๆ ว่าหุ้นตัวนี้ดีเลิศ!!!! รออีกนิดเจ๊มั่นใจว่าทุกคนจะรู้ว่านี่คือหุ้นพื้นฐาน ที่มีความมั่นคง ธุรกิจอยู่ในเทรนด์และสามารถเติบโตได้อีกเย๊อะๆๆๆๆ
***เคาะราคาแล้วจ้าาาาา สุดยอดหุ้นในตอนนี้ต้องยกให้เค้าล่ะ MEB ผู้นำธุรกิจ e-book อันดับ 1 ของไทย กินมาร์เก็ตแชร์มากกว่า 60% ทิ้งห่างอันดับ 2-3-4-5 และอื่นๆ อีกมากมายแบบไม่เห็นฝุ่น กระทำการด้วยวิธี Bookbuild ของนักลงทุนสถาบัน ด้วยราคาสวยๆ หุ้นละ 28.50 บาท มีกำหนดเปิดจองซื้อวันที่ 3,6-7 ก.พ. 66 และจะเข้าเทรดในตลาด mai ในวันแห่งความรัก 14 กุมภาฯวันวาเลนไทน์ นักลงทุนที่สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บล.บัวหลวง, บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง และ บล.โนมูระ พัฒนสิน
***แว่วๆ ว่าเคสของ MEB นักลงทุนสถาบันให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง เจ๊ว่านะ..คงเป็นเพราะโมเดลธุรกิจเป็นเทรนด์แห่งอนาคต ที่มองเห็นการเติบโตเห็นๆ ดูไม่ยาก ลองมองกลับไปที่ลูกๆ หลานๆของพวกเราดิ!!! วันนี้ตั้งแต่อนุบาลเลย -หรือจะย้อนลึกลงไปกว่านั้นอีกก้อได้ เด็กน้อยวันนี้หยิบมือถือ-หยิบไอแพดขึ้นมาดูขึ้นมาอ่าน เด็กมหาวิทยาลัยก้ออ่านจากอุปกรณ์เหล่านี้ แม้แต่รุ่นพ่อ-แม่ของเราทุกวันนี้ก้อแทบไม่หยิบหนังสือแล้ว ติดมือถือกันทั้งเมือง แบบนี้ไม่เรียกว่าเป็นโมเดลธุรกิจที่เดินมาถูกทางแล้วได้ยังไง???? คำถามต่อมาคือ.. MEB จะเติบโตขึ้นและยิ่งใหญ่ได้แค่ไหน??? เจ๊ก้อตอบไม่ได้อ่ะนะ แต่ลองดูว่า Amazon ใหญ่มั้ย-เบอร์หนึ่งของโลกนะจ๊ะเทอ วันที่เริ่มต้นเค้าก้อเล็กๆ นะ มาถึงปัจจุบันโอว์ว์ว์ว์ ไม่พูดมาก-เด๋วเจ็บคอ 5555
***MEB นอกจากเป็นบริษัทที่ทำรายได้-กำไร เติบโตก้าวกระโดดมาโดยต่อเนื่องแล้ว ยังเป็นบริษัทปลอดหนี้อีกด้วย..ที่สำคัญในส่วนของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไม่ต้องวิตกเลยคู๊นนนนนนนน ภายหลังการขายหุ้น IPO กลุ่มผู้ก่อตั้งและบริหาร "รวิวร มะหะสิทธิ์ คุณกิตติพงษ์ แซ่ลิ้ม" จะถือหุ้นรวมกันประมาณร้อยละ 18.7 และบมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือ CRC ผ่านบริษัทย่อยในกลุ่มซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เดิม จะถือหุ้นประมาณร้อยละ 56 ใน MEB จ๊ะ!!!
***สวย-เก่ง-สตรอง!!! ยกให้ "คุณนุช-สินีนุช โกกนุทาภรณ์" แห่ง TEGH ไปเลยค่ะ!!! ครั้งนี้มาเปิดแผนธุรกิจปีนี้ให้รู้โดยทั่วกัน คือตั้งเป้าว่ารายได้จะเติบโตมากกว่า 10% โดยได้เล็งเจาะตลาดลูกค้ายางล้อในประเทศอินเดียและจีนเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการเติบโตสูง ขณะเดียวกันก้อเตรียมขยายกำลังการผลิตยางแท่งเพิ่มอีก 130,000 ตัน/ปี จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิต 320,000 ตัน/ปี นอกจากนี้คาดว่าโครงการขยายกำลังการผลิตไบโอแก๊สเฟส 1 เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในไตรมาส 1/66 จะเป็นปัจจัยหนุนให้ผลงานเติบโตแข็งแกร่ง
ที่เกี่ยวข้อง
